กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 932

sprite

ภายในป่าไผ่

เหวินเส่าอี๋ยืนอยู่บนปลายยอดต้นไผ่และเอามือไพล่หลังไว้ แววตาอันเยือกเย็นจับจ้องไปยังแสงไฟอันลุกโชน และเสียงแห่งการเข่นฆ่าผู้คนตระกูลไป๋หลี่

ข้างหลังของเหวินเส่าอี๋ยังมีผู้อาวุโสสวี่ที่มีอายุกว่าเจ็ดสิบปีอีกคนหนึ่ง

แม้ว่าผู้อาวุโสสวี่จะมีอายุมากแล้ว ทว่ากลับมีสติรับรู้อย่างดี แววตาของเขาเป็นประกาย ซึ่งแทบดูไม่ออกเลยว่าเป็นชายสูงวัยที่อายุเกินเจ็ดสิบแล้ว

ผู้อาวุโสสวี่กล่าว "เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่กลับสามารถควบคุมสัตว์ร้ายนับหมื่นได้ สามารถทำลายตระกูลไป๋หลี่ลงเช่นนี้ได้ วรยุทธ์ของกู้ชูหน่วนที่อยู่ในร่างของนางจะร้ายกาจมากเพียงใดกัน หัวหน้าเผ่า ปล่อยนางไปเช่นนี้ ทำถูกแล้วอย่างนั้นหรือ?"

"เจ้ามีวิธีการที่ดีกว่านี้อย่างนั้นหรือ?"

"ช่างเสี่ยงมากเหลือเกิน"

อีกทั้งหัวหน้าเผ่าแอบปล่อยนางออกไป หากผู้อาวุโสในเผ่าทั้งหลายรู้เข้าจะต้องโกรธอย่างมากแน่ๆ

สมมติว่าผู้หญิงคนนี้ นางสามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้เร็วเกินความคาดหมาย ถึงขั้นที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในหลายพันปีมานี้ แม้แต่หัวหน้าเผ่าของเขาก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

อีกทั้งนางยังเข้าใจสัตว์ร้าย สัตว์ร้ายนับหมื่นจึงนับถือนางเป็นเจ้าของ แม้แต่เทพแห่งอสูรร้ายโบราณก็ล้วนยอมจำนนต่อนาง

เกรงว่า......

หากคิดจะจับนางอีกครั้ง เช่นนั้นคงต้องใช้กำลังความสามารถไม่น้อย

นอกจากเขาแล้ว คนในเผ่าเพลิงฟ้าล้วนแล้วไม่มีใครรู้ว่าเขาแอบปล่อยมู่หน่วนออกไป

เขาเข้าใจว่าหัวหน้าเผ่ารีบร้อนและคิดอยากจะตามหาดวงวิญญาณของกู้ชูหน่วนให้ได้โดยเร็ว

ทว่าเขากลับรู้สึกว่าหัวหน้าเผ่ามีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง

เหวินเส่าอี๋กล่าวอย่างแผ่วเบา "ไม่ใช้เหยื่อ เช่นนั้นจะจับปลาได้อย่างไร"

"ตรวจสอบได้แล้วว่าคนที่แอบซุ่มโจมตีตระกูลไป๋หลี่คือองครักษ์ของจักรพรรดินี น่าแปลก เหตุใดจักรพรรดินีถึงส่งคนมาช่วยเหลือมู่หน่วน? หรือว่าจักรพรรดินีก็คิดจะทำลายตระกูลไป๋หลี่อย่างนั้นหรือ?"

ไม่ว่าตระกูลไป๋หลี่จะเก่งกาจมากเพียงใด อย่างไรเสียก็เป็นเพียงตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งเท่านั้น

จักรพรรดินีคิดอยากกำจัด มีมากมายหลายวิธีเหลือเกิน ทว่าพระนางกลับเลือกมู่หน่วน

ไม่ว่าอย่างไรก็ดูสมเหตุสมผลเอาเสียเลย

ผู้อาวุโสสวี่เงยหน้าขึ้นทันใดและกล่าวด้วยความตกตะลึง "หรือว่า......จักรพรรดินีต้องการครอบครองดวงวิญญาณของกู้ชูหน่วน?"

เหวินเส่าอี๋ยังคงนิ่งเฉย ราวกับว่าเป็นสิ่งที่คาดคิดมาก่อนแล้ว

ผู้อาวุโสสวี่อดไม่ได้จึงเดินไปข้างหน้าใกล้ๆ เหวินเส่าอี๋ ในใจของเขามีความสงสัยนับหมื่นนับพัน "หัวหน้าเผ่า......"

"ท่านว่า คืนนี้ตระกูลไป๋หลี่จะถูกกำจัดไปจนราบคาบเลยหรือไม่?"

"ข้าคิดว่าไม่เป็นเช่นนั้น ผู้อาวุโสของตระกูลไป๋หลี่ทั้งหลายต่างยังไม่ออกมากันเลย?"

เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ พวกเขายังไม่ออกมา แสดงให้เห็นว่าพวกเขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำ

จะเป็นเรื่องอะไรกันนะ?

ผู้อาวุโสสวี่คิดไม่ออก

เหวินเส่าอี๋กล่าวอย่างหนักแน่น "คืนนี้ตระกูลไป๋หลี่จะต้องถูกกำจัดและตายลงอย่างหมดสิ้นทั้งตระกูล"

ผู้อาวุโสสวี่ไม่สงสัยในคำพูดของเหวินเส่าอี๋เลยแม้แต่นิดเดียว ทว่า......

เป็นเรื่องที่ทุกคนแทบไม่อยากจะเชื่อ

ตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งที่มีประวัติสืบทอดต่อกันมากว่าพันปี จะต้องดับสลายลงด้วยเงื้อมมือของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง

ข้าน้อยเห็นว่า ควรจะหลอกล่อดวงจิตวิญญาณทั้งสามดวงในร่างกายของนางออกมาให้เร็วจะดีกว่า จากนั้นค่อยทำการฆ่านาง เพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาในภายหลัง ส่วนดวงวิญญาณนั้นพวกเราค่อยตามหาในภายหลัง ทว่านาง......มีความเสี่ยงอย่างมาก หากยังปล่อยให้นางเติบโตเช่นนี้

"ไปกันเถอะ เข้าไปดูกับข้า"

ไม่รอให้ผู้อาวุโสสวี่พูดจบ เหวินเส่าอี๋เขย่งปลายเท้า ท่ามกลางความมืด เขาติดตามกู้ชูหน่วนไปราวกับดวงวิญญาณ

นางช่างเหมือนกับกู้ชูหน่วนเหลือเกิน

เหมือนกันราวกับเป็นคนคนเดียวกัน

และเขาก็ไม่ต้องการปล่อยนางไป

ทว่าดวงวิญญาณช่างตามหายากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน เขาไม่สามารถรอนานเช่นนั้นได้

ยังมีหลายเรื่องที่ต้องให้นางช่วยจัดการ

และที่เขาคิดไม่ตกก็คือจักรพรรดินี

ดูเหมือนว่าจักรพรรดินีจะไม่รู้อะไรเลย

แต่ก็เหมือนว่าพระนางรู้ทุกอย่าง

พระนางช่างดูลึกลับเสียเหลือเกิน

ลึกลับจนไม่ว่าเขาจะตรวจสอบอย่างไร ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าจักรพรรดินีเป็นคนเช่นไรกันแน่

ไม่ไกลออกไป

ตระกูลซั่งกวน จักรพรรดินีและคนอื่นๆ ก็มองอยู่ภายนอก

เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนเดินเข้าไปยังเขตพื้นที่หวงห้าม ทุกคนต่างพากันเดินตามเข้าไป

ยังไม่ทันถึงเขตพื้นที่หวงห้ามก็เต็มไปด้วยด่านต่างๆ มากมาย

นอกจากการคุ้มกันอย่างแน่นหนาแล้ว ยังมีค่ายกลสังหารอีกจำนวนมาก

กู้ชูหน่วนและเจ้าเสือน้อยพาอสุรกายขั้นเทพไปเป็นจำนวนมาก ฝ่าฟันห้าด่าน สังหารหกขุนพล พื้นนองไปด้วยเลือด จนเวลาล่วงเลยมาถึงพระอาทิตย์ขึ้น ก็ไม่สามารถเข้าไปยังห้องลับได้

เวลาผ่านไปแล้วหนึ่งวันหนึ่งคืน การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป

เหวินเส่าอี๋กล่าว "ไปตามซือม่อเฟยมาเดี๋ยวนี้"

"หัวหน้าเผ่า......"

"จอมมารมีความชำนาญในเรื่องค่ายกล เขามีความถนัดในเรื่องการกำจัดฝ่าค่ายกลมากกว่าข้าและเยี่ยจิ่งหาน อีกทั้งยังเหนือกว่ากู้ชูหน่วน มีเขาอยู่ สามารถลดเวลาลงไปได้มาก"

เหวินเส่าอี๋ค่อนข้างประหลายใจ

เขารู้ว่าตระกูลไป๋หลี่นั้นไม่ธรรมดา ทว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่า ค่ายกลของตระกูลไป๋หลี่จะอำมหิตโหดร้ายมากเช่นนี้

หากไม่สามารถทำลายค่ายกลเหล่านี้ได้ เช่นนี้คงไม่สามารถเข้าไปยังเขตพื้นที่หวงห้ามที่ลึกที่สุดของตระกูลไป๋หลี่ได้

มีค่ายกลจำนวนมากที่เขาไม่สามารถกำจัดทำลายได้ ทว่ามู่หน่วนกลับสามารถกำจัดได้ทั้งหมด แต่ไม่ว่านางจะเก่งกาจมากเพียงใด

"ขอรับ ข้อน้อยจะรีบไปเดี๋ยวนี้"

ผู้อาวุโสสวี่หายไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางแสงแดดยามเช้า

ภายในเขตหวงห้ามของตระกูลไป๋หลี่

ไป๋หลี่ป้าและผู้อาวุโสสูงสุดจำนวนหนึ่งกำลังล้อมรอบค่ายกลเจ็ดดาวและท่องคาถาอย่างต่อเนื่อง

มีดวงวิญญาณเกือบจะโปร่งแสงดวงหนึ่งอยู่ภายในค่ายกลเจ็ดดาว

พวกเขากำลังแย่งชิงจิตในการรับรู้ทั้งหมดของดวงวิญญาณ

ผู้ดูแลเฉินเข้ามารายงานอย่างตื่นตระหนก

คนในตระกูลแทบจะต้านทานต่อไปไม่ไหวแล้ว สัตว์ร้ายเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแค่รัฐเยี่ย เกรงว่าสัตว์ร้ายทั้งดินแดนวิญญาณเยือกแข็งต่างพากันมาทั้งหมดแล้ว ผู้อาวุโสทั้งหลาย

ไป๋หลี่ป้าและผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหลายต้องเสียพละกำลังไปมากเพียงใด ไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะหาวิธีแย่งชิงจิตในการรับรู้ได้

และตอนนี้ก็เป็นเวลาสำคัญ ทว่ามู่หน่วนนางผู้หญิงชั่วคนนั้นกลับนำทัพสัตว์ร้ายบุกเข้ามายังตระกูลไป๋หลี่

ตามคาถาลับที่บรรพบุรุษหลงเหลือเอาไว้ให้ ตอนนี้ก็ควรจะได้ครอบครองจิตในการรับรู้ได้แล้ว

ทว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับดวงจิตในการรับรู้นี้ ผ่านไปนานเช่นนี้แล้วยังไม่สามารถควบคุมนางได้

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไป๋หลี่ป้าและคนอื่นๆ ต่างพากันโกรธเคือง

อ่าน กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 932 - ซีรีส์ที่ร้อนแรงที่สุดของผู้แต่ง อี้หมิง

โดยทั่วไปแล้วฉันชอบประเภทของเรื่องราวเช่น กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ story ดังนั้นฉันจึงอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างมาก ตอนนี้ บทที่ 932 มาพร้อมกับรายละเอียดหนังสือมากมาย อ่านไม่ออก! อ่าน กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 932 story วันนี้ ^^