ขุนพลสวรรค์กลัวไฟ
ไฟที่ลุกโชติช่วงเผาไหม้ขุนพลสวรรค์ และสามสิบหกขุนพลสวรรค์ก็ถูกทำลาย
ไม่ง่ายเลยที่สามสิบหกคนที่กำลังจะปีนหน้าผาที่สูงชันจะถูกไฟไหม้ตายในทันที และไม่เหลือแม้แต่ซากศพ
ซั่งกวนชิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
"ฟิ้ว ๆ ๆ ......" หน้าไม้ยิงมาอย่างไม่หยุดหย่อน
ซั่งกวนชิงโกรธมาก และอยากจะบุกเข้าไปอย่างไม่สนใจใดอะไร แต่สาวกหลายคนของตระกูลซั่งกวนเข้ามาขวางไว้
"ท่านผู้อาวุโส ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ย่อมต้องมีความหวัง พวกเราถอยก่อนเถอะ แล้วค่อยหาวิธีจัดการกับพวกเขาในภายหลัง"
ไป๋หลี่เฉิงไม่เห็นความหวังที่จะปีนหน้าผา เขาจับตัวกู้ชูหน่วนก่อนที่จะพาผู้คนล่าถอยออกไป
นิกายอื่น ๆ ก็หนีกันจ้าละหวั่น
ไม่ว่าซั่งกวนชิงจะไม่พอใจมากแค่ไหน เขาก็ทำได้แค่ล่าถอยออกไปก่อน
หากไม่ถอย ผู้คนก็จะบาดเจ็บล้มตายมากยิ่งขึ้น
ในชั่วพริบตาเดียว นิกายต่าง ๆ ก็กระจัดกระจายออกไป ส่วนที่ตายก็ตาย ส่วนที่หนีก็หนี ส่วนคนที่ยังอยู่ก็นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นและร้องโหยหวน
ชิงเฟิงตบต้นขา "แม่นางมู่ ท่านเก่งกาจเกินไปแล้ว และขับไล่พวกเขาออกไปอย่างง่ายดาย ข้าคิดว่าจะต้องมีการนองเลือดเสียแล้ว"
เจี้ยงเสวี่ยและคนอื่น ๆ ต่างก็เลื่อมใส
ใบหน้าของกู้ชูหน่วนไม่มีร่องรอยของความดีใจ และกลับโศกเศร้า
"คราวนี้พวกเขาประมาทและสูญเสียเป็นอย่างมาก หากรอการโจมตีครั้งต่อไป เกรงว่าจะไม่ง่ายที่จะหลอกล่อ"
"ข้าจะให้คนไปทำธนูไม้ไผ่และน้ำมันตะเกียงในทันที"
"ไม่มีประโยชน์ วิธีเดียวกันนี้สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น"
"แล้วจะทำอย่างไรดี?" หรือว่าจะต้องใช้ร่างกายต่อสู้กับพวกเขาจนนองเลือดในที่สุด?
"จะทำอย่างไรได้ ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน"
กู้ชูหน่วนกลอกตา นางกุมแผลที่ท้องไว้ และให้คนเข็นนางไปนั่งใต้ร่มไม้
วันหนึ่ง
สองวัน
สามวันผ่านไป
นิกายต่าง ๆ ไม่ได้โจมตี
และไม่มีข่าวคราวจากคนที่ส่งให้ออกไปตามหาเยี่ยจิ่งหาน
เสบียงอาหารที่หุบเขาหัวสุนัขยังสามารถที่จะอยู่ได้อีกระยะหนึ่ง
เพียงแต่พวกเขาไม่อาจล่าถอยได้
ในช่วงบ่ายของวันที่สาม นิกายต่าง ๆ โจมตีอีกครั้ง
ครั้งนี้พวกเขานำกองกำลังมามากกว่าครั้งแรก
และ......คนส่วนใหญ่ในนั้นก็สวมชุดเกราะ คงเกรงว่าพวกเขาจะยิงหน้าไม้อีก
พวกเขามีอาวุธและยุทโธปกรณ์ครบครัน
ใบหน้าและหัวของพวกเขาถูกคลุมด้วยผ้า มีเพียงดวงตาคู่หนึ่งเท่านั้นที่ถูกเปิดเผย และยังถือร่มไว้ในมือ
อีกทั้งดวงตาที่ถูกเปิดเผยก็ใช้มือปิดกั้นเป็นระยะ ๆ ด้วย
"นางมาร หากเจ้ายอมจำนนแต่โดยดี พวกเราจะพิจารณาลงโทษสถานเบา มิเช่นนั้นวันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า"
กู้ชูหน่วนอยู่นั่งบนรถเข็น นางเคาะหูและกล่าวอย่างไม่อดทน "คำพูดนี้ข้าได้ยินมามากเกินไปแล้ว เอาที่ใหม่กว่านี้ได้หรือไม่?"
"จุดไฟ"
เมื่อได้ยินคำว่าจุดไฟ นิกายต่าง ๆ ก็นำกองฟืนมาและจุดไฟ
พวกเขาต้องการใช้ควันเพื่อทำให้คนบนหน้าผามองเห็นไม่ชัด ไม่สามารถยิงหน้าไม้ได้ ไม่สามารถเตรียมที่จะโยนน้ำมันตะเกียงได้ และถือโอกาสปีนขึ้นไปข้างบนหน้าผา
กู้ชูหน่วนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา และกล่าวเสียงดัง "หากพวกเจ้าหันหลังกลับไปเสียในตอนนี้ บางทีอาจจะสามารถรักาาชีวิตไว้ได้"
"ช่างน่าขัน เยี่ยจิ่งหานไม่อยู่ที่นี่ ลำพังแค่พวกเจ้าจะยับยั้งพวกเราได้อย่างไร?"
ควันเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
กู้ชูหน่วนไม่ได้ขัดขวาง
และปล่อยให้พวกเขาสร้างควันต่อไป
ไม่นานควันก็ปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา ทั้งสองฝ่ายต่างมองเห็นอีกฝ่ายไม่ชัดเจน
ไป๋หลี่เฉิงรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ซั่งกวนชิงถูกนางถอดเสื้อผ้า และสามสิบหกขุนพลสวรรค์ก็ตายอย่างอนาถด้วยมือของกู้ชูหน่วน นใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
แม้จะรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่คิดว่านางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว และศัตรูมีจำนวนมากกว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงไม่ได้สนใจ
"ไม่ว่าวันนี้จะต้องแลกด้วยอะไร ข้าก็จะฆ่านางมารผู้นั้นให้จงได้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...