กู้ชูหน่วนยิ้มอย่าจำใจจนปัญญา นางยอมปล่อยให้เขาจับมือเล็ก ๆ ของนางไว้ จากนั้นพากันกลับด้วยสายตาที่อิจฉาและแปลกใจของคนมากมาย
ภายในจวนหานอ๋อง
เยี่ยจิ่งหานไม่รู้ว่าให้คนเตรียมโต๊ะอาหารอันโอชะไว้เมื่อใด กู้ชูหน่วนกวาดสายตามอง มีทั้งหมดยี่สิบแปดอย่าง และจานอาหารแต่ละชนิดล้วนเป็นอาหารจานโปรดของนาง ดูออกเลยว่าเยี่ยจิ่งหานใช้ใจ
ระหว่างการเดินทางที่ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ นางก็หิวจนท้องไส้ร้อง พอเห็นแบบนี้นางเลยหยิบตะเกียบขึ้นมากินคำใหญ่คำโตอย่างไม่สนใจสิ่งอื่นแล้ว
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่รัดพัวพันอยู่บริเวณข้อมือได้กลิ่นความหอมหวลของเนื้อ มันจึงกระโดดขึ้นและมองดูโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารอย่างตะกละตะกลาม
กู้ชูหน่วนเห็นปากของมัน หางยกขึ้นสะบัด จึงยกมันขึ้น กล่าวว่า“ข้ากินข้าว เจ้างูน้อยอย่าวอแวเข้ามา”
“ซือซือ…..นายท่าน ข้าหิวแล้ว”
“เจ้าควรบอกข้า มีวันไหนที่เจ้าไม่หิวบ้าง”
“เยอะขนาดนี้ ท่านก็กินไม่หมดหรอก ให้ข้ากินด้วยนะ ดูสายตาที่น่าสงสารของข้าสิ”
“ไปได้แล้ว แกล้งทำตัวน่าสงสารให้มันน้อยหน่อย”
กู้ชูหน่วนทิ้งมันออกไปทันที
ตั้งแต่ออกมาจากเผ่าหยก นางไม่ได้กินเนื้อสักคำ ทั้งหมดเติมเต็มในท้องมันหมด
นอกจากนี้ ตั๋วเงินที่นางนำมาได้ซื้อเนื้อให้มันทั้งหมด แม้กระทั่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับของนางก็จำนำซื้ออาหารให้มัน ดังนั้นนางจึงใช้ตั๋วเงินไม่กี่ตำลึงเพื่อซื้อเสื้อผ้าเนื้อผ้าหยาบกร้านมาสวมใส่ เลยถูกคนลวนลามคิดว่านางเป็นลูกคนยากจน
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงซือซือปีนป่ายขึ้นมาอีกครั้ง มันเตรียมตัวจะแอบกินเนื้อตอนที่กู้ชูหน่วนเผลอไผล
แต่ทว่ากลับคิดไม่ถึงเลยว่า หางของมันจะถูกดึงยกขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้คนที่ดึงมันไม่ใช่กู้ชูหน่วน แต่เป็นเยี่ยจิ่งหาน
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์โมโหมาก จึงหันไปแยกเขี้ยวยิงฟันใส่เยี่ยจิ่งหาน
นายท่านของมันดึงหางก็ไม่เป็นไร แม้แต่คนโง่ไร้สติผู้นี้ก็กลั่นแกล้งมันด้วย
มันเป็นเจ้าแห่งสัตว์ร้าย ราชางูเชียวนะ
“ซือซือซือ……”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ดิ้นรนขัดขืน แต่ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่รู้ว่ามีพละกำลังมาจากไหน เพียงแค่จับ ความแข็งแกร่งที่มีมาแต่ดั้งเดิมของมันยังไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้เลย
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เดือดดาลเป็นที่สุด กำลังคิดที่จะเปลี่ยนเป็นงูเหลือมยักษ์ ทันใดนั้นได้ยินเยี่ยจิ่งหานกล่าวขึ้นว่า
“เจี้ยงเสวี่ย ไปเอาหมูย่างสิบตัวมาให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กิน”
ใบหน้าที่ทุกข์ระทมของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มโดยทันใด
มันเปล่งเสียงซือซืออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวชื่นชมว่า“คนดี คนดีเสียจริง”
กู้ชูหน่วนเหลือบมองเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ปากกล่าวออกมาว่า“ไม่มีจิตใจที่เข้มแข็งหยิ่งทรนง”
“ซือซือ…..นายท่าน ข้าเป็นงู ไม่ต้องมีจิตใจเข็มแข็งหยิ่งทรนงหรอก”
“เจ้าไปได้แล้ว ออกไปข้างนอกอย่าบอกว่ารู้จักข้า ข้าอายคน”
ซือซือซือ……
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กวัดแกว่งหางอย่างมีความสุข แล้วเลื้อยขึ้นบนร่างกายของเจี้ยงเสวี่ย เพื่อตามเขาไปกินหมูย่าง
ตอนที่กู้ชูหน่วนยังไม่กลับมา เยี่ยจิ่งหานเตรียมคำพูดไว้มากมาย แต่พอเห็นนางกินอาหารอย่าตะกละตะกลาม ท่าทางอิดโรย ก็ไม่รู้ว่านางไม่ได้กินดีอยู่ดีมากี่วันแล้ว เพราะฉะนั้นความโกรธเลยแปรเปลี่ยนเป็นเห็นอกเห็นใจ
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า“กินช้าๆ ไม่มีผู้ใดแย่งหรอก”
ชิงเฟิงเกือบจะล้มลง
เขานึกว่าตนเองได้ยินผิด
ตอนที่พระชายายังไม่กลับมา นายท่านไม่ใช่พูดอยู่ตลอดว่าจะสับให้ละเอียดเป็นชิ้นๆเลยหรือ?
แม้ว่าการสับละเอียดเป็นชิ้นๆจะดูเกินจริงไปสักหน่อย
แต่ทว่านายท่านเดือดดาลมากเป็นเรื่องจริง
เขานึกว่า ตอนที่พระชายากลับมาจะต้องน่วมเละหมดสภาพแน่
แต่ตอนนี้…..
นี่คืออะไรกัน?
นายท่านแกะกุ้งให้พระชายาเองด้วย พร้อมกับเช็ดคราบนั่นนี่ที่ปากให้......
นี่ๆๆๆๆๆ…….
สรุปว่าผู้ใดคือนายท่าน?
เป็นอย่างนั้นจริงๆ ที่คนอื่นบอกว่าเมื่อชายหนุ่มมีภรรยาแล้วจะแปรเปลี่ยนไป คำกล่าวพูดนี้ไม่ผิดเลยสักนิดหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...