มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1072

สรุปบท บทที่ 1072 ขุนศึก: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 1072 ขุนศึก – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1072 ขุนศึก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ขณะที่เซียวซิงกำลังพูดด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ฉีเติ่งเสียนก็ยกขาขึ้น กระแทกเข่าไปที่กระดูกก้นกบของเขา

คราวนี้โชคดีที่อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำให้เซียวซิงหมดสติไป แค่ทำให้รู้สึกชาไปทั้งตัว

ทหารที่อยู่รอบๆ อดตึงเครียดไม่ได้และพากันชี้ปากกระบอกปืนไปด้านหน้า หวังจะหามุมที่สามารถยิงได้

แต่คนร้ายๆ อย่างฉีเติ่งเสียนจะยอมเปิดช่องหาตัวเองได้อย่างไร? ตอนนี้เซียวซิงบังเขาไว้อย่างมิดชิด

“พวกนายถอยไปหน่อย ฉันค่อนข้างกลัวปืน ถ้าฉันตื่นเต้นขึ้นมาแล้วเผลอเชือดคุณเซียวของพวกนายโดยไม่ได้ตั้งใจจะทำยังไง” ฉีเติ่งเสียนถามยิ้มๆ

พวกทหารกัดฟันกรอด เมื่อคนเป็นหัวหน้าโบกมือ พวกเขาจึงทำได้เพียงถอยหลังไปสองสามก้าว

เซียวซิงเอ่ยอย่างโกรธแค้นว่า “เจ้านี่ ขนาดอยู่ในตู๋ซานเจี่ยวยังกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ ฉันยอมรับเลยว่านายนี่แหละ เป็นคนแรก! นายอยากได้สมุดบัญชี ฉันให้นายได้ แต่นายต้องคิดหน่อยละว่านายจะออกไปได้ยังไง!"

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยเรียบๆ ว่า “นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ว่าฉันจะออกไปได้หรือไม่ แค่ส่งสมุดบัญชีมาให้ฉันก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมจะต้องแข็งขืนขนาดนั้น?”

ถึงอย่างไรเซียวซิงก็เคยเป็นพวกลักลอบค้าของเถื่อนรายใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นบอสระดับที่สั่นคลอนเมืองหลวงได้ เคยประสบพบเจอคลื่นลมมามากมาย เวลานี้ถึงจะถูกฉีเติ่งเสียนจับเป็นตัวประกัน เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเลยสักนิด

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวว่า “ฉันวางสมุดบัญชีไว้ในห้องแล้ว ถ้านายอยากได้ พวกฉันจะไปเอามาให้”

ทันใดนั้นเม่าคุนก็วิ่งเข้ามา

เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีผมขาวครึ่งศีรษะ ผิวคล้ำเข้มเทียบได้กับคนทวีปดำ

คิดว่าพอกัปตันเห็นเขาแล้วคงจะจับเขามาทุบตีทันที...

ขุนศึกผู้นี้มีจิตสังหารที่แข็งแกร่ง ดูเหมือนกับตัวละครโหดเหี้ยมที่เคยสังหารคนมาแล้วนับไม่ถ้วน

เขาเดินไปด้านหน้าพวกทหารด้วยสีหน้าอึมครึม เอ่ยอย่างเยือกเย็นว่า “นายเป็นใครกัน ถึงมาคุกคามคุณเซียวถึงเขตของฉัน”

ฉีเติ่งเสียนคลายตัวเซียวซิงนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ฉันมาเขาเพื่อของบางอย่าง แต่เพราะเขาไม่ให้ เหตุการณ์ก็เลยเป็นแบบนี้! นายคือเม่าคุนขุนศึกของอวี๋ถัวละสินะ?”

เม่าคุนบอกว่า “ฉันคือเม่าคุน นายปล่อยคุณเซียวก่อน มีอะไรเราค่อยมาคุยกัน!"

ทันใดนั้นฉีเติ่งเสียนก็ถีบก้นของเซียวซิง จนเซียวซิงล้มคะมำไปกับพื้น

“ไอ้สารเลว!” เซียวซิงที่ถูกฉีเติ่งเสียนจัดการต่อหน้าคนจำนวนมากรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะโมโห

ฉีเติ่งเสียนบอกว่า “นายอวดดีก่อน จะมาโทษฉันได้ยังไง”

ว่าแล้วเขาจึงพูดกับเซียวซิงต่อไปว่า “นายไปเอาสมุดบัญชีมาให้ฉันดีๆ ไม่อย่างนั้นวันนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะไม่มีใครรอดไปได้เลยสักคน!"

เม่าคุนได้ยินคำพูดที่ยโสอวดดีขนาดนี้ก็ระเบิดหัวเราะออกมาทันที เขาแสยะยิ้มและเอ่ยว่า “ฉันคร่ำหวอดอยู่ที่ตู๋ซานเจี่ยวมาหลายสิบปี นี่เป็นใครแรกเลยนะที่ฉันพบเจอคนโอหังอวดดีขนาดนี้!"

“มีทหารติดอาวุธนับหมื่นคนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของฉัน นายมีคุณสมบัติอะไรถึงได้พูดแบบนั้น”

“นายเองควรไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนเถอะ ว่าจะรักษาชีวิตที่มีอยู่ของตัวเองยังไง!"

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยอย่างสงบว่า “เราไม่ได้มีความแค้นเคืองใดๆ ต่อกัน และฉันก็ไม่ได้อยากจะฆ่าล้างบางทุกคน ตอนนี้นายสั่งให้คนของนายวางปืนลงและบอกให้เซียวซิงให้ความร่วมมือกับฉันดีๆ แล้วฉันจะปล่อยพวกนายไป”

พวกทหารอดยิ้มไม่ได้เมื่อได้ยิน พวกเขาต่างหันไปกระซิบกระซาบกันโดยคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าช่างเป็นคนที่โง่เง่าสุดๆ

“ฉันให้โอกาสแล้ว ถ้าพวกนายไม่หวงแหนเอาไว้ อีกเดี๋ยวคนฆ่าสัตว์จะมา และพวกนายก็อย่าได้หวังว่าจะมีชีวิตอยู่เลยสักคน” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยเรียบๆ

ความตั้งใจของคนฆ่าสัตว์คือการแผ่ขยายอาณาเขต จากนั้นจึงค่อยๆ เล่นสนุกกับกองทหารของรัฐบาลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดในการโค่นล้มระบอบอำนาจทางการเมือง

เขาจับตาดูพื้นที่อย่างอวี๋ถัวมานานแล้ว เขาคาดคะเนสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดและพร้อมจะลงมือตลอดเวลา

ว่ากันว่าขุนศึกของตู๋ซานเจี่ยวนั้นแข็งแกร่ง แต่จริงๆ แล้วพวกนั้นก็แค่แมลงสาบที่ทำเงินได้จำนวนมากจากการค้าขายสินค้าต้องห้าม แต่ระดับของอาวุธยุทโธปกรณ์ก็แค่ขยะดีๆ นั่นเอง

การบุกเดี่ยวเข้ามาในค่ายของขุนศึกอย่างที่ฉีเติ่งเสียนทำในเวลานี้เป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยในตู๋ซานเจี่ยว

ถึงแม้ว่าจะมี ส่วนใหญ่หญ้าบนหลุมศพของคนเหล่านั้นก็เยอะจนแทบจะเอากลับไปปูพื้นที่บ้านได้เต็ม...

“ไหนๆ ก็พูดกันมาถึงขั้นนี้แล้ว งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนพวกนายแล้วล่ะ” ฉีเติ่งเสียนพูดพลางหยิบอุปกรณ์สื่อสารขนาดเล็กออกมา “ลงมือเลย”

ทุกคน ณ ที่แห่งนั้นตกตะลึง

ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังออกมาจากแนวป้องกันนอกเมืองที่มีแนวรั้วล้อมรอบ มันคือจรวดมิสไซล์!

หลังจากที่เสียงระเบิดดังขึ้นก็มีเสียงฟิ่วๆ ดังขึ้นอีกหลายครั้งในอากาศพร้อมกับมิสไซล์อีกหลายลูกที่ลอยออกมาจากไหนก็ไม่ทราบ ระดมยิงแนวป้องกันนอกเมืองเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน

ทหารของเม่าคุนไม่ทันตั้งตัว ถูกมิสไซล์ระเบิดล้มระเนระนาดและเสียชีวิตคาที่

“ศัตรูโจมตี!!!"

มีคนคำรามขึ้นมาเสียงดังลั่น เหล่าทหารรีบหลบไปซ่อนตัวอยู่หลังบังเกอร์

ฉีเติ่งเสียนส่ายหัว อุปกรณ์ที่เม่าคุนมีอยู่ในมือทั้งหมดก็ยังไม่พอจะเอามายัดช่องวางระหว่างฟันของคนฆ่าสัตว์

“ตลอดชีวิตของหน่ายซิ่นคนนี้ ยังไม่เคยสู้รบด้วยอาวุธที่จัดเต็มขนาดนี้มาก่อนเลย!"

เวลานี้คนฆ่าสัตว์นั่งอยู่ในรถหุ้มเกราะและยิ้มแยกเขี้ยวอย่างดุร้าย

หลังจากหมดรอบของระเบิด รถหุ้มเกราะก็เริ่มจัดขบวนล้อมรอบกำแพงเมือง ที่แนวหลังของรถหุ้มเกราะแต่ละคันยังมีทหารติดอาวุธอยู่อีกหลายสิบคน

นี่เป็นยุทธวิธีการร่วมกันทำงานระหว่างรถและทหารแบบคลาสสิก

ยุทธวิธีนี้ล้าสมัยมานานแล้ว แต่ยังนับว่าใช้ประโยชน์ได้ดีที่ตู๋ซานเจี่ยวซึ่งมีทรัพยากรทหารขาดแคลน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง