มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 107

“คุณฉี เมิ่งเมิ่งกลับไปแล้วเหรอ?”

หลี่อวิ๋นหว่านจอดรถ ถามในขณะที่เดินไปหาฉีเติ่งสียนที่มองมาที่รถ

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า หยิบกระเป๋าเงินจากมือของเธอ หยิบคีย์การ์ดออกมา และเปิดประตูอย่างชำนาญ

“เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณ เธอกลับไปได้แล้ว” ฉีเติ่งเสียนเปิดประตูแล้วเดินตรงเข้าไป

EQ สูง: ขอบคุณครับ มันดึกแล้ว คุณจะพักกันที่นี่ไหม?

EQ ต่ำ: ขอบคุณ กลับไปได้แล้ว

หลังจากที่หลี่อวิ๋นหว่านตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก็โกรธมากที่ฉีเติ่งเสียนด้วย ทำตัวเป็นพวก EQ ต่ำจน เธอกะจะเตะที่ก้นเขา แต่เธอแทบจะหน้าทิ่ม พร้อมโวยวายใส่เขา: “นายจะทำบ้าอะไรเนี่ย?!”

ฉีเติ่งเสียนมองไปทางด้านหลัง ก้าวออกมายืนด้านข้าง ทำให้หลี่อวิ๋นหว่านเตะอากาศ ทันทีที่เท้าตกลงบนพื้น ร่างกายก็โน้มตัวไปข้างหน้าตามแรงโน้มถ่วง ทำให้เสียหลักจนล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด

“ฮ่าฮ่าฮ่า ทำร้ายคนอื่นไม่ได้ ก็เจ็บตัวเอง!” ฉีเติ่งเสียนยืนด้านข้างหัวเราะพร้อมทั้งเท้าสะเอว

หลี่อวิ๋นหว่านทำหน้าบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวด เกือบจะหลั่งน้ำตา เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของฉีเติ่งเสียน เธอทั้งหัวเราะและจะร้องไห้ ผู้ชายคนนี้ไร้สมองจริงๆหรือ? ในเวลานี้เธออยากจะหัวเราะเยาะตัวเอง!

ฉีเติ่งเสียนเอื้อมมือออกไป ก่อนที่หลี่อวิ๋นหว่านจะลุกขึ้นมาได้ เขาดึงเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า “แน่นอน ฉันจะดึงเธอขึ้นมา แต่หลังจากที่ฉันหัวเราะจนพอใจเท่านั้น”

หลี่อวิ๋นหว่านโกรธมากจนเธอรู้สึกว่าชีวิตของเธอจะสั้นลงแน่ๆ ถ้าเธออยู่กับผู้ชายคนนี้นานไปมากกว่านี้

“มันเจ็บ.....” ทันทีที่ยืนได้ รู้สึกเจ็บปวดแปลบที่ข้อเท้าขวา ดังนั้นเธอจึงเอื้อมมือไปคล้องคอของฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนมองดูรูปร่างหน้าตาของหลี่อวิ๋นหว่านไม่ว่าความอดทนเขาจะต่ำแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถขับไล่เธอกลับไปได้ เขาทำได้เพียงก้มลง อุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าหญิงแล้วเดินเข้าไปในวิลล่า

นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่อวิ๋นหว่านถูกผู้ชายอุ้ม ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง และผิวของเธอก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วร่างกาย เธอเม้มริมฝีปากสีแดงของเธอเบา ๆ แกล้งเสมองไปทางอื่น

หลังจากนั่งมั่นบนโซฟาแล้ว หลี่อวิ๋นหว่านก็ยกเท้าขึ้นและเห็นว่าข้อเท้าของเธอเริ่มบวมแดง

มันทำให้เธอโหโหมาก เดิมทีเธอตั้งใจจะเตะฉีเติ่งเสียน แต่สุดท้ายเธอกลับทำร้ายตัวเองแทน

ขัดใจจริงๆ ! โมโห !

ฉีเติ่งเสียนเจอยาแก้ปวดจากกล่องยาและโยนมันไปให้หลี่อวิ๋นหว่าน

แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากที่หลี่อวิ๋นหว่านลูบๆคลำๆมันครั้งสองครั้ง เธอก็ทำหน้าบูดบึ้งและปฏิเสธที่จะบีบนวด ฉีเติ่งเสียนเห็นดังนั้นเขาจึงทำเข้ามาช่วยเธอ

การนวดนี้ทำให้หลี่อวิ๋นหว่านเจ็บปวดมากจนแทบจะกลิ้งตัวลงไปบนโซฟา ผิวหนังที่ข้อเท้าของเธอถูกนวดจนเริ่มเป็นสีแดงและมีเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากของเธอ

หลี่อวิ๋นหว่านยังคงสวมชุดออกงานและเนื่องจากความเจ็บปวดเธอจึงประมาทเรื่องท่านั่งบนโซฟา ทำให้ฉีเติ่งเสียนเห็นบางฉากที่เขาไม่ควรเห็น

ต้องบอกว่าผิวที่เรียบเนียนและรูปร่างที่ได้สัดส่วนที่ดีของหลี่อวิ๋นหว่าน ควบคู่ไปกับเสียงครวญครางที่เจ็บปวด ทำให้ใครก็ตามที่ได้ยินต้องอดคิดตามไม่ได้แน่ๆ

ฉีเติ่งเสียนนึกถึงบทกวีโบราณ: เสียงร้องดังก้อง สามวันไม่เสื่อมคาย (บรรยายถึงการร้องเพลงที่ไพเราะและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับผู้คน)

เขารู้สึกใจคอไม่ดีจึงต้องขอให้หลี่อวิ๋นหว่านหยุดกรีดร้อง

“มันเป็นความผิดของนายทั้งหมด นายไม่ทำให้ฉันโกรธบ้างจะได้ไหม!” หลี่อวิ๋นหว่านพูดด้วยความโกรธและถดเท้า

“นี่เป็นความผิดของฉันด้วยเหรอ?” ฉีเติ่งสียนยกมืออย่างช่วยไม่ได้

ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกจริงๆ เห็นๆอยู่ว่าเธอไม่ได้ปฏิบัติตามหลักศิลปะการต่อสู้ เธอมาแอบโจมตีลับหลัง ทำให้เธอล้มลงไปเอง และตอนนี้เธอโทษเขาว่าไม่จริยธรรมในการต่อสู้!

แน่นอนว่าผู้หญิงส่งผลต่อความเร็วในการชักดาบเท่านั้น!

“พรุ่งนี้นายต้องพาฉันกลับบ้าน ฉันข้อเท้าแพลง แค่เหยียบเบรกก็ไม่ได้แล้ว!” หลี่อวิ๋นหว่านกล่าว

“นี่ไม่ใช่วิธีอ่อยของผู้หญิงใช่ไหม?” ฉีเติ่เงสียนถามเบา ๆ

หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกว่าการมองเห็นของเธอมืดดับลง เธอโกรธจนลมแทบจะออกหู

เธอคิดว่าเธอจะต้องให้พ่อของเธอมาพบเขาพรุ่งนี้เพื่อปูทางสำหรับแผนการในอนาคต

หลี่อวิ๋นหว่านเป็นลูกคนเดียว เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่แยกทางกัน ตอนนี้แม่ของเธอทำงานที่ต่างเมือง พ่อของเธอดูแลมู่จื่อกรุ๊ป

“จริงสิ นายโกรธฉันโกรธ จนเราไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้!” หลี่อวิ๋นหว่านโบกมืออย่างอ่อนแรงและทรุดตัวลงบนโซฟาด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดว่า “เอาล่ะ เธอจะอยู่ที่นี่คืนนี้ก็ได้ ยังไงซะเธอก็เป็นแขกประจำอยู่แล้ว ฉันจะพาเธอกลับบ้านพรุ่งนี้แต่เช้า”

ขณะที่เขากำลังพูด เขาได้รับโทรศัพท์จากเซี่ยงตงฉิง

เขาไม่คาดคิดว่าเซจะโทรมาสายขนาดนี้

“นายมีที่ดินสองร้อยเอเคอร์ในดินแดนแห่งคนตายหรือเปล่า?” เซี่ยงตงฉิงถามตรงประเด็น

“ครับ” ฉีเติ่งเสียนตอบรับ

“ฉันเพิ่งซื้อที่ดินทั้งหมดในพื้นที่ดินแดนแห่งความตายของเฉียวกรุ๊ปในราคาเดิม เก็บที่ดินไว้ในมือของนายไว้ แล้วเรามาพัฒนาร่วมกันเมื่อถึงเวลา!” เซี่ยงตงฉิงกล่าว

“ผมไม่สามารถให้พื้นที่สองร้อยเอเคอร์ทั้งหมดแก่คุณได้ ผมจะให้หนึ่งร้อยเอเคอร์แก่คุณ ผมจะมอบอีกร้อยเอเคอร์ให้กับมู่จื่อกรู๊ป” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างจริงจัง

เซี่ยงตงฉิงกล่าวว่า: “มันขึ้นอยู่กับนาย แต่ฉันกำลังจะจัดตั้งบริษัทใหม่สำหรับการพัฒนาดินแดนแห่งความตาย นายจะเป็นผู้รับผิดชอบของบริษัทนี้”

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เขาไม่คิดว่าจะได้รับความไว้วางใจจากเซี่ยงตงฉิงให้ทำภารกิจสำคัญเช่นนี้!

“เฮ้ เฮ้ เฮ้... ผมไม่อยากสนใจดูแลอะไรมากมาย ผมสัญญาว่าจะช่วยคุณจัดการกับ สวีเสี่ยวอวี้และอวี้เสี่ยวหลง คุณอย่าเยอะเกินไป......” ฉีเติ่งเสียนกำลังพูดด้วยความโกรธ

“ติ๊ด!”

โทรศัพท์ถูกวางสายทันที สัญญาณสายไม่ว่างดังขึ้น

ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความโมโห: “เซี่ยงตงฉิง ยัยผู้หญิงคนนี้น่ารำคาญจริงๆ ไม่ ฉันต้องทุบเธอตีกลับและจะด่าเธอสักหนึ่งยก!”

หลี่อวิ๋นหว่านอยากรู้อยากเห็นจึงถามว่า “มีอะไร?”

“ฉีตงฉิงกำลังวางแผนที่จะจัดตั้งบริษัทใหม่ จะให้ฉันดูแลของบริษัทนี้” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความโกรธ

“จะเป็นลม!”

เมื่อหลี่อวิ๋นหว่านได้ยินสิ่งนี้ เธอก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็แทบจะเป็นลม เธอชี้นิ้วที่สั่นเทาไปที่ฉีเติ่งเสียน

“เป็นอะไร ฉันไม่โกรธเธอนิ?” ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้ว

“นาย นาย...หยุดเป็นเพอร์เฟกบ้างจะได้ไหม!” หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกอยากจะกระอักเลือด

เซี่ยงกรุ๊ปกำลังจะก่อตั้งบริษัทใหม่และส่งมอบให้กับฉีเติ่งเสียนเพื่อดำเนินการ อะไรดีขนาดนั้น? จริง ๆ แล้ว ฉีเติ่งเสียนคิดว่าเซี่ยงตงฉิงจะหลอกเขาหรือไง และเขาจะโทรกลับไปเพื่อด่าเธอนี่นะ?

ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า: "พื้นที่สองร้อยเอเคอร์ที่สัญญาไว้กับเธอจะลดลงครึ่งหนึ่ง และเราจะให้เธอสูงสุดหนึ่งร้อยเอเคอร์ แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วใช่ไหม?”

“เฮ้ ฉันไม่ได้หวังอย่างนั้นจริงๆ ฉันบอก ชิวเมิ่งเป็นพันครั้งแล้วว่าอย่าขายที่ดินผืนนั้น แต่ฉันไม่คิดว่าจะยังขายที่ดินอยู่.....”

“การกระทำโง่ๆ นี้ไม่ใช่เธอเป็นคนทำแน่... เพราะวันนี้เธออยู่บนเรือสำราญ”

หลี่อวิ๋นหว่านไม่คัดค้าน ที่ดินสองร้อยเอเคอร์ก็เท่ากับของทุกคน มันเป็นสัญญาณของความรักที่เขาเต็มใจที่จะมอบผลกำไรให้กับมู่จื่อกรุ๊ปยิ่งไปกว่านั้น ที่ดินหนึ่งร้อย เอเคอร์ก็ไม่เล็กเกินไป

เมื่อนึกถึงฉีเติ่งเสียนที่ต่อรองกับเซี่ยงตงฉิงเพื่อแย่งชิงที่ดินครึ่งหนึ่งในมือของเขา เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นในใจ

“ขอบคุณ คุณฉี” หลี่อวิ๋นหว่านเหลือบมองฉีเติ่งเสียนอย่างเสน่หา

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อยกับสีหน้าของเธอ และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง

หลี่อวิ๋นหว่านใช้ประโยชน์จากความงุนงงของเขาและโน้มตัวไปในวงแขนของเขา โอบแขนไว้รอบคอของเขาแน่นหนา แล้วจูบเขาเบาๆ

เธอรู้แล้วว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องรีบจู่โจม!

ท้ายที่สุดแล้วเฉียวชิวเมิ่งก็มีข้อได้เปรียบมาแต่แรก

หากเพื่อนเธอตื่นรู้ขึ้นมาก่อนที่จะจู่โจมฉีเติ่งเสียนสำเร็จ เธอก็จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

“ดี......”

ฉีเติ่งเสียนตกตะลึง

เขาไม่อยากยอมรับว่าเขาเป็นคนบ้านนอกที่ไม่ประสีประสา

แต่เมื่อต้องรับมือกับเรื่องแบบนี้ เขาเป็นคนบ้านนอกจริงๆ......

แต่ถึงอย่างนั้นอย่างน้อยเขาก็รู้ว่าเมื่อจูบต้องแทรกแลบลิ้นเข้าไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง