มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1005

สรุปบท บทที่ 1005 ไม่ออมมือ: มังกรผู้ทรงพลัง

สรุปเนื้อหา บทที่ 1005 ไม่ออมมือ – มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

บท บทที่ 1005 ไม่ออมมือ ของ มังกรผู้ทรงพลัง ในหมวดนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จาง หลงหู อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

อยากถอยเหรอ

แต่ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนโมโหแล้ว ใครก็ตามที่กล้าโจมตีเขา เขาไม่ปล่อยไปแน่!

ฝ่ามือแส้ของเขาไม่ได้ปะทะโดนอีกฝ่าย เขาจึงกำหมัดแน่นและปล่อยพลังแกร่งออกไปในอากาศอย่างแรง พลังงานที่มองไม่เห็นพุ่งออกจากกำปั้นของเขาและกระแทกเข้าที่จมูกของยอดฝีมือผู้นี้อย่างแรง

ยอดฝีมือผู้นี้ถูกพลังแกร่งโจมตีจนรู้สึกเจ็บที่จมูกอย่างสาหัส ต่อมน้ำตาของเขาถูกกระตุ้นและน้ำตาก็ไกลออกมาทันที จากนั้นดวงตาของเขาก็ปิดลงอย่างห้ามไม่ได้

ทันทีที่หลับตา เขาก็กลายเป็นวัวเป็นแพะที่รอถูกเชือด

ฉีเติ่งเสียนก้าวเท้าไปข้างหน้า เบี่ยงตัวผ่านเขาและตรงไปหาชายที่โจมตีตน

ขณะเดินผ่านชายผู้นี้ เขาก็สะบัดแขน กำนิ้วเข้าหากันจนเป็นหมัดกลวงและชกเข้าที่เป้าของชายผู้นั้น จนอีกฝ่ายตายคาที่

ที่นี่คือดินแดนอันน่าสะพรึงกลัวที่การฆ่าคนเป็นเหมือนการตัดหญ้าและการทำร้ายคนอื่นเป็นเหมือนการเดิน!

หมัดที่ถูกชกออกมาอย่างส่งๆ ที่ดูไม่จริงจัง กลับสามารถปลิดชีวิตคนได้อย่างง่ายดาย

หมัดมวยแบบนี้ได้ผสานเข้าไปในกระดูกและยีนส์แล้ว เช่นเดียวกับพระที่มีสมณสูงในพุทธศาสนาที่ศึกษาธรรมจนปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัด หลังจากถูกเผาก็จะเหลือเป็นพระบรมสารีริกธาตุไว้ ถ้าตอนนี้เอาฉีเติ่งเสียนไปเผาก็เป็นไปได้ว่าจะมีของอะไรแบบนั้นออกมา

เพียงชั่วพริบตา ฉีเติ่งเสียนก็มีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในมือ

คนสุดท้ายที่เหลืออยู่รู้ตัวว่าหนีไม่ทันแล้ว เขาจึงฉวยโอกาสก่อนที่ฝีเท้าของฉีเติ่งเสียนจะก้าวออกไป ปล่อยหมัดใส่ฉีเติ่งเสียนและชกเข้าที่หน้าของเขา!

แต่เท้าของฉีเติ่งเสียนที่ก้าวออกไปก็หยุดกลางอากาศ เขาบิดเท้าเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวไปทางซ้ายเพื่อหลีกหนีจากหมัดที่กำลังพุ่งมา

จากนั้นเขาก็โอบหน้าท้องของอีกฝ่ายด้วยมือทั้งสองข้าง รวมพละกำลัง ยกขาที่อยู่กลางอากาศขึ้น บิดตัวและออกแรงเตะด้วย “ท่าถีบนกกางเขน” ลงบนท้องของคนผู้นั้น

ลูกเตะนี้ กำลังของน่องและต้นขาต้องเชื่อมโยงกัน ข้อสะโพกบิดเพื่อส่งความแข็งแกร่งของพลังจากศูนย์กลางให้ระเบิดออกมาซึ่งไม่ต่างอะไรจากกระสุนปืนใหญ่!

“บูม!”

ทันทีที่ถูกเตะเข้าที่ท้อง ร่างของคนผู้นั้นก็กระเด็นออกไป นัยน์ตาของเขาเบิกกว้างจนแทบจะหลุดออกจากเบ้าและเลือดก็ไหลทะลักออกจากปากและจมูก

แค่ลูกเตะเพียงครั้งเดียว ฉีเติ่งเสียนก็ระเบิดลำไส้และท้องของชายคนนั้น ท้องทั้งหมดแตกกระจายหลังถูกโจมตี ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็แปลกแล้ว

หลังจากชายผู้นี้สิ้นชีวิต ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ที่เพิ่งจุดประกายโดยกลุ่มขุนศึกก็ดับลงอย่างสมบูรณ์ และทุกคนต่างก็หวาดกลัวจนถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว

ฉีเติ่งเสียนเดินผ่านฝูงชนเพื่อจะไปสังหารเฉินซงเฟย!

เขาฆ่าคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พูดแล้วอาจฟังดูเหมือนนาน แต่จริงๆ มันใช้เวลาไม่กี่นาที แสดงให้เห็นว่าฝีมือของเขาอยู่เหนือคนเหล่านี้อย่างสิ้นเชิง!

ตอนนี้จ้านเฟยที่เป็นที่สนใจถูกบดบังจนมิด จนถึงขั้นจะถอนตัวด้วยซ้ำ

“อาจารย์จ้าน ช่วยผมด้วย!” เฉินซงเฟยร้อง

ฉีเติ่งเสียน ผู้เป็นเหมือนจอมมารที่ไม่มีใครเทียบได้มาถึงข้างหลังเขาแล้ว และความโอหังอันน่าสะพรึงกลัวก็แทบทำให้เขาหายใจไม่ออก

จัดงานชุมนุมการต่อสู้เพื่อกวาดล้อมคนทรยศประเทศชาติงั้นเหรอ

ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนปรากฏตัวและเริ่มเข่นฆ่า แต่ก็ไม่มีใครมาขวางเขาได้ ความกล้าหาญของยอดฝีมือยุทธภพจากทางใต้ต้องสั่นคลอนเพราะเขาเพียงคนเดียว

นิสัยลังเลของจ้านเฟยเริ่มสร้างปัญหาอีกครั้ง มีความคิดมากมายแวบขึ้นมาในหัวของเขาราวกับสายฟ้าและเขาก็ได้แต่คิดว่าเขาจะไปช่วยดีไหม

ถ้าเขาไปช่วย เขาจะรับไหวไหม

ฝีมือของอีกฝ่ายอยู่นอกเหนือจากสิ่งที่เขาจะเข้าใจได้ ถึงเขาจะขึ้นไป เขาก็อาจจะรอดจากกระบวนท่าได้สองสามท่า แต่สุดท้ายเขาก็คงหนีความตายไม่พ้น!

ความลังเลในใจของเขาได้ตัดสินจุดจบของเฉินซงเฟยแล้ว

ฉีเติ่งเสียน ผู้มีดาวมารไปอยู่ข้างหลังเฉินซงเฟยเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่เคลื่อนไหว เขาก็พุ่งศีรษะออกไป!

“มาสู้ให้ตายกันไปข้าง!”

เมื่อเห็นว่าตัวเองหนีไม่พ้น เฉินซงเฟยก็คำรามเพื่อเรียกความกล้าให้ตัวเองและพยายามโจมตีสุดกำลัง!

แต่ใบหน้าของฉีเติ่งเสียนกลับนิ่งสนิทไม่ไหวติงราวกับยมทูต เขาดันหมัดของเฉินซงเฟยออกอย่างสบายๆ จากนั้นก็ยกแขนขึ้นมาบังก่อนจะโจมตีอีกฝ่ายด้วยหมัดอีกข้าง!

เสียงตะโกนของผู้คนตั้งแต่สิบถึงร้อยคนถูกเสียงคำรามของฉีเติ่งเสียนกลบไว้!

เหมือนกับตอนที่กองฟืนกำลังลุกไหม้สุดขีด แล้วทันใดนั้นก็มีน้ำถังใหญ่ราดลงมา ทำให้ผู้คนรู้สึกหดหู่และไร้พลัง

พลังของคนคนเดียวสามารถเอาชนะกลุ่มขุนศึกได้!

เลือดของจ้านเฟยที่เพิ่งเดือดและจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ค่อยๆ ตื่นขึ้น ถูกเสียงเสือคำรามสยบไว้

เขาเม้มริมฝีปากด้วยสีหน้าตึงเครียด

ในตอนนั้นเองสีหน้าของฉีเติ่งเสียนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาหมุนตัวอย่างกะทันหันและรีบพุ่งไปที่ประตูทางเข้าราวกับสายฟ้าแลบ!

“แย่แล้ว เขากำลังจะหนี!”

“คงเป็นเพราะว่าเขาใช้พลังติดต่อกันและใกล้จะหมดแรงแล้ว!”

“ทุกคนร่วมมือกันเล่นงานเขาให้ตายเถอะ!”

กลุ่มขุนศึกได้สติคืนมาและเริ่มส่งเสียงโห่ร้อง พวกเขาคิดว่าฉีเติ่งเสียนหมดแรงและคิดจะหนี

จ้านเฟยเงยหน้าขึ้นและกำลังจะไล่ตามไป

แต่ก็ต้องพบว่าฉีเติ่งเสียนที่พุ่งเข้าไปในม่านฝนได้พบเข้ากับใครบางคน

และคนผู้นี้ก็ฝ่าฝนมาด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นชายผู้นี้มีรูปร่างสูงใหญ่ พรสวรรค์ของเขานั้นเหนือมนุษย์ เมื่อเขาลงมือ อานุภาพจากพลังของเขาก็เสียงดังฝนที่กระทบลงบนพื้นเสียอีก!

“มียอดฝีมือโผล่มาจากไหนอีกแล้ว!”

จ้านเฟยรู้สึกตกใจเล็กน้อย

เขาเห็นว่าชายที่อยู่ท่ามกลางสายฝนเข้ามาพูดคุยกับฉีเติ่งเสียนอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยหมัด ม่านฝนถูกแยกออกและพื้นที่หนึ่งฟุตรอบกายเขาก็แทบจะกลายเป็นสุญญากาศ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง