“ดูหมิ่นท่านอาจารย์ กลับไปคัดคัมภีร์หลุนอวี่หนึ่งร้อยรอบ”
น้ำเสียงอันอบอุ่นดังขึ้น กู้ชูหน่วนถึงได้สติกลับมา
ท่านอาจารย์ซั่งกวนหน้าซีดเผือด คล้ายกับว่ากดดันอะไร ฉินหิมะได้ถูกเก็บไว้ในวงแหวนอวกาศตั้งนานแล้ว
กู้ชูหน่วนพบว่า ไม่รู้พวกเขาออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทหารที่ไล่ตามด้านหลังก็ไม่มีแล้ว
“ท่านอาจารย์ ที่นี่ไม่ใช่สำนักศึกษา”
“แต่ทว่าเจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้าเหมือนเดิม”
กู้ชูหน่วนเบ้ปาก ขี้เกียจจะโต้แย้งกับเขาเลยกล่าวว่า“การเดินหมากของท่านเมื่อครู่นี้คืออะไร?”
“……..”
“ฉินหิมะที่อยู่ในวงแหวนอวกาศ สามารถให้ข้ายืมดูได้หรือไม่?”
“……”
ซั่งกวนฉู่เหลือบมองบรรยากาศบนท้องฟ้า กับเมืองเล็กๆด้านหน้าที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นกล่าวอย่างราบเรียบว่า“เดินจากเมืองที่อยู่ตรงหน้าไปก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว พวกเราแยกกันที่นี่เถิด”
“บาดแผลของท่านยังไม่หายดีเลยนะ”
บาดแผลยังไม่หายดีอีกทั้งเสียกำลังภายในมากมาย นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถทนได้
“ไม่ลำบากคุณหนูสามต้องเป็นห่วงแล้ว ข้าจะจัดการเอง”
ซั่งกวนฉู่เขย่งขาเล็กน้อย จากนั้นไม่นานได้ร่ายระบำสักครู่แล้วหายไป
มือของกู้ชูหน่วนยืดอยู่กลางอากาศ สักพักหนึ่งถึงได้ปล่อยลงมาช้าๆ
ซั่งกวนฉู่เป็นคนฉลาดเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก ชัดเจนความสามารถที่มีอยู่เพียงน้อยนิดได้ใช้จนหมดไปแล้ว และยังสามารถหลงเหลือมือจัดการรับมือการนักฆ่าได้ คิดดูแล้วน่าจะไม่ปล่อยให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายอะไรหรอกนะ
นางยังมีเรื่องราวมากมายต้องจัดการ คนที่ตามสังหารนางมากมาย แยกกันก็ดี
ที่กู้ชูหน่วนไม่รู้คือ ซั่งกวนฉู่ไม่ได้ตั้งใจจะแยกกันกับนาง แต่อาการบาดเจ็บของเขาควบคุมไม่ได้ เกรงว่ากู้ชูหน่วนจะกังวลใจเลยพยายามอดทน ทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรแล้วแยกออกไป
หลังจากห่างระดับสายตานางแล้ว ซั่งกวนฉู่จึงกระอักเลือดอาเจียนออกมา ร่างกายของเขาเหมือนกับว่าวที่เชือกขาด ไร้เรี่ยวแรงอ่อนปวกเปียกลง
กู้ชูหน่วนกระโดดลงจากหลังของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ และได้ให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มาอยู่ที่ข้อมือนาง มือข้างหนึ่งกำท้องแน่น พร้อมกับเดินเข้าไปในเมือง
เพิ่งจะเข้าเมือง ลูกน้องของนางสีชิ่นก็ได้หานางเจอ จากนั้นพานางเดินไปทางพื้นที่ลับส่วนตัว
“ข้าน้อยสีชิ่น ถวายความเคารพเจ้าหอ บาดแผลของเจ้าหอต้องรักษาอย่างเร่งด่วนหรือไม่”
“มิเป็นไร เดี๋ยวข้าจัดการเอง นี่คือแผนที่ที่ตั้งสำนักใหญ่ของหอวิญญาณทมิฬ เจ้ารีบระดมพลทั้งหมดที่สามารถระดมได้อย่างรวดเร็วด้วย ข้าต้องการให้หอวิญญาณทมิฬหายไปจากโลกนี้ภายในสามวัน”ดวงตาของกู้ชูหน่วนส่องประกายอย่างเย็นชาและความมุ่งมาดเจตนาสังหารแฉลบผ่าน
สีชิ่นชะงักงัน
นางคิดไม่ถึง เรื่องแรกที่เจ้าหอกลับมาไม่ใช่จัดการกับเผ่าเพลิงฟ้า แต่เป็นการจัดการกับหอวิญญาณทมิฬ
หอวิญญาณทมิฬเป็นองค์กรนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก มีความแข็งแกร่งและซ่อนเร้นที่อยู่ ดูเหมือนว่าต้องการถอนรากถอนโคนพวกเขาเลย...
“ยังไง หรือว่าแม้แต่หอวิญญาณทมิฬจิ๊บจ๊อยแห่งหนึ่งก็ไม่สามารถจัดการได้หรือ?”
“เจ้าหอวางใจ ข้าน้อยจะจัดการหอวิญญาณทมิฬที่อยู่ในทุกส่วนของรัฐให้เรียบร้อยภายในสามวัน แล้วทำให้พวกเขาหายไป”
“ผิดละ ไม่ใช่ทุกส่วนของรัฐ แต่คือทั่วพื้นพิภพ”
“เจ้าค่ะ”
“ในหอวิญญาณทมิฬมีคนผู้หนึ่งชื่อลั่วอิ่ง ข้าต้องการให้เขามีชีวิตรอดมาเจอข้า”
“เจ้าค่ะ”
“เจ้ารีบไปจัดการเถอะ หลีกเลี่ยงที่พวกเขาจะย้ายสำนักใหญ่”
“เจ้าค่ะ”
สีชิ่นออกไปกระซิบข้างหูไม่กี่คำกับผู้ดูแลผู้หนึ่ง แล้ววนกลับมา
กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วถามว่า“เจ้ายังมีธุระอะไรหรือ?”
“นายท่าน หมอหนิวเป็นหมอที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ และเป็นคนของพวกเรา ให้เขาตรวจแมะให้นายท่านดูเถิด”
แม้จะรู้ว่านายท่านของตนเองมีวิชาทางการแพทย์ที่แกร่งกล้า แต่ว่าท้องของนายท่านบาดเจ็บหนัก นางยังคงไม่วางใจ
สีชิ่นไม่ได้ถามว่าหอวิญญาณทมิฬทำอะไรกับนาง แต่อนาคตหอวิญญาณทมิฬไม่สามารถที่จะปรากฏตัวบนโลกใบนี้ได้แล้วล่ะ
ทุกคนที่ทำร้ายนายท่าน ไม่มีทางมีจุดจบที่ดีได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...