แต่ทว่า ถึงจะไว้ชีวิตที่เน่าเฟะอย่างจ้านเฟย ชื่อเสียงของบุคคลนี้ก็ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ความคิดของฉีเติ่งเสียนเปลี่ยนไปทันที ก็ได้มาถึงสุดปลายถนนแล้ว ขึ้นรถเก๋งไป
รถเก๋งขับอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังท่าเรือ
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”เฉียวชิวเมิ่งที่นั่งอยู่ในรถมองไปที่ฉีเติ่งเสียนที่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“เมิ่งซวนถงและเฉินซงเฟยทั้งหมดตายคามือฉันแล้ว และยังมีปรมจารย์อีกไม่กี่คนที่ถูกฉันฆ่าตาย แต่ทว่า จ้านเฟยกลับยังมีชีวิตอยู่”ฉีเติ่งเสียนส่ายส่ายหัวและพูด
เฉียวชิวเมิ่งได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะวางใจ และเอ่ยถาม:“จ้านเฟยยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่เป็นอะไร ผู้นำสมาคมรักชาติและผู้ถือหางเสือเรือหลงเมินทั้งหมดตายต่อหน้าเขา หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ชื่อเสียงของเขาได้รับความเสียหายอย่างมาก เป็นเรื่องยากที่จะได้รับการสนับสนุนจากผู้คน”
“การต่อสู้ของวันนี้ สามารถพูดได้ว่าเป็นความพยายามของตนเอง ทำลายกระดูกสันหลังของวงการบู๊ลิ้มทางใต้ไปแล้วเกินครึ่ง”
“คนเดียวเป็นศัตรูทั้งประเทศ มันก็เป็นแบบนี้แหละ!”
ฉีเติ่งเสียนกลับถอนหายใจแล้วพูด:“สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจที่สุด ก็คือการปล่อยคาร์กคนนั้นไป บุคคลนี้มีศิลปะการต่อสู้เลิศล้ำ ไม่ด้อยไปกว่าฉัน ปล่อยให้เขาไป มันจะเป็นภยันตรายที่ซ่อนตัวอยู่ภายในอย่างแน่นอน!”
เฉียวชิวเมิ่งพูด:“ถ้าอยากจะเหลือผู้มีฝีมือสูงแบบนี้ไว้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก ครั้งที่แล้วที่ประเทศมี่ ไม่ใช่ว่าเขาก็ปล่อยคุณไปหรอกหรอ?ครั้งนี้เขาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน นับว่าดีมาก็ดีไป กลับคืนไปให้เขา!”
ฉีเติ่งเสียนพูด:“งานประชุมศิลปะการต่อสู้ครั้งใหญ่ฆ่าคนตายไปมากมายขนาดนี้ เรื่องราววุ่นวายใหญ่โต ฉันต้องรีบไปจากเมืองเซียงซานแล้ว อีกไม่นาน เกรงว่ากองทัพจะทำการปิดล้อมครั้งใหญ่แล้ว อีกอย่าง ผู้มีฝีมือสูงมมากกว่าครึ่งก็จะรีบมา คุณต้องระวังให้มากหน่อย!”
ฉีเชียวเมิ่งพูดอย่างสงบ:“คุณวางใจเถอะ พวกเรากองทัพราตรีนิรันดร์ สิ่งที่เชี่ยวชาญที่สุดคือการซ่อนตัวอยู่ในความมืด ทำให้แตกกระจายเป็นส่วนย่อยๆ”
ไม่นาน รถก็ไปถึงใกล้ๆท่าเรือแล้ว
ฉีเติ่งสียนพยักหัวเล็กน้อยกับเฉียวชิวเมิ่ง ผลักประตูและลงรถไป
ในเวลานี้ ฝนที่ตกหนักก็ค่อยๆเบาลงแล้ว
กัปตันเรือเห็นเงาของฉีเติ่งเสียน ก็รีบสตาร์ทในทันที รอจนกว่าเขาจะขึ้นเรือ ก็ไปจากที่นี่ทันที
“เมื่อถึงต่างประเทศก็ต้องระวังทั้งหมด!”เฉียวชิวเมิ่งพูดเตือนฉีเติ่งเสียน
“สบายใจได้”ฉีเติ่งเสียนตอบกลับหนึ่งคำ หลังจากนั้นก็ขึ้นเรือไป
กัปตันเรือก็แล่นออกไปทันที ออกจากท่าเรือโดยตรง ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถเข้าถึงพื้นที่กงไห่ หลังจากนั้นก็จัดการหนานหยาง
จี้ข่ายได้ตื่นขึ้นมาในเวลานี้ ก็ถูกไว้ล่างเสากระโดงเรือ ใบหน้าเต็มไปด้วยควมโกรธ ร้องเอะอะโวยวาย
“ไอ้บ้านี่พูดจาไร้สาระเสียงดังเกินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะคุณค่าเงินของเขา ฉันอยากจะตัดลิ้นของมันออกมาจริงๆ!”กัปตันเรือพูดกับฉีเติ่งเสียนอย่างไม่มีความอดทน
“ฮ่าฮ่า อย่าดิ้นรนกับเงินไปเลย!”ฉีเติ่งเสียนยื่นมือออกมาตบไปที่ไหล่ของกัปตันเบาๆ และพูดชิลๆ
กัปตันแบะปาก พูด:“จิตใจของฉันถูกเขาก่อกวนนานขนาดนี้ เพิ่มเงินได้มั้ย!”
ฉีเติ่งเสียนอยากจะมอบเจี๊ยวใหญ่ให้เขา คุณหมกมุ่นอยู่กับเงินใช่ไหม เงินของเพื่อนๆทั้งหลาย สามารถหาง่ายขนาดนี้เลยหรอ?สิบเปอเซ็นต์ก็พอแล้ว อย่าไม่รู้จักพอเถอะ!
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความจริงจัง:“ฉันจะสามารถให้โอกาสเที่ยวพักร้อนคุณฟรีๆได้ ต้องการหรือไม่?”
“นั่นมันไม่เลวเลย มันเหนื่อยที่จะต้องอยู่ในทะเลตลอดทั้งวัน ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดแน่นอนว่ามันดีมากสิ!”กัปตันพยักหัวตอบตกลงในทันที
“เที่ยวเรือนจำโยวตูสามเดือนเป็นยังไง? รับประกันว่าพิเศษอย่างยิ่ง”ฉีเติ่งเสียนวางมือไว้บนไหล่ของกัปตัน และยิ้ม
สีหน้าของกัปตันแข็งทื่อ ถึงแม้เขายังไม่เคยเข้าไปในคุกนี้ แต่กลับได้ยินนักโทษหลายคนที่ออกมาจากเรือนจำพูดถึงความพิเศษของเรือนจำแห่งนี้
ในเรือนจำมีพวกโรคจิตใหญ่และเล็กสองคน
โรคจิตคนโตมีแน้วโน้มใช้ความรุนแรง ชอบระเบิดหัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...