ในเวลานี้หัวใจของเขาว่างเปล่า
เขาคิดว่าการสังหารเซี่ยวอวี่เซวียนและกู้ชูหน่วนจะทำให้เขามีความสุข
แต่เหตุใดเขาถึงรู้สึกทุกข์ทรมานถึงเพียงนี้
แค่หายใจก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด
ไม่รู้ว่าระหว่างทางที่ผ่านมา เขาล้มลุกคลุกคลานไปกี่ครั้ง
ไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องเสียน้ำตาไปมากแค่ไหน
แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ มีเพียงภาพความทรงจำในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับกู้ชูหน่วนในอดีตเท่านั้นที่ท่วมท้นเข้ามาในความคิดของเขา
ยิ่งอยากลืมมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งฝังลึกมากเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง อี้หยุนเฟยจ้องมองแผ่นอักษรสีเหลืองในมือของเขา หลับตาลงอย่างสิ้นหวัง
ผู้อาวุโสอวี๋เต้นไม่เป็นจังหวะ “นายท่านน้อย ท่านคงไม่ได้คิดที่จะมอบแผ่นอักษรสีเหลืองให้พวกเขาใช่หรือไม่ หากไม่มีแผ่นอักษรสีเหลือง ท่านอาจจะต้องตาย”
“ไม่มีนาง ข้าก็ไม่ต่างอะไรจากตายทั้งเป็น
ท่านปู่อาวุโส ข้ารู้ว่าพวกท่านเป็นห่วงข้า ชีวิตของข้าหยุนเฟย เกรงว่าคงไม่อาจตอบแทนพวกท่านได้”
อี้หยุนเฟยมองไปที่กู้ชูหน่วนด้วยความอาลัยอาวรณ์
พวกเขารู้จักกันได้เพียงไม่นาน แต่เขา......เขารักนางสุดหัวใจ
แม้แต่......
แม้แต่ข้างกายของนางมีผู้ชายรายล้อมมากมายถึงเพียงนี้ เขาก็ยังเต็มใจที่จะเป็นหนังในวังหลังของนาง
อี้หยุนเฟยเดินเข้าไปหาเยี่ยจิ่งหานทีละก้าวพร้อมกับส่งแผ่นอักษรสีเหลืองในมือของเขาให้กับเยี่ยจิ่งหาน
“นายท่านน้อย ได้โปรดไตร่ตรองให้ดี หากท่านเป็นอะไรไป เช่นนั้นรัฐอี้จะต้องล่มสลาย”
“คุณชายเยี่ย เจ้าสามารถรักษานางได้หรือไม่?”
เยี่ยจิ่งหานพยักหน้า “ได้ เพียงแต่......”
หากอาหน่วนรู้ว่าเขาใช้แผ่นอักษรสีเหลืองในมือของเซี่ยวอวี่เซวียนเพื่อช่วยชีวิตนาง เกรงว่าชีวิตนี้นางคงไม่มีวันให้อภัยเขาเป็นอันขาด
อี้หยุนเฟยยิ้มอย่างอ้างว้าง
“เจ้าวางใจ พวกเจ้าไม่ได้เป็นคนแย่งแผ่นอักษรสีเหลืองมาจากข้า ข้าเป็นคนเต็มใจที่จะมอบมันให้กับพวกเจ้าเพื่อช่วยชีวิตนาง”
หัวใจของพวกผู้อาวุโสอวี๋เกือบจะแหลกสลาย
“ฝ่าบาททรงมอบแผ่นอักษรสีเหลืองให้กับนายท่านน้อยแล้ว นายท่านน้อยไร้ซึ่งประสบการณ์ พวกข้าไม่อาจปล่อยให้เขาทำตัดสินใจอย่างเลอะเลือน คุณชายเยี่ย โปรดคืนแผ่นอักษรสีเหลืองมาให้พวกเรา ไม่เช่นนั้นอย่าข้าว่าข้าไม่เตือน”
จอมมารกวาดสายตาไปยังพวกของเยี่ยจิ่งหาน ไม่อยากเก็บเศษเสี้ยวของวิญญาณที่เหลืออยู่ของกู้ชูหน่วน เขย่งปลายเท้า จากนั้นก็ไล่ตามเหวินเส่าอี๋ไป
เขาเพียงทิ้งไว้หนึ่งประโยคว่า “ที่นี่ยกให้เป็นหน้าที่ของเจ้า ข้าจะไปนำดวงวิญญาณอีกห้าดวงที่เหลือกลับคืนมา”
คำพูดของเขามีความหมายชัดเจน
เขาต้องการชุบชีวิตกู้ชูหน่วนกลับคืนมา
แต่ประโยคสุดท้ายที่กู้ชูหน่วนทิ้งไว้ หากใครกล้าแย่งแผ่นอักษรสีเหลืองมาจากอี้หยุนเฟย ต่อให้นางกลายเป็นวิญญาณ นางก็ไม่มีวันปล่อยพวกเขาไป
เขาไม่อยากผิดใจกับกู้ชูหน่วน แต่เขาก็อยากได้แผ่นอักษรสีเหลืองในมือของอี้หยุนเฟย ดังนั้นจึงปล่อยให้เยี่ยจิ่งหานเป็นคนจัดการ
ตนเองเพียงแค่ไปนำดวงวิญญาณอีกห้าดวงที่เหลือกลับคืนมาก็พอ
ชิงเฟิงกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “นายท่าน จอมมารหน้าไม่อาย ให้ข้าไล่ตามเขาไปหรือไม่ ให้เขากลับมาจัดการกับความวุ่นวายที่นี่ ส่วนพวกเราก็ไปนำดวงวิญญาณอีกห้าดวงที่เหลือกลับคืนมา”
“ไม่จำเป็น ใครอยู่ก็เหมือนกัน”
เยี่ยจิ่งหานกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “แผ่นอักษรสีเหลืองมีดวงวิญญาณเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เจ้าเองก็รู้ หากต้องการให้นางกลับมามีชีวิตอีกครั้ง จำเป็นต้องใช้ดวงวิญญาณอีกครึ่งหนึ่งในร่างกายของเจ้าด้วย แต่หากนำดวงวิญญาณนั้นออกมา เจ้า......เจ้าก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวออกมาด้วยความโกรธ “เยี่ยจิ่งหาน เจ้าจะทำเกินไปแล้ว หากพวกเรายังมีชีวิตอยู่ ถ้าเจ้าต้องการดวงวิญญาณของนายท่านน้อย เจ้าก็ต้องข้ามศพของพวกข้าไปก่อน”
ชิงเฟิงกัดฟันและมองไปยังพวกของผู้อาวุโสอวี๋
“ดวงวิญญาณบนร่างกายของเขาเดิมทีก็เป็นของพระชายาแห่งตระกูลของข้า เวลานี้พวกข้าก็แค่ต้องการมันกลับคืนมา แต่พวกเจ้ากลับคิดว่ามันเป็นของพวกเจ้าไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...