“นายท่าน องค์ชายลั่วอิ่งกลับมาแล้ว”
“พาข้าไปพบเขา”
“ขอรับ”
เยี่ยเฟิงเดินตามผู้รับใช้ในพระราชวังไปยังตำหนักที่หรูหราและเงียบสงบ
เขาบอกให้ทุกคนออกไป และเผชิญหน้ากับลั่วอิ่งตามลำพัง
พวกเขาคือพี่น้องที่แยกจากกันไปนานหลายปี
ใบหน้าและรูปลักษณ์ของพวกเขาคล้ายกันมาก
แต่ในวันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกัน
แม้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายจะไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี แต่เมื่อเยี่ยเฟิงได้พบกับลั่วอิ่ง ใบหน้าของเขาก็ยังมีรอยยิ้มแห่งความสุข
“ลั่วอิ่ง”
ลั่วอิ่งมองมาที่เขาด้วยความระมัดระวัง
สำหรับอดีตของเยี่ยเฟิง เขารู้ถึงมันเป็นอย่างดี
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังและเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เขารู้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
รวมถึง......
เขาหมดสติไปอย่างไม่มีเหตุผล จับเขาเข้าไปขัง จากนั้นก็ปลอมตัวเป็นตัวเองเพื่อไปอยู่ข้างกายของกู้ชูหน่วน
ด้วยการที่ตนเองเป็นมือสังหารมาเป็นเวลานาน ทำให้เขาไม่ห่วงในเรื่องของศักดิ์ศรีและความอับอาย สามารถควบคุมอารมณ์ความโกรธได้ดี
ทัศนคติที่ไม่แยแสของเขาทำให้ความสุขของเยี่ยเฟิงจมลงในทันที
“เจ้า......เจ้าเองก็ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างนั้นหรือ?”
ลั่วอิ่งเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเขาจึงส่ายหน้าออกมา “ไม่”
“ขอโทษ ที่ข้าทำลงไปครั้งที่แล้ว เพราะมันจำเป็น”
นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เห็นกู้ชูหน่วน เขาเพียงแค่อยากอยู่เตียงข้างนาง แต่เขาก็กลัวที่จะกลับมาอย่างกะทันหัน เนื่องจากมันก็ผ่านมาหลายปีมากแล้ว เขากลัวว่านางจะลืมเขา
ดังนั้นเยี่ยเฟิงจึงใช้ตัวตนของลั่วอิ่งเป็นเครื่องมือ
ท่าทางของลั่วอิ่งเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “ไม่เป็นไร ขอแค่เจ้าไม่ทำร้ายนาง จะใช้ตัวตนของข้านานแค่ไหนก็ไม่เป็นไร เพียงแค่......เจ้าเป็นคนสังหารเยี่ยจิ่งหานจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
“ดังนั้น......เจ้าจะมาแก้แค้นข้าแทนเยี่ยจิ่งหานอย่างนั้นหรือ?”
เยี่ยเฟิงหันหลังให้กับลั่วอิ่ง จ้องมองไปนอกหน้าต่างอย่างเดียวดาย
“เยี่ยจิ่งหานคือคู่ชีวิตของนายท่าน การที่เจ้าสังหารเยี่ยจิ่งหาน มันก็เหมือนกับการเอามีดแทงเข้าไปในหัวใจของนายท่าน และนายท่านก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรเลวร้ายกับเจ้าเลย”
“พวกเราสองพี่น้องไม่ได้เจอกันมากว่ายี่สิบปี เจ้าไม่มีเรื่องอื่นพูดกับข้าแล้วอย่างนั้นหรือ?”
ลั่วอิ่งผงะไปครู่หนึ่ง
ทำไมเขาจะไม่มีเรื่องพูด
เขามีคำพูดตั้งมากมายที่อยากจะพูดออกมา
เขาเองก็หวังว่าครอบครัวจะได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
และหวังว่าบนโลกนี้จะยังมีญาติของเขาหลงเหลืออยู่
แต่ว่า......
เขาเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่รู้ว่าจะพูดหรือแสดงออกมาอย่างไร
และการจากไปของเยี่ยจิ่งหาน มันทำให้นายท่านของเขาโศกเศร้าเป็นอย่างมาก
เขาเอง......ก็ทรมานใจเช่นกัน
“หากเจ้าไม่สังหารเยี่ยจิ่งหาน เรื่องราวทั้งหมดก็จะต่างออกไป”
เยี่ยเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น สายตาที่เขาจ้องมองมาที่ลั่วอิ่งค่อย ๆ เย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ
“ดังนั้นในใจของเจ้า ข้าที่เป็นพี่น้องแท้ ๆ ของเจ้า เทียบไม่ได้กับเยี่ยจิ่งหานที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าเลยงั้นหรือ”
พวกเขาจะไม่เกี่ยวข้องกันได้อย่างไร
นั่นคือคู่ชีวิตของนายท่าน
ในช่วงเวลาที่นายท่านหายไปตัวอย่างไร้ร่องรอย ตลอดระยะเวลาหลายปีนั้น วิธีการที่เยี่ยจิ่งหานใช้ตามหานายท่านของเขาทั่วทั้งมุมโลกมันยังตราตรึงอยู่ในดวงตาของพวกเขา
เนื่องจากในช่วงเวลานั้น เขาและฝูกวงได้ติดตามเยี่ยจิ่งหานไปโดยตลอด
ลั่วอิ่งไม่พูดอะไร
มันไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
แต่เป็นเพราะเขาลำบากใจเป็นอย่างมาก
หากเป็นคนอื่นที่ลงมือสังหารเยี่ยจิ่งหาน
เขาจะต้องแก้แค้นเป็นแน่
แต่คนที่สังหารเยี่ยจิ่งหานกลับเป็นเยี่ยเฟิง
คือพี่น้องที่เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกันกับเขา
หรือว่าจะให้เขาสังหารพี่น้องที่เหลืออยู่คนเดียวบนโลกใบนี้?
หากเป็นเช่นนั้น วิญญาณของพ่อและแม่ที่อยู่บนสวรรค์จะสงบได้อย่างไร
สองพี่น้องได้กลับมาพบกันอีกครั้ง พวกเขาไม่ได้กอดคอคุยกัน รำลึกถึงความหลังในวันวานที่ผ่านมา และไม่ได้พูดคุยกันหามรุ่งหามค่ำ
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ดูเหมือนว่ากำลังจะพังทลายไปทีละขั้นตอน
เยี่ยเฟิงพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “ตำแหน่งจักรพรรดิแห่งรัฐฉู่ เจ้าต้องการมันหรือไม่?”
ลั่วอิ่งตอบออกมาในทันใด “ข้าไม่เข้าใจเรื่องราชสำนัก ข้าเพียงแค่ต้องการติดตามนายท่านเท่านั้น”
อ่า......
ยอดเยี่ยม เพียงแค่ต้องการติดตามนายท่าน
ใครบ้างที่ไม่อยากติดตามกู้ชูหน่วน
ขนาดฝันเขายังอยากทำเช่นนั้น
เยี่ยเฟิงกล่าวออกมา “ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการ เช่นนั้นข้าจะเป็นผู้สืบทอดราชย์บัลลังก์แห่งรัฐฉู่แทนพ่อแม่ที่จากไป ขอแค่ข้ายังมีลมหายใจอยู่ ข้าจะทำให้รัฐฉู่ร่มเย็น และสงบสุข”
“ส่วนเจ้า หากเจ้าเต็มใจที่จะติดตามข้าเพื่อดูแลปกครองรัฐฉู่ เจ้าก็สามารถอยู่ที่นี่ได้ แต่หากไม่ต้องการ......ก็แล้วแต่เจ้า หากวันไหนเจ้าอยากกลับมา ประตูของรัฐฉู่ยินดีที่จะเปิดต้อนรับเจ้าตลอดไป”
เยี่ยเฟิงจากไปแล้ว ลั่วอิ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่พูดอะไร
เขากุมหัวใจของเขาด้วยความเจ็บปวด
ทุกถ้อยคำที่เยี่ยเฟิงกล่าวออกมา มันทิ่มแทงไปถึงก้นบึ้งหัวใจของเขา
เช่นนี้มันจะไม่เป็นการทำร้ายอีกฝ่ายมากเกินไปงั้นหรือ อีกฝ่ายจะต้องทุกข์ทรมานแค่ไหน
เห็นได้ชัดว่าเยี่ยเฟิงเองก็ไม่ได้ต้องการขึ้นไปอยู่บนราชย์บัลลังก์แห่งรัฐฉู่
หลายปีที่ผ่านมา เขาต้องทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก แต่ชีวิตที่เหลือยังต้องมาผูกมัดกับรัฐฉู่ แบกรับเกียรติและความอับอายของราษฎรนับล้านในรัฐฉู่แห่งนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...