กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 264

ดวงพระเนตรของอัครมเหสีฉู่ทรงแดงขึ้นอย่างน่าประหลาดโดยหางพระเนตรซึมขึ้นด้วยน้ำตาอันร้อนแต่ก็ทรงแย้มพระสรวล “หากว่าเจ้าไม่รังเกียจก็ถือซะว่าข้าเป็นท่านแม่ของเจ้า เพียงแค่เจ้าเหนื่อยแล้วอ่อนหล้าแล้ว เจ้าสามารถมาที่ข้านี่ได้ตลอดเวลาเลย"

ร่างเยี่ยเฟิงนั้นตรงทื่อ

ราวกับว่ากลั้นน้ำตาอย่างสุดชีวิตเขาจึงสามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้

“ขอบคุณฮูหยินที่รักใคร่ เพียงแต่ว่าเยี่ยเฟิงไร้วาสนาที่จะได้รับ”

เขาทั้งสกปรกและอัปมงคล ผู้ที่อยู่กับเขาไม่มีทางลงเอยด้วยดีได้

ด้วยคำพูดนี้ของนางเขานั้นมีความสุขและพอใจยิ่งนักแล้ว

เมื่อได้ยินเช่นนี้อัครมเหสีฉู่ก็ทรงรู้สึกว่างเปล่าในพระทัย ไม่รู้ว่าเนื่องด้วยเหตุใดพระนางทรงปวดใจต่อเยี่ยเฟิง แม้เพียงแค่เยี่ยเฟิงขมวดคิ้วก็สามารถทำให้พระนางเจ็บปวดพระทัยราวกับถูกเข็มทิ่มแทง

โดยเฉพาะท่าทางที่เขาพยายามจะอดกลั้นสุดชีวิต......

ความสงสัยได้บังเกิดขึ้นในพระทัยอีกครั้ง

อัครมเหสีฉู่ทรงถามอีกครั้งว่า “ปีนี้เจ้าอายุสิบเก้าปีจริงๆหรือ? เจ้าบอกว่าเจ้าป็นเด็กกำพร้าแล้วเป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าจะจำผิด หรือว่ามีคนบอกเจ้าผิดพลาดไป?”

“ท่านยายของข้าไม่มีทางโกหกข้า”

“แล้วเจ้าเกิดในเดือนใด? เกิดในฤดูใบไม้ร่วงหรือเปล่า?”

"ไม่ใช่ ข้าเกิดในฤดูใบไม้ผลิ"

กู้ชูหน่วนสงสัยว่าพวกเขาเป็นแม่ลูกกัน เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ท่านยายเยี่ยเคยบอกว่าพวกเขาเก็บเยี่ยเฟิงได้ที่ใต้ต้นเยี่ยเฟิงในลานทาสซึ่งกำลังเป็นฤดูใบไม้ร่วง

ในเมื่อเป็นฤดูใบไม้ร่วงเหตุใดเยี่ยเฟิงถึงบอกว่าเขาเกิดในฤดูใบไม้ผลิ?

อัครมเหสีฉู่รู้สึกคล่องพระทัยราวกับว่าหากถามไม่ได้ผลลัพธ์พระองค์ทรงไม่ยอมแพ้ "เจ้าเกิดในฤดูใบไม้ผลิ เหตุใดถึงชื่อเยี่ยเฟิง?"

“ข้าชื่อเยี่ยเฟิง เฟิงที่หมายถึงสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิมิใช่ต้นเยี่ยเฟิง ฮูหยินรักษาตัวด้วย......”

เยี่ยเฟิงกลัวว่านางจะถามต่อไปอีกแล้วตนเองไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรจึงทำได้เพียงรีบเร่งจากไป

ในใจของเขามีคำพูดมากมายก่ายกองก็ทำได้เพียงแปรเปลี่ยนไปเป็นรักษาตัวด้วยเท่านั้นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์