ในใจของฮูหยินใหญ่เต้นระทึก
นางสะสางบัญชีกับอู่อี๋เหนียงเสร็จแล้ว ก็จะมาสะสางบัญชีกับตนต่อใช่หรือไม่
ฮูหยินใหญ่กลอกตาไปทางมามา*ที่คอยจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ภายในจวนแวบหนึ่ง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตำลึงของคุณหนูสาม เหตุใดนางถึงบอกว่ายังไม่ได้รับ? พวกเจ้าละโมบใช่หรือไม่?”
“ฮูหยินโปรดตรวจสอบด้วย ต่อให้หม่อมฉันจะกล้าหาญเพียงใด แต่หม่อมฉันก็ไม่กล้ายักยอกตำลึงของคุณหนูสามหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้หม่อมฉันจะตรวจสอบอย่างละเอียด”
“ไป๋มามาต้องตรวจสอบอย่างละเอียดนะเจ้าคะ ถึงอย่างไรบัดนี้ข้าก็เป็นถึงว่าที่พระชายาในอนาคตของหานอ๋องเทพแห่งสงคราม หากถูกหานอ๋องรู้ว่าพระชายาของเขามีชีวิตที่อนาถา เกรงว่าเขาคงไม่ยินดี”
“เจ้าค่ะๆ”
ในจวนไม่มีใครแสดงสีหน้าดีเลยสักคน
นี่ยังไม่ได้เป็นพระชายาหานอ๋อง ก็เริ่มวางตนเป็นพระชายาหานอ๋องแล้ว ใคร ๆต่างก็รู้ว่าชะตาชีวิตของหานอ๋องจะอยู่ได้อีกไม่นาน ดูสิว่านางจะยังอวดเก่งได้อย่างไร
กู้ชูหน่วนกวาดสายตามองไปยังทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ และลั่นสาบานอย่างดุดัน “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากใครกล้ารังแกชิวเอ๋อ ก็เท่ากับรังแกข้า แม้ว่าข้าจะมีฐานะต้อยต่ำในจวน แต่ข้าคิดว่าแค่สถานะบุตรีขององค์หญิงจาวหลิง การปรารถนาอยากให้ใครบางคนต้องตายก็ยังพอมีอำนาจอยู่บ้าง”
ทุกคนตื่นตกใจจนสะท้านไปทั้งตัว
ฮูหยินใหญ่กระตุกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจจริง “คุณหนูสามช่างน่าขบขัน ต่อไปในจวนใครเล่าจะกล้ารังแกเจ้า แค่เจ้าบอกข้า ข้าก็สนับสนุนเจ้าเต็มที่”
“ขอบพระทัยฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ แต่บัดนี้ได้โปรดฮูหยินใหญ่ช่วยคืนตำลึงเงินที่ถูกยักยอกจนแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัวก่อนหน้านั้นมาให้ข้าก่อนเถอะ หลีกเลี่ยงไม่ให้มีคนกล่าวหาว่าฮูหยินใหญ่กดขี่ข่มเหงบุตรีขององค์หญิงจาวหลิง ท่านว่าข้าพูดถูกหรือไม่เจ้าคะ”
ฮูหยินใหญ่กัดฟันแน่น
หญิงสาวผู้นี้ แต่ละคำล้วนข่มขู่นางอย่างชัดเจน
เพราะฮ่องเต้พระราชทานยกนางให้แก่หานอ๋องเทพแห่งสงครามใช่หรือไม่?
ไม่สิ เป็นไปไม่ได้
บางทีพวกนางอาจจะถูกกู้ชูหน่วนหลอกลวงก็ได้ นางที่กำลังอวดเก่งและเย่อหยิ่งตรงหน้า ถึงจะนางตัวจริงต่างหาก
ฮูหยินใหญ่จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “แน่นอน”
“เช่นนั้นชูหน่วนขอบพระทัยฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ จริงสิ ฮูหยินใหญ่จัดรถม้าไปส่งข้ายังสำนักศึกษาในวังสักคันด้วยนะเจ้าคะ”
“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ไป๋มามา จัดรถม้าหนึ่งคันให้คุณหนูสามด้วย หลีกเลี่ยงไม่ให้มีใครครหาว่าจวนเสนาบดีนั้นอนาถา”
“เจ้าค่ะ...”
กู้ชูหน่วนกวาดตามองไปยังทุกคนที่แสดงสีหน้าหลากหลายด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง ก่อนจะจากไปพลางผิวปากอย่างหยิ่งผยอง
ชิวเอ๋อรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของนางแดงก่ำ ในใจซาบซึ้งจนกล่าวไม่ออก มีแต่ประโยคนั้นของกู้ชูหน่วนวนวเวียนอยู่เต็มสมอง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากใครกล้ารังแกชิวเอ๋อ ก็เท่ากับรังแกข้าด้วย
นางเป็นเพียงแค่สาวใช้ตัวเล็กคนหนึ่ง จะมีค่าให้คุณหนูมาปกป้องได้อย่างไร
ระหว่างทางกลับวัง ชิงเอ๋อคอยดึงกู้ชูหน่วนไปยังสำนักศึกษาตลอดทาง ใบหน้าของนางร้อนใจจนไม่อาจปกปิดได้ นางกล่าวขึ้นอย่างร้อนใจ “คุณหนูช่วยเร่งฝีเท้าหน่อยสิเจ้าค่ะ เราไปสายมากแล้ว หากเหล่าท่านอาจารย์โทสะขึ้นมาจะทำอย่างไรละเจ้าคะ?”
“จะรีบอะไรนักหนา ถึงอย่างไรก็สายแล้ว สายอีกนิดคงไม่ถือสาหรอก”
ชิวเอ๋อขุ่นเคือง
ผู้อื่นระดมสมองแทบตายเพื่อจะได้เข้าไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาวังหลวง แต่คุณหนูของนางกลับเมินเฉย เดิมทีก็สายมากแล้ว ยังจะเอ้อระเหยชื่นชมสมุนไพรในร้านขายยาอีก ยิ่งถ่วงเวลากันเข้าไปใหญ่
“คุณหนู หากคุณหนูยังไม่รีบไปอีก ชิวเอ๋อจะโกรธแล้วนะเจ้าคะ”
“หาว ด้านหน้าก็เป็นสำนักศึกษาแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...