ไม่กี่วันต่อมา ฉีเติ่งเสียนและอวี่อวิ๋นหว่านไปเที่ยวกันต่อหลายประเทศในยุโรป ก่อนจะไปส่งเธอขึ้นเครื่องกลับประเทศมี่
ฉีเติ่งเสียนได้แต่หวังว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลต่อความร่วมมือของเธอและอิเลียน่าจินวา หากแตกคอกันเพราะเรื่องหึงหวงก็คงไม่ดีเท่าไหร่
"ใกล้จะต้องกลับเซียงซานแล้วล่ะ! คราวนี้ฉันจะกลับไปแบบเฉิดฉาย ดูสิว่าจะมีใครหน้าไหนกล้าขวางทางฉันอีก?" ฉีเติ่งเสียนสีหน้าเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
หลังจากที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเป็นกบฏ เขาก็ซ่อนตัวอยู่ในทิเบตมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้ เขาได้กลายเป็นพระอัครสังฆราชของทางเขตใต้แล้ว ซึ่งเป็นบุคคลระดับสูงที่มีอำนาจ ทีนี้ใครจะยังกล้าเอาผิดกับเขาอีก?
นอกจากนี้ ข้อกล่าวหาทั้งหมดของลู่จ้านหลง ก็ถูกชำระหลังจากที่เขาได้ตำแหน่งพระอัครสังฆราชไปด้วย
พรรคพวกของฟู่เฟิงหยุนเองก็ใช้ช่วงเวลาสำคัญนี้กางหลักฐานสำคัญออกมา สถานการณ์ของหัวกั๋วในตอนนี้กำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย บุคคลระดับสูงของเมืองหลวงหลายคนต้องรับผิดชอบและถูกไล่ออก
แผนการใช้เงินหกพันล้านของฉีเติ่งเสียนในเทียนจู่กั๋ว ทำให้พรรคพวกของฟู่เฟิงหยุนเริ่มพลิกสถานการณ์ขึ้นมาได้
แม้แต่ตระกูลรอธไชล์ดเองก็ยังออกมาพูดหลังจากที่ฉีเติ่งเสียนกลายเป็นพระอัครสังฆราชแล้ว บอกว่าระหว่างพวกเขากับฉีเติ่งเสียนคงมีเรื่องเข้าใจผิดกันไปหน่อย ต้องมีคนพยายามใส่ร้ายฉีเติ่งเสียนแน่
ไม่นาน ฉีเติ่งเสียนก็กลับมาถึงเซียงซานได้อย่างยิ่งใหญ่
ครั้งนี้ก็ยังมีคนจากสำนักงานความปลอดภัยแห่งชาติจำนวนมากอยู่ที่สนามบินเซียงซาน แต่รอบนี้ไม่ได้มาเพื่อจับเขาแล้ว มาเพื่อปกป้องเขามากกว่า
ในฐานะที่เป็นถึงพระอัครสังฆราชของทางเขตใต้ หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นกับเขา คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
"คราวหน้าไปออนเซ็นต้องปลอมมั้ยนะ? โชคดีที่คนหัวกั๋วไม่ค่อยนับถือศาสนาคริสต์ คงไม่สนใจข่าวพวกนั้น" ฉีเติ่งเสียนคิดในใจ
ศาสนาในหัวกั๋วซับซ้อนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าของลัทธิเต๋า พระโพธิสัตว์ของศาสนาพุทธ หรือตำนานพื้นบ้านทั่วไป พวกเขาล้วนเชื่อไปเสียหมด
ถึงแม้ศาสนาคริสต์จะเป็นนิกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมในหัวกั๋วมากนัก
มีสายตาอาฆาตแฝงกลิ่นอายสังหารนับไม่ถ้วนมองมาที่ฉีเติ่งเสียน แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา
ทำไงได้ ผู้ก่อการร้ายที่เพิ่งจะฆ่าคนในเซียงซานไปเมื่อไม่นานมานี้ พริบตาเดียวกลับกลายเป็นพระอัครสังฆราชของทางเขตใต้ไปซะแล้ว
สิ่งแรกที่ฉีเติ่งเสียนทำหลังกลับมาถึงเซียงซานไม่ใช่การไปเจอหยางกวนกวนหรือสวี่ฉางเกอ แต่เขาตรงไปตระกูลจี้ก่อนทันที
ในขณะที่กำลังนั่งรถไปบ้านตระกูลจี้ เขาก็หยิบชุดนักบวชสีแดงออกมาจากกระเป๋าเดินทาง จากนั้นก็สวมใส่ทันที โดยมีสายตาตกใจของคนขับรถที่มองผ่านกระจกมองหลังมา
"ท่านบาทหลวง ถึงแล้วครับ!" คนขับพูด
"บาทหลวง? พระอัครสังฆราชต่างหาก!" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ
เห็นอยู่ชัดๆว่าเขาเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของเซิร์ฟที่ร่ำรวยที่สุด แต่ก็ยังมีคนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นผู้เล่นธรรมดาอยู่อีก น่าอารมณ์เสียที่สุด!
หลังจ่ายเงินแล้วเขาก็ลงจากรถ สวมชุดสีแดงสด ในมือถือคทาพระอัครสังฆราช เดินผ่านประตูใหญ่ของตระกูลจี้เข้าไป
"ปัง! ปัง! ปัง!"
เขาเคาะประตูเสียงดัง
คราวนี้คนที่มาเปิดประตูก็ยังเป็นชายชราในชุดแบบสมัยถังคนเดิมเหมือนคราวก่อน
ชายชราเห็นเขาสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง "แกยังกล้ามาที่นี่อีกเรอะ?!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...