สรุปตอน บทที่ 1079 ชัยชนะอยู่ตรงหน้า – จากเรื่อง กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดย อี้หมิง
ตอน บทที่ 1079 ชัยชนะอยู่ตรงหน้า ของนิยายInternetเรื่องดัง กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดยนักเขียน อี้หมิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เห็นได้ชัดว่าคำอธิษฐานของนางนั้นไร้ประโยชน์
เยี่ยจิ่งหานถอยกลับมา ถูกโจมตีจนจมลงกับพื้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เยี่ยจิ่งหาน ขอแค่เจ้าสังหารสามคนนั้นต่อหน้าข้า ข้าอาจจะเปลี่ยนใจและไว้ชีวิตเจ้า ลูกชายสุดที่รักของข้า”
“ฮึ ข้าบอกไปแล้ว ชีวิตนี้ของข้าเยี่ยจิ่งหานมีแม่เพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือพระสนมอวี้แห่งรัฐเยี่ย อดีตหัวหน้าเผ่าหยก แม่ผู้ให้กำเนิด อาหน่วน”
“จะยกย่องกันไปถึงไหน อย่างไรนางก็ไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดของเจ้า แต่ช่างมันเถอะ ยังไงข้าก็ไม่เคยคิดว่าเจ้าเป็นลูกชายของข้ามาก่อน เจ้าทำให้ข้าบาดเจ็บถึงเพียงนี้ วันนี้ เจ้าก็คงต้องถูกฝังอยู่ที่นี่ ข้าขี้เกียจจะเล่นกับเจ้าแล้ว”
แสงเริ่มพร่างพรายขึ้นมาเรื่อย ๆ พายุทรายพัดอย่างบ้าคลั่ง แม้กู้ชูหน่วนจะมองไม่ชัด แต่นางก็มองไปที่เยี่ยจิ่งหานด้วยความเป็นห่วง
นางทำได้เพียงอดทนกับความเจ็บปวดและพยายามยกมือและเท้าขึ้นเพื่อคืบคลานไปด้านหน้า
นางรู้สึกจุกแน่นอยู่ตรงหน้าอก ทำให้นางแทบหายใจไม่ออก
และในตอนที่นางกังวลอย่างสุดหัวใจ
จู่ ๆ นางก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอันน่าเหลือเชื่อของฮวาอิ่ง
“นี่......เจ้า......พวกเจ้า......พวกเจ้าวางแผน......วางแผน......แคก แคก......”
เหวินเส่าอี๋กล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “ข้าเป็นห่วงพ่อข้านั่นก็เพราะว่าเขาคือพ่อของข้า ดังนั้นข้าจะต้องทำให้เขาตายตาหลับ หากพ่อของข้ายังมีชีวิตอยู่ เขาไม่มีทางยอมให้ข้าสละชีวิตของตนเองเพื่อช่วยเขา และไม่มีทางยอมให้ข้าปล่อยคนชั่วช้าเช่นเจ้ารอดชีวิตกลับไปอย่างแน่นอน”
“เจ้าทำชั่วมาทั้งชีวิต ตายเสียเถิด”
พายุทรายที่โหมกระหน่ำหยุดตัวลง
แสงที่พร่างพรายก็หายไปเช่นกัน
ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เหวินเส่าอี๋ใช้โอกาสตอนที่เยี่ยจิ่งหานกำลังสู้กับฮวาอิ่ง เมื่อฮวาอิ่งเห็นว่าชัยชนะอยู่ตรงหน้า นางจะลดความระมัดระวัง เขาแทงเข้ามาทางด้านหลังทะลุถึงหัวใจของนาง โดยไม่มีการพลาดเป้าแม้แต่น้อย
ในตอนที่เหวินเส่าอี๋ลอบโจมตี เยี่ยจิ่งหานก็เปิดการโจมตีของเขาออกมาในขณะเดียวกัน ขลุ่ยหยกแทงเข้าไปในร่างของฮวาอิ่งอย่างสมบูรณ์ เลือดสีแดงไหลออกมาตามขลุ่ยหยกขาวอย่างต่อเนื่อง
และในขณะเดียวกัน จอมมารก็เปิดค่ายกลแสงแห่งการทำลาย กักขังเหวินเฉิงเทียนที่อยู่ในสภาพหุ่นเชิดไว้ด้านใน
พวกเขาทั้งสามไม่ได้พูดอะไรกันแม้แต่น้อย ไม่ได้ใช้สายตาในการส่งสัญญาณ แต่กลับร่วมมือกันได้เป็นอย่างดี
หากไม่เห็นกับตาคงไม่มีทางเชื่อ
ตอนนี้พวกเขาชนะแล้ว
เหวินเส่าอี๋เอาชีวิตเป็นเดิมพัน
เดิมพันว่าตนเองไม่มีทางตายด้วยเนื้อมือของเหวินเฉิงเทียน
เดิมพันว่าจอมมารจะสามารถควบคุมค่ายกลแสงแห่งการทำลายได้เป็นอย่างดี
เดิมพันว่าจอมมารได้ตกเป็นเป้าหมายของฮวาอิ่งอย่างสมบูรณ์
เยี่ยจิ่งหานเดิมพันว่าฮวาอิ่งจะลดความระมัดระวัง ทำให้การโจมตีของเขาและเหวินเส่าอี๋ประสมความสำเร็จ
หลังจากที่เหวินเส่าอี๋กล่าวว่าไปตายเสียเถอะ
เขาและเยี่ยจิ่งหานดึงดาบที่แหลมคมออกมา
ร่างกายของฮวาอิ่งเหมือนกับบ่อเลือดที่ถูกระเบิดออกมา
ในขณะเดียวกัน จอมมารได้แบ่งค่ายกลแสงแห่งการทำลายออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งกักขังฮวาอิ่ง โดยตั้งใจจะใช้ค่ายกลแสงแห่งการทำลายในการสังหารฮวาอิ่ง
ถูกค่ายกลแสงแห่งการทำลายขังเอาไว้ บาดแผลบนร่างกายของนางแข็งตัวขึ้นมาทันที การแหลกสลายของกล้ามเนื้อและผิวหนังของนาง สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ขอแค่ค่ายกลแสงแห่งการทำลายยังคงทำงานต่อไป พลังของมันก็เพียงพอที่จะทำให้ฮวาอิ่งแหลกสลายไปอย่างสมบูรณ์
“ดี ดี ดีมาก......ฮ่าฮ่าฮ่า......เด็กเหลืออย่างพวกเจ้าทำได้ดีมาก ข้าฮวาอิ่งคิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมีสภาพเช่นนี้เพราะเนื้อมือของพวกเขา”
“ข้าอยู่ในระดับมนุษย์ เป็นผู้คงกระพันในโลกใบนี้ ไม่มีผู้ใดสามารถสังหารข้าได้ พวกเจ้าเองก็ทำไม่ได้เช่นกัน ฮ่าฮ่าฮ่า......”
จอมมารพูดออกมาอย่างอึดอัด “จะมัวยืนทำอะไรกันอยู่ รีบเข้ามาช่วยเร็ว ข้าเริ่มทนไม่ไหวแล้ว”
เยี่ยจิ่งหานคืบคลานอยู่หลายครั้งแต่เขาก็ลุกไม่ขึ้น
เหวินเส่าอี๋เองก็ไม่ไหนไม่ได้
เหลืออีกแค่นิดเดียว
ไม่ว่าต้องทำอย่างไร พวกเขาก็ต้องทำให้สำเร็จ
พวกเขาทั้งสองยังเหลือพลังภายในอยู่อีกเล็กน้อย
พวกเขานำยาจื่อหยุนออกมาและกลืนมันลงไปสองสามเม็ด
ยาจื่อหยุนสามารถเพิ่มพลังให้กับผู้ที่กินมันไปได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ทำให้กลับมามีพละกำลังเหมือนเดิม
แต่หลังจากหมดฤทธิ์ยา ทั้งสองจะตกอยู่ในสภาพไม่ต่างอะไรกับตาย
นี่เป็นยาซึ่งมีฤทธิ์ร้ายแรงมาก ปกติแล้วคนทั่วจะไม่นำมาใช้
อีกอย่าง ยาชนิดนี้มีมูลค่าสูง คนทั่วไปนั้นไม่มียาจื่อหยุนอยู่ในครอบครอง
เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากเยี่ยจิ่งหานและเหวินเส่าอี๋ จอมมารก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย
กู้ชูหน่วนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อถูกแทงทะลุหัวใจ
คนทั่วไปไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
ส่วนคนที่ผิดปกติเองก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ดังนั้นด้วยสภาพดังกล่าว คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่านางบาดเจ็บสาหัสเพียงใด
จอมมารกล่าวว่า “ยายเฒ่าปีศาจ ข้าว่าเจ้ารีบนำยารักษาอาการบาดเจ็บจากลำแสงออกมาเสียที หรือว่ากำลังรอให้ข้าเข้าไปค้นด้วยตัวเอง?”
ตอนที่โจมตีเผ่าเพลิงฟ้า เยี่ยจิ่งหานเองก็เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
และเขาก็เป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในการทำลายล้างเผ่าเพลิงฟ้า
จอมมารตกใจจนแทบกระโดดขึ้น “โอ้พระเจ้า พวกเจ้าเป็นพี่น้องพ่อเดียวกันแต่ต่างแม่งั้นหรือ โลกนี้ช่างยุ่งเหยิงเหลือเกิน ข้าแยกแยะอะไรไม่ออกแล้ว”
“เช่นนั้น......ผู้ชายต้อยต่ำอย่างเหวินเฉิงเทียนที่ข้าจะอัญเชิญออกมาเมื่อครู่ก็คือพ่อของพวกเจ้า?”
เหวินเส่าอี๋แจ้งเตือนออกมา “ซือม่อเฟย หากเจ้าไม่ระวังคำพูดของเจ้าอีกละก็ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้เจ้าพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต”
จอมมารสนใจคำพูดของเหวินเส่าอี๋เสียที่ไหน
เขายังคงพึมพำออกมา
“ข้าอยากจะอัญเชิญผู้ชายสารเลวนั่นออกมา แต่อัญเชิญออกมาไม่ได้ และยังถูกยายเฒ่าปีศาจแย่งอัญเชิญออกมา เช่นนั้นข้าก็ถูกยายเฒ่าปีศาจแย่งความน่ารังเกียจไปงั้นหรือ?”
เสียงของเหวินเส่าอี๋ดังขึ้นทันที
“ซือม่อเฟย ข้าบอกไปแล้วว่าให้เจ้าระวังคำพูด บอกว่าอย่าพูดจาเสียหายกับพ่อของข้า เจ้าหูหนวกหรือไง?”
“ข้าถูกรังเกียจจริง ๆ เสียแล้ว”
หากไม่ใช่เพราะยังต้องควบคุมค่ายกลแสงแห่งการทำลายเพื่อสังหารฮวาอิ่ง
เหวินเส่าอี๋คงเข้าไปฉีกปากของจอมมารให้เป็นชิ้น ๆ
ปากนั่นช่างต่ำช้าเสียจริง
ห้ามเขาพูดอะไร เขาก็เอาแต่พูดมันออกมา
ฮวาอิ่งบิดคอของนาง แครก แครก
ดวงตาที่เย็นชาและไร้ความรู้สึกจับจ้องไปที่จอมมาร พร้อมกับหัวเราะด้วยรอยยิ้มแห่งความชั่วร้าย
และไม่รู้ว่านางรู้สึกเจ็บปวดกับร่างกายที่กำลังแหลกสลายไปหรือไม่
ใบหน้าของนางไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ มีเพียงรอยยิ้มอันน่าขนลุก
“ผู้ชายสารเลวนั่นก็เป็นพ่อของเจ้าด้วย?”
จอมมารยิ้มออกมา พร้อมกับก้มหน้าลง
“ความสามารถในการหว่านล้อมของเจ้าช่างต่ำเสียเหลือเกิน”
“เจ้าไม่เชื่องั้นหรือ?”
“เหตุใดข้าต้องเชื่อเจ้า? และต่อให้เขาเป็นพ่อของข้าหรือไม่ได้เป็น แล้วมันยังไง เขาจะเป็นหรือตายมันเกี่ยวอะไรกับข้า? ความเป็นอยู่ของเขามันเกี่ยวอะไรกับข้า?”
จอมมารก้าวเข้าไป ดวงตาของเขาน่ากลัวกว่านางหลายสิบเท่า
“แต่ข้าอยากรู้ว่า เมื่อไหร่เจ้าจะเอายารักษาออกมา เร็ว พวกเจ้าก็จะได้ไปพบกันในขุมนรก ไม่ใช่สิ......เจ้าจะถูกเขาทอดทิ้งต่อไป ถูกผู้ชายทั้งโลกทอดทิ้งเหมือนเช่นเคย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...