แขนเสื้อของเขาเปื้อนน้ำมูกและน้ำตา เห็นเช่นนี้ซั่งกวนฉู่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาทนการออดอ้อนของกู้ชูหน่วนไม่ไหวยิ่งทนน้ำตาของนางไม่ได้จึงทำได้เพียงเสียงอ่อนลง "ช่างเถอะปิ่นระย้าหยกขาวสามารถให้ท่านก่อนได้ แต่ว่า ท่านต้องสัญญาว่าตอนจบของนิทานจะต้องเขียนให้ดี"
โดยเฉพาะโครงเรื่องของเฟิงหลิงต้องเขียนให้ดี
ทางที่ดีควรจัดให้เฟิงหลิงและนางเอกหยางฉู่รั่วอยู่ด้วยกัน
กู้ชูหน่วนปลื้มปิติ "ได้ รับรองว่าจะจัดการให้เรียบร้อยท่านอาจารย์วางใจได้ ข้าจะเขียนให้ดีจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังอย่างแน่นอนและจะไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังเป็นแน่ ท่านอาจารย์สามารถให้ปิ่นระย้าแก่ข้าก่อนได้หรือไม่"
ซั่งกวนฉู่หยิบปิ่นระย้าออกจากอก ยังไม่ทันจะมอบให้กู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนก็แย่งไปและวางเอาไว้ในฝ่ามือโดยที่เล่นไม่หยุด
ดูรอยยิ้มในดวงตาของนางและแววตาที่ชื่นชอบยิ่งนัก
ซั่งกวนฉู่ก็มีความสุขไปด้วยอย่างอธิบายไม่ได้
แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลใดในใจของเขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
เกรงว่านิยายเรื่องนี้จะขาดตอนลง
ด้วยนิสัยของนางยังจะเขียนต่ออยู่หรือเปล่า?
ไม่เพียงแค่เขาที่มีลางสังหรณ์นี้ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็มีลางสังหรณ์นี้ด้วยเช่นกัน
กู้ชูหน่วนยิ้มและกล่าวว่า "ขอบคุณท่านอาจารย์ซั่งกวน"
“นี่เป็นสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับเพียงแค่หวังว่าคุณหนูสามกู้จะไม่ลืมเรื่องที่ตนเองรับปากไว้”
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเฉยเมยว่า "ไม่ลืมหรอก ไม่ลืมหรอก แต่ว่าท่านอาจารย์ข้าขอถามท่านหน่อยได้หรือไม่ว่าปิ่นระย้าหยกขาวรูปผีเสื้อนี้ท่านได้มาจากที่ใดข้ามองดูฝีมือช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก หากเป็นไปได้ข้าต้องการให้อาจารย์ผู้ทำปิ่นระย้าหยกขาวชิ้นนี้ทำเครื่องประดับอีกสองสามชิ้น”
ซั่งกวนฉู่ย่อมไม่บอกว่าอยู่แล้วว่านี่เป็นของที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา
ยิ่งไม่สามารถบอกว่านี่เป็นของสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นและจะมอบให้เพียงแค่สะใภ้ของตระกูลเหวินของพวกเขาเท่านั้น
เขากล่าวเบาๆว่า "ได้มาโดยบังเอิญข้าก็ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนทำขึั้น"
กู้ชูหน่วนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย "ดังนั้นเกี่ยวกับเบื้องหลังของปิ่นระย้าชิ้นนี้ท่านก็ไม่รู้หรือ?"
“คุณหนูสามกู้คิดว่าข้าควรรู้สิ่งใดบ้างหล่ะ?”
ฝ่ามือของซั่งกวนฉู่บีบแน่นพร้อมกับใจเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย
คำพูดนี้ของนางหมายความว่าอย่างไร?
รู้ว่าปิ่นระย้านี้ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของพวกเขา?
ไม่ เป็นไปไม่ได้แน่นอน
ปิ่นระย้าไม่ได้แสดงให้ผู้ใดเห็นได้ง่ายๆ แม้แต่ผู้อาวุโสในเผ่าหรือแม้แต่ผู้อาวุโสไท่ซ่างก็ไม่รู้แล้วนางจะรู้สิ่งใดบ้าง
“ไม่มีสิ่งใด ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องขอบคุณท่านอาจารย์ ค่ำมืดแล้วข้าขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อน ข้าเหน็ดเหนื่อยยิ่งนักจนหนังตาลืมไม่ขึ้นแล้ว”
ผู้คนในสถานศึกษากล่าวด้วยความกังวลใจว่า “พระชายาหานพรุ่งนี้ท่านจะเริ่มเขียนนิยายเวลาใด?”
กู้ชูหน่วนโบกมือโดยไม่แม้แต่จะมองพวกเขาด้วยน้ำเสียงตามแต่ใจและเกียจคร้าน “พรุ่งนี้ค่อยว่ากันเถอะ ไม่ได้หลับได้นอนมาหลายวันหลายคืนแล้วพวกเจ้าจะไม่ให้ข้านอนหลับเต็มอิ่มสักหน่อย”
"หากว่าพรุ่งนี้เขียนไม่ได้แล้ววันถัดไปหล่ะ?"
“ดูว่าวันถัดไปข้าจะตื่นนอนได้หรือไม่ค่อยว่ากัน”
“นี่......นอนหลับก็ไม่ต้องใช้เวลาถึงสองวันกระมัง เอาเถอะถึงแม้ว่าท่านจะใช้เวลาสองวันชดเชยการนอนแล้ววันถัดไป วันถัดต่อไปหล่ะ สองวันถัดไปก็น่าจะสามารถเขียนต่อได้แล้วนะ”
"เรื่องของสองวันถัดไป สองวันถัดไปค่อยว่ากัน ใครจะรู้ว่าสองวันถัดไปข้าจะมีธุระหรือไม่"
กู้ชูหน่วนกล่าวแล้วก็ได้ออกจากสำนักศึกษาวังหลวงไปโดยเหลือคนจำนวนมากจ้องมองมายังนาง
ชิงเฟิงตัวสั่นครั้งหนึ่งจากนั้นตามกู้ชูหน่วนจากออกไปอย่างรวดเร็ว
ลางสังหรณ์ไม่ดีในใจของผู้คนในสถานศึกษาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ทุกคนมองไปยังอาจารย์ซั่งกวนและถามอย่างประหม่าว่า “ท่านอาจารย์ซั่งกวน พระชายาหานจะละทิ้งแล้วไม่เขียนเลยหรือเปล่า หากว่านางไม่เขียนต่อแล้วพวกเราจะทำอย่างไร นิยายนี้กำลังน่าตื่นเต้นหากไม่มีไปเลยจะไม่ทำให้เราร้อนรนจนตายหรอกหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...