“นายใส่ความฉันแน่นอน!”
ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเลี่ย
“ไปใส่ความคุณตรงไหน”
เฉินเลี่ยกลับขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “ตอนแรกฉันต้องการหนึ่งพันล้าน แต่เขาพยายามพูดจาหว่านล้อมเพื่อขอร้อง ฉันเห็นแก่หน้าตระกูลเฉิน ก็เลยลดให้สี่สิบเปอร์เซ็นต์! ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นเพื่อน ฉันจะยอมให้เขาฟรีๆ สี่ร้อยล้านเหรอ?”
เฉินเลี่ยแทบทนไม่ไหวที่จะซัดหน้าเขา แต่คิดไปคิดมา ถ้าเขาลงมือ คนที่ถูกซัดคงจะเป็นเขาเสียเอง ถึงตอนนั้นคงต้องขายรูปพี่สาวอีกถึงจะยุติปัญหาได้ ซึ่งมันไม่คุ้มเลย
“อีกอย่าง เงินนั่นน่ะยังไม่ให้ฉันอีกเหรอ?” ฉีเติ่งเสียนตบบ่าเฉินเลี่ยพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“เอาเถอะ ผมไม่อยากเถียงกับคุณ...” เฉินเลี่ยกลอกตาอย่างแรง
“ใช้เหตุผลไม่ได้ก็เฉไฉไปเรื่อยสินะ?” ฉีเติ่งเสียนกล่าว
“.....” เฉินเลี่ยรู้สึกว่าเขาพูดคุยกับคนผู้นี้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ฉีเติ่งเสียนบอกว่า “เอาเถอะ หาลู่ทางให้ฉันไปเทียนจู่กั๋วดีกว่า งานพิธีทางนั้นใกล้จะเริ่มแล้ว ฉันไม่กล้าไปสาย”
เฉินเลี่ยอดถามไม่ได้ว่า “มีอะไรอีกไหมที่คุณไม่กล้าทำ?”
แม้จะพูดอย่างนั้น แต่ประสิทธิภาพการทำงานของเฉินเลี่ยก็รวดเร็วมาก ถึงอย่างไรก็มาถึงหนานหยางแล้ว แค่เจ้าพ่อแห่งหนานหยางลงแรง ธุระอะไรก็สามารถทำให้สำเร็จได้ภายในไม่กี่นาที
ในไม่ช้าฉีเติ่งเสียนก็ได้รับการตระเตรียมให้ไปที่สนามบิน จากนั้นจึงขึ้นเครื่องบินลำที่จะมุ่งหน้าไปประเทศเจอมณี และเดินทางต่อจากเจอมณีไปเทียนจู่กั๋ว
ในการเดินทางครั้งนี้ ฉีเติ่งเสียนย่อมเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขาใหม่ เพราะถึงอย่างไรโทษฐานก่อการร้ายก็ยังไม่ได้รับการสะสาง
“รู้สึกอย่างกับตัวเองเป็นนักโทษที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปทั่วโลก!” ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจอย่างอดไม่ได้หลังจากมาถึงเทียนจู่กั๋ว
เขาตรงไปยังโรงแรมที่หลี่อวิ๋นหว่านพักอยู่และเคาะประตูห้อง
ประตูเปิดออก และปีศาจหลี่ที่ต้องอยู่ห่างกันมานานก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา เธอยังคงสดใสงดงาม เสื้อผ้าที่สวมใส่ยังคงทันสมัยเหมือนเคย
เธอสวมชุดสายเดี่ยวรัดรูปสีแดงสด คราวนี้ที่ขาไม่ใช่ตัวอักษรแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นถุงน่องผ้าไหมสองส่วนสีดำขอบแดง...
การปรากฏตัวครั้งนี้เป็นอันตรายถึงชีวิต!
“เร็วเข้า รอคุณอยู่ตั้งนาน!” หลี่อวิ๋นหว่านเอื้อมมือมาคว้าคอเสื้อของฉีเติ่งเสียนและดึงเขาเข้าห้องทันทีที่เห็นเขา
“อดอยากขนาดนั้นเลยหรือ” ฉีเติ่งเสียนสะดุ้ง
แต่หลังจากถูกดึงเข้าไปในห้อง เขาก็พบว่าภายในห้องมีคนอื่นอยู่ด้วย และคนผู้นั้นสวมเครื่องแบบปุโรหิตเต็มรูปแบบ
ฉีเติ่งเสียนอดถามไม่ได้ว่า “นี่ใครน่ะ”
“ผู้ช่วยองค์พระสันตะปาปาน่ะ” หลี่อวิ๋นหว่านกระซิบบอก “วันนี้พอรู้ว่าคุณจะมาก็เลยมารออยู่ที่นี่!”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า เอ่ยด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ว่า “สวัสดีครับ? ฮัลโหล? คนนิจิวะ? อันยองฮาเซโย? ปรีเวียต?”
สีหน้าของผู้ช่วยตึงขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาเอ่ยว่า “ฮัลโหล!"
หลี่อวิ๋นหว่านที่อยู่ข้างๆ มองเขาตาโต เธอคิดว่าฉีเติ่งเสียนจะต้องป่วยหนักอยู่แน่ๆ
เมื่อฉีเติ่งเสียนแน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดได้โดยไม่สับสน เขาจึงจับมืออีกฝ่ายและถามว่า “ฮาวอาร์ยู?”
“ไฟน์...” ผู้ช่วยมองฉีเติ่งเสียนพร้อมกับการแสดงออกบนสีหน้าที่ดูแปลกขึ้นเรื่อยๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...