มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1009

สรุปบท บทที่ 1009 ระหว่างเพื่อน: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 1009 ระหว่างเพื่อน – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1009 ระหว่างเพื่อน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ทางด้านตระกูลจี้ หลังจากที่ได้รับข่าวว่าฉีเติ่งเสียนออกจากงานชุมนุมการต่อสู้ได้สำเร็จ ก็อดที่จะตะลึงไม่ได้

ทุกคนล้วนรู้กันดีว่า การที่จัดงานชุมนุมการต่อสู้ขึ้นนั้น ก็เพื่อที่จะจัดการกับฉีเติ่งเสียน

แต่กลับเป็นว่า เจ้าตัวมาแล้ว ยอดฝีมือในงานชุมนุมการต่อสู้นั้นกับบาดเจ็บและตายไปไม่น้อยเลย อีกทั้งเจ้าตัวยังออกมาจากงานด้วยความสบาย กระทั่งว่า คนหนุ่มสาวสองคนก็ถูกสังหารในที่เกิดเหตุ

สององค์กรหลักอย่างสมาคมหงแห่งเซียงซานและเซียงซานหลงเหมิน อดไม่ได้ที่จะโกรธเป็นอย่างมาก จึงได้ส่งยอดฝีมือออกไปตาหา ถึงขนาดตั้งเงินรางวัลในการจับตัวฉีเติ่งเสียนกันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม เงินรางวัลนี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ คุณชายตระกูลรอธไชล์ดถูกฆ่าตาย จึงได้เสนอเงินรางวัลออกมาเน้นๆเป็นเงินจำนวนหนึ่งพันล้านดอลลาร์ ก็ไม่เห็นจะมีใครได้ไปแต่อย่างใด

ผู้อาวุโสจี้ถอนหายใจ จากนั้นจึงสั่งเลขาให้ไปเตรียมเงินดอลลาร์ เมื่อถึงเวลานั้นก็ไถ่ตัวจี้ข่ายที่อยู่ในมือของฉีเติ่งเสียนกลับมา

ขณะเดียวกัน เขาก็แอบดีใจ ที่ตอนที่ฉีเติ่งเสียนมาบุกเพื่อลักพาตัวตอนนั้น ตระกูลจี้ไม่ได้ขัดขืน ไม่อย่างนั้นแล้ว ไม่รู้จะตายกับไปกี่คน

ไอ้เด็กนี่ตอนนี้ยิ่งมีชื่อเสียงโดงดังในเรื่องผู้ก่อการร้ายที่โหดร้าย ขวนโหลดเก่าที่ถูกทำให้แตกกระจาย หาเรื่องถูกเขาล่ะก็ ไปได้ได้ที่จะลงมือฆ่าทันที โดยไม่มีความเมตตาใดๆ

ฉีเติ่งเสียนปรากฏตัวในงานชุมนุมการต่อสู้ แถมเรื่องที่เขาลงมือกวาดฆ่าอย่างอุกอาจนั้นได้ส่งกันปากต่อปาก จนเบื้องบนของหัวกั๋วก็ยังตะลึง

และบางคนก็ชิงโอกาสใช้เวลานี้ในการพูดถึงฉีเติ่งเสียน ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมและน่ากลัวแล้วยังอันตรายเป็นอย่างมาก หากครั้งหน้ากล้าโผล่หน้ามาล่ะก็ เขาจะต้องถูกฆ่าทิ้งในทุกกรณี

ฉีเติ่งเสียนที่ทำให้เซียงซานวุ่นวายไปหมดนั้น เวลานี้กำลังนอนอาบแดดอยู่บนเรือ พร้อมกับดื่มแชมเปญปลอม ในมือก็กินทูน่าที่กัปตันเป็นคนแล่ด้วยตัวเอง เป็นการใช้ชีวิตที่มีความสุขมากเลยทีเดียว

สามวันถัดมา เรือลำนี้ได้เทียบฝั่งเป็นที่เรียบร้อย

ตำแหน่งอยู่ที่ท่าเรือของเกาะทามาร์แห่งหนานหยาง

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าชื่อสถานที่แห่งนี้น่าสนใจเป็นอย่างมาก เกาะทามาร์ ทามาที่แปลได้ว่าแม่ง......

จี้ข่ายนั้นบัดนี้ได้ดูเหมือนกำลังจะตายไม่ปาน สีหน้าขาวซีด มือเท้าไร้เรี่ยวแรง ราวกับเป็นโรคร้ายอย่างนั้น

กี่วันมานี้ แม้ว่าฉีเติ่งเสียนจะไม่ได้ทรมานเขา แต่การที่ให้คนถูกมัดอยู่แบบนี้นั้น อีกทั้งยังต้องเจอเข้ากับแดดที่ร้อนแรง จะทนไหวได้อย่างไร?

“เจ้าแกะอ้วน เดี๋ยวฉันได้เงินแล้ว จะปล่อยนายไปนะ!” ฉีเติ่งเสียนกล่าวพร้อมกับเอามือแปะเข้าไปยังใบหน้าของจี้ข่าย

จี้ข่ายในตอนนี้ไม่กล้าที่จะวางมาดกับเขาแล้ว ถึงขนาดว่าคำแรงๆก็ไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาแม้แต่คำเดียว

ในที่สุดจี้ข่ายก็ทนไม่ไหว“นายปลอมตัวเป็นหลี่ปั้นเสียน แล้วซ่อนตัวอยู่ที่เซียงซานมาโดยตลอดใช่ไหม?”

“คิดไม่ถึงว่านายก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย ถึงได้ทายถูก!” ฉีเติ่งเสียนชะงักไปพักหนึ่ง

“ฉันว่าแล้ว!” จี้ข่ายพูดเสียงเย็น

“ครั้งก่อนฉันช่วยนายไว้ แต่นายกลับมอบโทษให้ฉัน อีกทั้งผู้อาวุโสของนายยังทำให้ฉันตกใจ ที่จริงแล้ว ครั้นที่นายกับเซี่ยเทียนอวี้มาหาเรื่องสวีเอ้าเสวี่ยนั้น ฉันก็ได้มีความคิดที่จะลักพาตัวนายมาเรียกค่าไถ่ไว้แล้ว ที่ช่วยนายในวันนั้น เป็นเพราะความบังเอิญทั้งนั้น......”

“เพียงแต่ว่า คนอย่างนายนี้มันไม่รู้จักชั่วดี ฉันช่วยนายไว้แท้ๆ แต่นายกลับพูดแบบนั้นกับฉัน!”

“ถ้าตระกูลจี้ของนายในตอนนั้นต้อนรับฉันในฐานะแขกผู้มีเกียรติ แล้วสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับฉัน เป็นไปได้ว่าฉันในตอนนั้น อาจจะไม่ลงมือกับนายอย่างในตอนนี้ก็เป็นได้”

“แต่ก็ต้องขอบคุณตระกูลจี้ของพวกนาย ที่ชอบมองผู้คนจากมุมมองของนายทุน การที่ฉันทำแบบนี้นั้น ทำให้ฉันไม่มีภาระทางใจอีกต่อไป”

หลังจากที่จี้ข่ายได้ฟังก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้“นายแค่ใช้วิธี ก็ออกไปจากเซียงซานได้! แต่อย่างไร นายในตอนนี้มีสถานะเป็นผู้ก่อการร้าย ถึงได้เงินก้อนนี้ไป ก็ไม่มีที่เยอะขนาดให้นายได้ใช้เงินหรอก!หรือนายคิดว่าความสัมพันธ์ของตระกูลจี้เรากับยรื่อปู้ลั่วนั้นเป็นของปลอม?”

“เรื่องนี้นายไม่ต้องกังวลไป พอถึงเวลานั้น ฉันจะไปเยี่ยมตระกูลจี้อีกครั้ง”

จี้ข่ายสีหน้าแข็งค้าง กัดฟันพูด“ได้ นายมาเลย!”

จี้ข่ายมองเฉินเลี่ยด้วยใบหน้ามืดครึ้ม และคิดอะไรบางอย่างในใจ

เฉินเลี่ยกลับพูดว่า“ทางที่ดีนายอย่าคิดแบบนี้ แบบนี้ไม่มีผลอะไรกับตระกูลเฉิน อีกอย่าง ตอนนี้ชีวิตเล็กๆของนายอยู่ในกำมือฉัน”

โดยเดิมจี้ข่ายคิดว่าฉีเติ่งเสียนเป็นผู้ก่อการร้ายที่น่ากลัวแล้ว แถมตอนนี้ยังเกี่ยงข้องกับเฉินกรุ๊ปแห่งหนานหยางอีก จะกระจายข่าวนี้ออกไปดีไหม อีกทั้ง เงินของตระกูลจี้ได้โอนเข้าไปยังธนาคารของเฉินกรุ๊ปแล้ว ถือได้ว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่พอที่จะทำอยู่

เฉินเลี่ยเตรียมคนไว้แล้ว จากนั้นจึงพาจี้ข่ายออกจากท่าเรือ

กัปตันพุ่งเข้ามาด้วยความดีใจ พร้อมกับชูนิ้วมาหนึ่งนิ้วแล้วพูดว่า“สำเร็จแล้ว!”

“ให้คนของพวกนายถอนเงินสองร้อยล้านจากธนาคารออกมาให้เขา อย่าลืมล้างเงินให้สะอาด” ฉีเติ่งเสียนกล่าว

“เงินสกปรกก็ไม่เป็นไร ฉันไม่กลัว!ถ้าไม่ล้าง จะได้เงินเพิ่มไหม?”

ฉีเติ่งเสียนและเฉินเลี่ยไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไป

ไม่ช้า กัปตันก็ได้รับเงินสองร้อยล้าน แถวยังได้ค่าเรือสามวันจากฉีเติ่งเสียน สามล้านดอลลาร์

“ทำงานกับรองหัวหน้าใหญ่ที่มันกินดีอยู่สบายซะจริง ทำสามวันได้เงินเท่ากับที่ฉันทำมาสิบปี” กัปตันอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา“รองหัวหน้าใหญ่ อย่าบอกว่านายเป็นผู้ก่อการร้ายระดับประเทศอีกเลย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะบอกว่านายเป็นผู้นําขององค์กรก่อการร้าย ฉันก็จะทำงานให้กับนาย!”

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก โบกมือไปมา“รีบเอาเงินแล้วไสหัวไปซะ อย่ามาพูดมากเเถวนี้”

“ธนาคารเฉินของพวกเราก็แบกความเสี่ยงเพื่อช่วยให้คุณรับเงินจากตระกูลจี้ ควรจะมีส่วนแบ่งสักหน่อยไหม?” เฉินเลี่ยพูดกับฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนชะงัก “เพื่อนกันยังต้องพูดเรื่องนี้อีกหรือ?”

“ใช่สิ เพื่อนกัน รู้อยู่ว่าเหอเหลียนเซิ่งเป็นพวกเราเฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ประคองขึ้นมา ยังมีคนมีหน้ามาเรียกเงินตั้งหกร้อยล้านแหนะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง