“ต้องการเท่าไหร่?”
หลี่เสวียนเจินเลิกเล่นกับฉีเติ่งเสียน แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา
เธอรู้ว่าความสัมพันธ์ของฉีเติ่งเสียนกับซุนอิ่งซูนั้นเป็นเพื่อนที่ซี้กันมาก หากทำให้ฉีเติ่งเสียนทรยศซุนอิ่งซูได้ล่ะก็ มันจะเป็นการโจมตีที่เจ็บปวดต่อซุนหยิงอย่างไม่ต้องสงสัย
“เรื่องนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเจตนาของคุณหนูหลี่แล้ว ให้ผมเป็นคนบอกนั้น มันจะไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่” ฉีเติ่งเสียนพูด
“หนึ่งร้อยล้าน ดอลลาร์ เป็นอย่างไร?” หลี่เสวียนเจินพูด
“ได้ โอนมาได้เลย ผมจะส่งเลขบัญชีให้เดี๋ยวนี้ พอเงินเข้าบัญชี ผมก็จะตัดขาดกับเธอทันที!”
“พระอัครสังฆราชฉี ต้องพูดกับเธอให้ชัดเจนก่อน จากนั้น เงินก้อนนี้ฉันถึงจะโอนให้นายได้”
“แบบนี้คงไม่ได้ คุณเป็นถึงเจ้าหญิงจางแห่งซ่างซิง มีทั้งเงินทองและอำนาจ หากผมทำแล้ว คุณเบี้ยว เงินสักบาทก็ไม่ให้ผม แบบนี้ผมไม่ขาดทุนแย่หรอ?ผมก็ทำอะไรคุณไม่ได้อีก” ฉีเติ่งเสียนยื่นมือออกไป พูดด้วยท่าทีช่วยไม่ได้
หลี่เสวียนเจินฟังแล้วก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ที่พูดมาก็มีเหตุผล“ฉันสามารถออกเช็คให้นายก่อนหนึ่งใบ หลังจากที่นายทำสำเร็จแล้ว ก็สามารถนำเช็คนี้ไปขึ้นเงินได้ทันทีเป็นอย่างไร?”
“ผมมันบ้านนอก ใช้เช็คไม่เป็น รับเพียงโอนเงินเท่านั้น!”
หลี่เสวียนเจินเริ่มขบฟัน และขมวดคิ้วมองฉีเติ่งเสียน รู้สึกว่าคำพูดของคนนี้ ฟังดูไม่ค่อยเข้าท่าซะเท่าไหร่
“กำลังเล่นตลกกับฉันอย่างนั้นหรือ?” หลี่เสวียนเจินได้สติกลับมา จึงพูดด้วยเสียงเย็น
“ทำไมถึงพูดแบบนี้?ผมจริงใจมากนะ!” ฉีเติ่งเสียนโบกมือ พูดด้วยความไม่แยแส
หลี่เสวียนเจินกลับยิ้มเย็นแล้วหันหน้าไป ไม่สนใจเขาอีกต่อไป
ฉีเติ่งเสียนเลิกคิ้วขึ้น อ่า เจ้าหญิงจางแห่งซ่างซิงคนนี้เฉียบแหลมซะจริง รู้ว่าเขาเป็นประเภทพวกรับเงินแต่ไม่ทำงาน ระวังตัวขนาดนี้
ทำอะไรไม่ได้ เขาได้แต่กลับมาอยู่ข้างกายของซุนอิ่งซู
“เธอซื้อนาย?” ซุนอิ่งซูคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มมองไปยังฉีเติ่งเสียน และถามด้วยเสียงเบา จากนั้นนิ้มมือค่อยๆกรีดลากผ่านเข้าที่หน้าอกเขา
“ใช้แล้ว......” ฉีเติ่งเสียนยื่นมือออกมาจับเข้าไปที่มือหยก พร้อมกับดึงเบาๆ ซุนอิ่งซูก็ได้มาอยู่ข้างกายเขาเป็นที่เรียบร้อย
บนเรือยอชต์ลำนี้ เต็มไปด้วยขาใหญ่แห่งซ่างซิง ในนั้นยังมีคนของตระกูลชุยอยู่ด้วย หลังจากที่พวกเขาเห็นฉากนี้เข้า ก็อดไม่ได้ที่จะโมโห
พวกเขาต้องการไล่เธอออกไปซ้ําแล้วซ้ําเล่าด้วยข้ออ้างที่ว่าซุนหยิงซูมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น แต่ก็ล้มเลวไม่เป็นท่า คราวนี้ ซุนหยิงซูได้ยื่นไม่มาในมือของพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใช้มันอยู่ดี
เพราะว่า ฉีเติ่งเสียนเป็นพระอัครสังฆราชเขตทางใต้ของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ ตำแหน่งและชื่อเสียงค่อนข้างใหญ่โต
หากใช้เรื่องนี้มาเป็นข่าวละก็ จะเป็นการรนหาที่ตายให้ตัวเองชัดๆ
ศาสนาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตำแหน่งเดียวกับประเทศโคกูรยอ มีศักดิ์ศรีสูงมาก
ซุนอิ่งซูที่เชิญฉีเติ่งเสียนมาร่วมงานเลี้ยงนี้เป็นเพื่อนอย่างออกหน้าออกตา ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใจแก้แค้นแต่อย่างใด
“คิดไม่ถึงว่าพระอัครสังฆราชฉีจะอยู่บนเรือกับเขาด้วย!” ทันใดนั้น ชายกลางคนที่โดยสารเรือ ก็เปรยขึ้นมาอย่างมีความใน
ฉีเติ่งเสียนหันหน้าไป ก็เห็นเข้ากับเมิ่งเชียนเซิงและเฉินปาเซี่ยสองคนนั้นที่ใบหน้าราวกับคนกำลังจะตกน้ำไม่ปาน อย่างไรก็ตาม ใบหน้าเขากลับปรากกรอยยิ้มอันสว่างไสว
“นี่ ได้ข่าวมาว่าลูกชายของพวกคุณถูกผู้ก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมฆ่าตาย เสียใจด้วยนะ!” ฉีเติ่งเสี้ยนประสานมือให้กับทั้งสอง แต่รู้สึกว่ามันไม่ถูก จึงรีบเปลี่ยนมือแล้วทำเครื่องหมายกางเขนแทน“ขอให้วิญญาณของพวกเขา ได้ไปอยู่กับพระเจ้าตลอดไป อาเมน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...