กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 1060

สรุปบท บทที่ 1060 ค่ายกลทำลายวิญญาณ: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

สรุปตอน บทที่ 1060 ค่ายกลทำลายวิญญาณ – จากเรื่อง กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดย อี้หมิง

ตอน บทที่ 1060 ค่ายกลทำลายวิญญาณ ของนิยายInternetเรื่องดัง กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดยนักเขียน อี้หมิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

อี้หยุนเฟยแทบจะหายใจไม่ออก เขาทำได้เพียงอดทนและกล่าวออกมาว่า “ผู้หญิงสารเลวที่เจ้าพูดถึงก็คือน้องสาวของข้าใช่ไหม น้องสาวของข้าไม่รู้จักอี้เฉินเฟย เจ้า......เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”

“เข้าใจผิด? ฮึฮึฮึ.....ฮ่าฮ่าฮ่า......เจ้าว่า ใบหน้านี้ของเจ้าช่างดูหล่อเหลา หากไม่ลอกหนังหน้าของเจ้าออกมา เช่นนั้นจะไม่เป็นการทำลายสมบัติของธรรมชาติไปหน่อยหรือ?”

“เจ้าอยากจะสังหารข้าก็เชิญ แต่ก่อนที่ข้าจะตาย เจ้าตอบคำถามข้าสักสองสามข้อได้หรือไม่?”

ฮวาอิ่งกวาดสายตาไปรอบ ๆ ผู้คนโดยรอบไม่สามารถตอบโต้ได้อีกต่อไป นางปล่อยมือ จ้องมองอี้หยุนเฟยด้วยแววตาอันเยือกเย็นและกระแอมออกมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวออกมาอย่างอารมณ์ดี

“จะถามอีกแล้วงั้นหรือ ก็ได้ เจ้าถามมา”

“เจ้าเกลียดแม่ของน้องสาวข้า แต่นั่นเป็นจักรพรรดิองค์ก่อนที่เจ้าเกลียดจริง ๆ งั้นหรือ?” หากเกลียดจักรพรรดิองค์ก่อน เมื่อนางฆ่าเขาตายไปแล้ว เหตุใดถึงยังอาฆาตแค้นถึงเพียงนี้

บอกเขาไปตามตรง คนที่ผู้หญิงคนนี้เกลียดไม่ใช่จักรพรรดิองค์ก่อน

“แน่นอนว่าไม่ใช่ แต่มู่หน่วนเป็นลูกของผู้หญิงสารเลวนั่น”

อี้หยุนเฟยคิดจะถามออกไป แต่ฮวาอิ่งส่งสัญญาณให้เขาเงียบก่อน

“เจ้าสามารถถามได้มากสุดสองคำถาม คิดให้ดีก่อนแล้วค่อยถามออกมา”

“เยี่ยจิ่งหานกับเหวินเส่าอี๋เป็นพี่น้องแท้ ๆ กันหรือไม่”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา รอยยิ้มอันน่ากลัวตรงมุมปากของฮวาอิ่งค่อย ๆ กระชับขึ้น และดวงตาของนางก็คมชัดขึ้น

อี้หยุนเฟยกล่าวอย่างระมัดระวัง “เลือดของพวกเขาสามารถหลอมรวมกันได้ พวกเขาเป็นพี่น้องกันหรือไม่? พ่อของเยี่ยจิ่งหานที่เป็นหัวหน้าคนก่อนของเผ่าเพลิงฟ้าก็เป็นคนของเผ่าหยกงั้นหรือ?”

“ฮึฮึฮึ......ข้าไม่อยากตอบคำถามนี้”

“เจ้ารู้มากเกินพอแล้ว เวลานี้ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องถลกหนังของเจ้ามาให้ข้า มา ข้าจะช่วยเจ้าถลกมันออกมาเอง”

ฮวาอิ่งคว้าคอของอี้หยุนเฟยอีกครั้ง

ผู้อาวุโสโหรงและผู้อาวุโสฉีร้อนรนเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงหมดความสามารถในการต่อสู้

“ปล่อยฝ่าบาท ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้”

“หล่อเหล่าเหลือเกิน ข้าคิดว่าบนโลกใบนี้คงไม่สามารถหาชายใดที่หล่อเหล่ากว่าเจ้าได้แล้ว”

เล็บอันแหลมคมของอี้หยุนเฟยลูบไล้ไปบนใบหน้าของอี้หยุนเฟย รอยยิ้มอันชั่วร้ายตรงมุมปากของนางกว้างขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความต้องการ

แต่ในตอนที่นางกำลังจะลงมือ จู่ ๆ ร่างกายกลับสั่นเทา กระอักเลือดออกมาตรงมุมปาก แม้แต่อี้หยุนเฟยที่อยู่ในกำมือของนางก็หนีหลุดออกไปรวดเร็วดุจสายฟ้า

รูม่านตาของฮวาอิ่งเบิกกว้าง นางมองไปที่บาดแผลบนช่องท้องของนางด้วยความเหลือเชื่อ

ตรงบาดแผลมีวิญญาณชั่วร้ายระเหยออกมา

ค่ายกลทำลายวิญญาณนี้ เป็นค่ายกลที่นางกับเยี่ยจิ่งหาน เหวินเส่าอี๋รวมถึงอาม่อร่วมกันศึกษาและทดลองมาเป็นเวลานาน

พวกเขาสามคนรวมถึงนางล้วนเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกล โดยเฉพาะซือม่อเฟย แม้เขาจะโง่ แต่ในเรื่องของค่ายกล ในโลกใบนี้ก็คงไม่มีใครเทียบเขาได้

ค่ายกลโบราณเหล่านั้น ในสายตาของเขามันก็ไม่ต่างอะไรกับของเล่น

ด้วยเหตุนี้ การกลับรัฐอี้มาในครั้งนี้นางจึงได้พาตัวซือม่อเฟยมาด้วย

และค่ายกลทำลายวิญญาณนี้ก็เป็นค่ายกลที่มีไว้เพื่อจัดการฮวาอิ่งโดยเฉพาะ

“เป็นแค่มดปลวก แต่กลับสร้างค่ายกลที่มีพลังทำลายมากกว่าพลังชั้นสูงสุดระดับเจ็ด สร้างได้แม้กระทั่งค่ายกลทำลายวิญญาณโบราณ ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก”

“ขอบคุณสำหรับคำชม วันนี้เจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่”

กู้ชูหน่วนชักดาบยาวออกมา จิตสังหารพุ่งออกมาจากแววตาของนาง

ผู้หญิงคนนี้ไร้ความปรานี หากครั้งนี้ไม่จัดการนางให้สิ้นซาก เกรงว่าวันหน้าคงยากที่จะมีโอกาสเช่นนี้อีก

“ฮ่าฮ่าฮ่า......เป็นแค่หมากตัวเล็ก ๆ แม้แต่ตาเฒ่าของเผ่าหยกและนางผู้หญิงสารเลวนั่นยังไม่กล้าอวดดีถึงเพียงนี้ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร”

“แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? หญิงชราที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นงั้นหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์