กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 436

สรุปบท ตอนที่ 436: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

ตอนที่ 436 – ตอนที่ต้องอ่านของ กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

ตอนนี้ของ กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดย อี้หมิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 436 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เยี่ยจิ่งหานรวบรวมพลังของเขาและพยายามปรับลมปราณของตัวเอง ทำให้ตัวเองอยู่ในสภาวะที่ดีที่สุด กำจัดพิษที่ตกค้างอยู่ในขาของเขาและฟื้นฟูวรยุทธ์โดยไว

ไข่มุกมังกร เขาก็ต้องครอบครองมันให้ได้เช่นกัน

บนที่ราบของภูเขาทางทิศตะวันตก

สถานการณ์ของอี้เฉินเฟยยิ่งอยู่ยิ่งแย่ขึ้น

กู้ชูหน่วนพยายามอย่างดีที่สุด แต่ก็มิพบสาเหตุของการเจ็บป่วยได้และยิ่งมิสามารถรักษาร่างกายที่ค่อย ๆ ทรุดโทรมของเขาได้

นางเริ่มหวาดหวั่นขึ้น

นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกไร้หนทางอย่างสุดซึ้ง

ฝูกวงยืนรออยู่เคียงข้าง ใบหน้าที่บอบบางและสะอาดราวกับทารกไร้ซึ่งความรู้สึกราวกับว่าหมดหนทางกับทั้งหมดนี้แล้วจริง ๆ

กู้ชูหน่วนสังเกตเห็นสีหน้าของเขาและถามว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นโรคอันใด?”

“ข้าน้อยมิอาจรู้ได้ขอรับ”

“เจ้าเคยเป็นคนของเขามาก่อน ข้าอยากถามเจ้า ในอดีตอาการเจ็บป่วยของเขาเช่นนี้กำเริบบ่อยครั้งใช่หรือไม่?”

“เคยกำเริบอยู่ขอรับ แต่ทว่ามีหมอเทวดาท่านหนึ่งระงับเลือดของเขา…และอาการบาดเจ็บของเขาไว้ได้ อาการของท่านประมุขจึงมิกำเริบมานานแล้วขอรับ”

“หมอเทวดาท่านใดกัน? เขาอยู่หนใด ข้าจะไปพบเขา” สายตากู้ชูหน่วนมีความหวัง

แต่สายตาของฝูกวงกลับมืดลง

หมอเทวดาท่านใดงั้นรึ?

ต้องเป็นนางอย่างแน่นอน

ในอดีต นางใช้กำลังภายในสูงสุดของนางทั้งยังต้องชดใช้ค่าตอบแทนอย่างมากถึงจะควบคุมประมุขชิงไว้ได้

ในเผ่าของเขา อาการของประมุขชิงมิกำเริบเป็นเวลาหนึ่งปีนั้นก็เป็นเรื่องน่าริษยาสำหรับทุกคนแล้ว

สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทุกวันในเผ่า

เมื่อนึกถึงผู้คนในเผ่า ในทุกเผ่าเมื่อคำสาปเลือดมนุษย์กำเริบขึ้นก็เจ็บปวดราวจะสิ้นชีพ รวมทั้งหมดสติและกลายเป็นคนกระหายเลือดและโหดร้าย เป็นเครื่องมือในการสังหารมนุษย์ ภาพความเสียใจและสำนึกผิดหลังจากสังหารครอบครัวของตน ทำให้ฝูกวงกำมือแน่นจนเสียงดังกึก

“เหตุใดจึงไม่พูดต่อแล้วล่ะ?”

“นายท่านขอรับ ตามหาหมอเทวดาท่านนั้นพบก็มิเป็นประโยชน์ ในตอนนั้นนางได้ใช้ทักษะทุกอย่าง แต่ก็ทำได้เพียงระงับอาการของประมุขชิงได้เท่านั้น มีเพียงรวบรวมไข่มุกมังกรให้ครบเจ็ดลูกเท่านั้น ถึงจะรักษาให้หายขาดได้ขอรับ ฝั่งนิกายเทพอสูรเสียตัวแทนไปมากมายจึงพบแล้วสี่ลูก ยังเหลืออีกสามลูกที่ยังหามิพบขอรับ”

ไข่มุกมังกรเจ็ดลูกงั้นรึ?

บนหุบเขาโลหิตหูหลูมีอยู่หนึ่งลูกมิใช่หรือ?

หากพบเจอแล้วก็จะรวบรวมครบสี่ลูก

กู้ชูหน่วนมองไปยังคอขวดของหุบเขาโลหิตหูหลู

หากมีเพียงไข่มุกมังกรที่สามารถช่วยเขาได้ เช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องหาไข่มุกมังกรให้พบจนได้

กู้ชูหน่วนคลุมเสื้อคลุมให้กับอี้เฉินเฟยที่กำลังสลบอยู่ส่วนตนนั้นกำลังวาดบางสิ่งอยู่บนพื้น ในตาก็เกิดแผนการขึ้นมาเรื่อย ๆ

ฝูกวงทราบดีว่านายท่านกำลังวางแผน นางต้องการไข่มุกมังกรลูกนั้น

“ครั้งนี้ นิกายเทพอสูรของพวกเจ้ามากันกี่นาย?”

“ผู้นำนิกายเคยสั่งไว้ว่านิกายเทพอสูรนั้นมิเข้าร่วมการชิงไข่มุกมังกร เช่นนั้นนิกายเทพอสูรนอกเสียจากประมุขชิงแล้วก็มิมีผู้ใดแล้วขอรับ”

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วแน่น

“ไม่มีผู้ใดมาเลยงั้นหรือ?”

“ขอรับ แต่ทว่าฝั่งเผ่าหยกนั้นมียอดฝีมือมากันมิน้อยขอรับ”

“เผ่าหยกงั้นรึ? นั่นเป็นเผ่าอันใดอีกกัน?” เหตุใดนางถึงมิเคยได้ยินมาก่อน

“เผ่าหยกเป็นเผ่าโบราณเผ่าหนึ่งขอรับ เหมือนกับเผ่าเพลิงฟ้าที่มีประวัติศาสตร์มานับพันปี ความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าหยกกับเผ่าเพลิงฟ้านั้นมิสู้ดีนัก แต่กลับมีความสัมพันธ์อันดีต่อนิกายเทพอสูรของเรา กล่าวตามจริงประมุขชิงก็เป็นคนของเผ่าหยกด้วยเช่นกันขอรับ นิกายเทพอสูรเป็นเพียงสถานที่ปิดบังตัวตนของเขาขณะอยู่ในโลกมนุษย์เท่านั้น”

“เพราะเช่นนั้น คุณชายสามแห่งนักปราชญ์ขงจื๊อ เพราะว่าต้องการปิดบังที่เขาเป็นประมุขชิงแห่งนิกายเทพอสูร ทั้งยังปิดบังเรื่องที่เขาเป็นคนของเผ่าหยดด้วยอย่างนั้นหรือ”

“ขอรับ”

“แล้วเหตุใดเขาจึงมิเปิดเผยที่ตนเป็นคนของเผ่าหยกออกมาเลยล่ะ? หรือเกรงว่าคนของเผ่าเพลิงฟ้าจะไล่ล่างั้นรึ?”

แต่ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างนิกายเทพอสูรกับเผ่าเพลิงฟ้านั้นเหมือนดั่งน้ำกับไฟ แม้นว่าไม่เปิดเผยตัวตนออกมา เผ่าเพลิงฟ้าก็มิอาจปล่อยเขาไปได้เช่นกัน

อัครมเหสีฉู่หยิบขนมโก๋ดอกไม้ยื่นให้เขาหนึ่งชิ้น

เนินเขาอันแห้งแล้งมีสองแม่ลูกกำลังจ้องตากันยิ้ม แม้นว่าจะเป็นขนมโก๋ดอกไม้ธรรมดา แต่กลับเป็นอาหารอันโอชะสำหรับพวกเขา

“ดูเสื้อของเจ้าสิ ขาดเพียงนี้แล้ว ข้ามอบเสื้อให้เจ้าชุดหนึ่งมิใช่หรือ? เหตุใดจึงไม่สวมใส่มันกัน”

เยี่ยเฟิงถู ๆ เสื้อของตน เสื้อของเขาขาดไปหมดและเต็มไปด้วยเลือดทั้งชุด ทำได้เพียงปิดบังร่างกายได้เล็กน้อยเท่านั้น

“รอให้ออกจากที่นี่แล้วข้าจะสวมใส่มันขอรับ”ชุดสวยงามเยี่ยงนั้น เขาจะทำใจใส่ได้อย่างไรกัน

“ดีเลย รอให้ออกจากที่นี่แล้ว ข้าจะตัดชุดให้เจ้าอีกสองสามชุด”

“ขอบพระทัยฮูหยินขอรับ”

“ลูกเอ๋ย เจ้า….ไหล่ด้านหลังของเจ้าขอข้าดูทีได้หรือไม่”

อัครมเหสีฉู่กล่าวอยู่และยื่นมือออกไปอย่างควบคุมตัวเองมิได้

เยี่ยเฟิงตกใจจนถอยหลังไปกี่ก้าว “ฮูหยินขอรับ เยี่ยเฟิงเป็นเพียงผู้อ่อนแอเท่านั้น หากทำให้ฮูหยินตกใจเข้า คงมิเป็นการดีขอรับ”

“ข้าเพียงแค่อยากดูครั้งเดียว…เท่านั้น เช่นนั้น เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าตรงไหล่ด้านหลังของเจ้านั้นมีปานอันใดหรือไม่”

เขาเป็นผู้คอยปรนนิบัติ คงจะกลัวผู้อื่นต้องตัวเขามากแน่

คราวก่อนที่ต้องตัวเขา เขาก็ตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นกัน

“ฮูหยินขอรับ ท่านถามข้ามาหลายคราแล้วว่าไหล่ด้านหลังของข้ามีปานอันใดหรือไม่”

“นั้นหรือ…”อัครมเหสีฉู่กึ่งเชื่อกึ่งสงสัย ทานขนมโก๋ดอกไม้อย่างไร้รสชาติเสียแล้ว

มิรู้ว่ากู้ชูหน่วนปรากฎตัวเมื่อใดกัน นางกล่าว “พวกท่านทั้งสองล้วนเจ็บหนัก สภาพอากาศที่นี่ไม่สู้ดีนัก หากฝืนอยู่ที่นี่ต่อไป เกรงว่าคงมิอาจช่วยชีวิตพวกท่านได้ ข้าจะให้คนส่งพวกท่านออกจากที่นี่เสียก่อน”

“แล้วเจ้าล่ะ”

“ข้าจะออกจากที่นี่ช่วงค่ำ” ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังพูดอยู่ก็คอยมองคอขวดของหุบเขาโลหิตหูหลูอย่างถี่ ๆ

หัวใจของเยี่ยเฟิงเต้นและรู้ได้ในบางสิ่งบางอย่างอย่างกะทันหัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์