จอมมารเศร้าใจ “ทางที่เขียนไว้บนแผนที่เป็นทางนี้จริง ๆ นะ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะเดินวนอยู่ที่เดิมได้?”
กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูด
เขาพาพวกเขาเดินวนซ้ำ ๆ เหมือนคนบ้าเช่นนั้น ยังรู้สึกเศร้าใจอีกงั้นหรือ?
ผู้ที่น่าเศร้าใจควรเป็นใครกันแน่?
“เอาอย่างนี้ ท่านพาข้าลงเขาไปเสียก่อน เพียงแค่ลงเขาไปได้ ข้าก็จักทราบทางโดยทันที”
“พวกเราเดินวนอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืน เจ้าเพียงแค่ต้องการลงเขาอย่างนั้นรึ?”
“ใช่แล้วล่ะ จะต้องลงเขาเสียก่อน หากลงเขามิได้แล้วเราจักเดินทางไปยังหุบเขาตันหุยได้อย่างไรกัน”
กู้ชูหน่วนรู้สึกว่านางจะถูกเขายั่วโมโหเจียนตายได้ “เหตุมดจึงไม่บอกก่อนว่าเจ้าจะลงเขา?”
“แต่ท่านก็มิได้ถามข้าเช่นกัน”
“ให้ตายเถิด…เดินลงไปตลอดทางก็ลงเขาแล้วมิใช่หรือ? จำต้องเดินอ้อมไปอ้อมมาเพียงนี้เชียวหรือ?”
จอมมารตระหนักได้ในทันที “ใช่สิ ทำไมข้าถึงคิดไม่ถึงกัน เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เดินทางไปด้านหน้าตลอดทาง เราจะลงเขากัน”
แม้แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังส่งสายตาเหยียดหยามให้กับจอมมาร
มันสมองเช่นนี้ มิอาจรู้ได้เลยว่าเขาเป็นถึงจอมมารได้อย่างไรกัน?
ท้องของกู้ชูหน่วนเต็มไปด้วยความโกรธ
เมื่อรู้ทางแน่ชัดแล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็พาพวกเขาลงเขาไปอย่างเร็วไว
กู้ชูหน่วนถาม “ลงเขาแล้ว ต่อไปเราจะเดินไปทางใดต่อกัน?”
“ทางนี้ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้”จอมมารชี้ไปทิศทางหนึ่ง
กู้ชูหน่วนกุมขมับ “นั่นมันทิศตะวันตกเฉียงเหนือ”
“งั้นรึ ข้าจำผิดไปน่ะ น่าจะต้องเดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือนะ”
“เจ้าเคยบอกข้ามิใช่หรือว่าหุบเขาตันหุยนั้นเต็มไปด้วยป่าไม้ตลอดทั้งปีทุกฤดู ตั้งอยู่ในหุบเขาอันยิ่งใหญ่มิใช่หรือ แต่ทว่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเต็มไปด้วยทะเลทราย มิเห็นมีป่าไม้เขียวขจีเหมือนดั่งเจ้าว่าเลย”
“เช่นนั้นก็คงเป็นทางนี้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้”
หากแทบอยากจะฟาดฝ่ามือใส่เขาให้เขาได้สติเสียหน่อย
“สรุปแล้วไปทางไหนกันแน่? ซือม่อเฟย แกล้งข้าสนุกนักอย่างนั้นหรือ?”
จอมมารหน้าหดเหี่ยว และกล่าวอย่างเศร้าใจ “พี่หญิง ยังมิเคยมีผู้ใดกล้าโหดเหี้ยมกับข้าเพียงนี้ ท่านเป็นคนแรก”
“…”
มิเพียงเช่นนั้น แต่นางแทบอยากจะตีคนแล้ว
“เอาเถิด ๆ ท่านอย่าโกรธข้าเลย เดินไปทางทิศตะวันออกตะวันตก ครั้งนี้มิผิดพลาดอีกแล้ว”
“ทิศตะวันออกตะวันตกหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้?”
“ทิศตะวันออกเฉียงใต้”
“แล้วเจ้าเพิ่งบอกว่าเป็นทิศตะวันออกตะวันตก?”
“งั้นหรือ ข้าพูดว่าทิศตะวันออกเฉียงใต้ตลอดนะ”
“…”
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างพิโรธ “หากเจ้านำทางผิดอีก เจ้าก็มิต้องตามติดข้าอีกต่อไป”
“รู้แล้ว”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงโวยวายและพุ่งไปทางที่จอมมารชี้ไปอย่างรวดเร็ว
จอมมารชี้ไปทางนี้ทีทางนั้นที เดินอ้อมไปมาอยู่ท่ามกลางหุบเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
กู้ชูหน่วนเดินอ้อมจนเวียนศรีษะ
ทันใดนั้น นางก็รู้สึกว่าเดินวนหุบเขาหลายลูก
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เองก็มึนงงกับทิศทางที่ได้มา มันอยากจะพานายท่านไปถึงหุบเขาตันหุยโดยเร็ว แต่ทว่าจอมมารยังคงชี้ทางมั่วซั่วไม่หยุด ทำให้เขาสิ้นเรี่ยวแรงและหายใจลำบาก
ผ่านไปอีกหนึ่งวันหนึ่งคืน พวกเขายังคงเดินอ้อมไปมาอยู่ในหุบเขาอันกว้าใหญ่นี้
ความโกรธของกู้ชูหน่วนเพิ่มขึ้นไปอีก
และระเบิดออกมาในที่สุด
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ หยุดเดี๋ยวนี้”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็หยุดลงอย่างเชื่อฟัง และหายใจถี่ ๆอย่างไร้เรี่ยวแรง ดูออกว่าเหนื่อยล้าจนสุดขีดแล้ว
“ซือม่อเฟย ที่นี่คือที่ใดกัน?”
“ทางไปหุบเขาตันหุยไงเล่า”
“แล้วหุบเขาตันหุยอยู่ที่ใด?”
“เรื่องนี้…ก็ยังในหุบเขาอันกว้างใหญ่นี้ไง”
“เป็นเวลาสองวันสองคืนเต็มแล้ว เจ้าพาข้าเดินอ้อมอยู่ในหุบเขาอันแห้งแล้งนี้เป็นเวลาสองวันสองคืนแล้ว ข้าใคร่อยากจะถามว่าอีกนานเพียงใดถึงจะไปถึงหุบเขาตันหุยได้”
เหลือเวลาอีกเพียงเก้าวันก่อนที่จะคืนพระจันทร์เต็มดวงถัดไป
“แพรบ ๆ ๆ…”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ให้กู้ชูหน่วนขึ้นมาก่อน มันจักพานางลงเขาไปเสียก่อน
ท้องฟ้ามืดครึ้มและบัดนี้ก็แบ่งแยกทิศเหนือ ออก ตก ใต้ได้ยากนัก รวมทั้งมิได้กินอะไรเป็นเวลาสองวันสองคืนแล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เองก็เหนื่อยจนสุดขีดแล้วเช่นกัน
กู้ชูหน่วนถอนหายใจ
“ช่างเถิด พักผ่อนกันก่อนเถิด ข้าจักไปล่าสัตว์ให้เจ้าได้กินอาหารเสียหน่อย”
ทันทีที่ได้ยินว่ามีอาหารเลิศรส เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ดูสดชื่นขึ้นมาทันที และหมุนรอบกู้ชูหน่วนไม่หยุด
สายตาจอมมารเบิกกว้าง “ล่าสัตว์? ล่าสัตว์อย่างนั้นรึ? ข้าไปเอง”
เพียงแค่สะบัดชายเสื้อของจอมมาร ก็มีเสียงคร่ำครวญดังมาจากแดนไกล จากนั้นเขาก็ใช้ฝ่ามือขวาดูดและดูดไก่ฟ้าและนกป่าได้มิน้อย
จอมมารนำไก่ฟ้าและนกป่ากลับไปเต็มมือ และกล่าวอย่างประจบ “พี่หญิง ข้ารู้ว่าข้ามิควรนำทางผิด ท่านอย่าโกรธไปเลย เดี๋ยวข้าย่างไก่ฟ้าให้ท่านกิน”
“…”
สายตาของจอมมารไร้เดียงสาและเศร้าใจนัก
กู้ชูหน่วนเองก็เต็มไปด้วยความโกรธ
แต่ทว่าเมื่อคิดว่าเขาที่เป็นถึงจอมมาร เพื่อนางแล้ว เขาไม่เพียงแต่เสี่ยงอันตราย เข้าไปในเขตหวงห้ามโดยมิสนใจกฎของบรรพบุรุษ หมอบกุญแจรูปดาวให้กับนาง ทั้งยังพานางตามหาเส้นทางไปหุบเขาตันหุยอีก
ถึงแม้นจะบอกทางผิด แต่เขาก็ลำบากกับเราทั้งสองวันสองคืนด้วยเช่นกัน
เขาในฐานะจอมมาร มิจำต้องลำบากเพียงนี้และมิจำต้องพานางไปหุบเขาตันหุยด้วย ทว่าเขาก็ยังยอมโดยไม่มีข้อแม้
ความโกรธของกู้ชูหน่วนลดลงเล็กน้อย
“ช่างเถิด เจ้าไปย่างเสียไป”
“พี่หญิงวางใจได้ ข้าจะต้องย่างไก่ฟ้าที่หอมและเลิศรสที่สุดออกมาได้อย่างแน่นอน”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ต่อต้านอย่างน่าสงสาร
“นายท่าน เพียงแค่ไก่ย่าง นกเผ่าไม่กี่ตัว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มิอิ่มท้องหรอกขอรับ”
กู้ชูหน่วนหาสถานที่เหมาะสมและนั่งลงไป กล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า “ทนไปก่อนนะ อีกประเดี๋ยวข้าจักให้ซือม่อเฟยไปล่าหมูป่ามาให้”
“ข้าจะเอาสิบตัว”
“อีกประเดี๋ยวให้เขาไปล่ามา”
“จอมมารย่างเป็นหรือขอรับ?”
“คาดว่าคงย่างเป็นนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...