มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1092

สรุปบท บทที่ 1092 เผาไหม้: มังกรผู้ทรงพลัง

อ่านสรุป บทที่ 1092 เผาไหม้ จาก มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

บทที่ บทที่ 1092 เผาไหม้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จาง หลงหู อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เมื่อเห็นหงเซิงซือได้ตายไปแล้ว ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะผ่อนลมหายใจออกมาดังๆ เหมือนยกภูเขาออกจากอก

ขณะที่เขาผ่อนลมหายใจออกมานั้น ลมหายใจได้มีกลิ่นคาวเลือด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เขาได้ใช้น้ำมนต์ ดังนั้น จึงรู้สึกว่าเซลภายในร่างกายยังทำงานแข็งแรงดั่งปกติ ร่างกายก็ฟื้นฟูได้รวดเร็ว พลังที่ได้ใช้ไปก็ค่อยๆกลับคืนมา

“น้ำมนต์นี่เป็นของดีอย่างที่ว่าจริงๆด้วย น่าเสียดายที่ผลิตออกมาน้อย หากสามารถให้ผมได้หนึ่งลังล่ะก็ แทบไม่อยากจะคิด......” ฉีเติ่งเสียนคิดอย่างอดไม่ได้ จากนั้นจึงส่ายหัวไปมา

น้ำมนต์ที่กลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้แบ่งมานั้นก็มีจำนวนจำกัดเหมือนกัน จึงไม่ต้องพูดถึงเขาที่เป็นถึงพระอัครสังฆราช

หากไม่ใช่ว่าพระสันตะปาปาอยากให้เขาเป็นไม้กันหมา และกลัวว่าเขาจะตายในมือของพวกนอกรีตพวกนั้นล่ะก็ คิดว่าคงให้เขาไม่ลงแน่นอน

จู่ๆเหลยเทียนซื่อก็เดินออกมาจากตัวบ้าน มองไปยังลานบ้านที่ยุ่งเหยิง อดที่จะส่ายหัวไม่ได้ นี่เหมือนมนุษย์สองคนตีกันซะที่ไหน นี่มันราวกับเซียนบนดินที่ประลองยุทธกันชัดๆ

กลางลานบ้าน เต็มไปด้วยแอ่งหลุม กำแพงปูนได้ทล่มทั้งสองด้าน กลายเป็นเศษซากที่ไร้ประโยชน์แทน

หลุมที่พื้น ราวกับได้ถูกระเบิดลงก็ไม่ปาน ไหนจะกระเบื้องปูพื้นที่ทำจากหินแกรนิตนั่นอีก ก็ได้ถูกเหยียบแตกละเอียด ทุกที่เต็มไปด้วยรอยเท้า

“เขาตายหรือยัง?” เหลยเทียนซื่อถามอย่างอดไม่ได้

“ตายเรียบร้อย ตัวเย็นเฉียบแล้ว!” ฉีเติ่งเสียนพูดกับเหลยเทียนซื่อด้วยรอยยิ้ม

“ตายแล้วก็ดี การมีอยู่ของคนแบบนี้ น่ากลัวเกินไป!เขามาหานาย ในใจคงมีความคิดที่ว่าเอาชีวิตมาแลกด้วยชีวิตสินะ?” เหลยเทียนซื่อพูด

“ไม่รู้ว่าไอ้แก่นี้ใช้วิธีอะไรในการอัพเกรดจิตของตัวเอง ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาคงยื้อได้ไม่นานขนาดนี้ จะว่าไป ดีที่ผมมีน้ำมนต์จากศาสนาศักดิ์สิทธิ์ ไม่อย่างนั้นแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ใครจะแพ้จะชนะ คงยากที่จะว่าได้” ฉีเติ่งเสียนตอบ

ครั้งนี้ตอนที่หงเซิงซือเจอกับฉีเติ่งเสียน ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาได้อยู่ในระดับที่สูงสุด ถึงไม่กี่วันมานี้ฉีเติ่งเสียนจะมีการฝึกศิลปะการต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้จงใจปรับ เรื่องการเตรียมตัวนั้น จึงแย่กว่าเหลยเทียนซื่อ

“เบื้องลึกของเหลยเทียนซื่อนี้ ลึกจนคิดไม่ถึงเสียจริง ไม่รู้ว่าในพระจันทร์เต็มดวง จะยังมียอดฝีมืออยู่อีกเท่าไหร่?” ผู้จัดการเหลยแฝงไปด้วยความกังวล

“ยอดฝีมือระดับนี้ ยังไงก็ต้องมีจำนวนจำกัด” ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเรียบ

ผู้จัดการเหลยพยักหน้า“เดี๋ยวผมเรียกให้คนมากำจัดศพ!”

“เผาเลย หลังจากเผาแล้วน่าจะเหลือสารีริกธาตุอะไรแบบนี้ เก็บไว้กับตัว ไว้ขับไล่วิญญาณชั่วร้าย”

“ห๊ะ?”

ผู้จัดการเหลยอดไม่ได้ที่จะตะลึง นึกว่าฉีเติ่งเสียนกำลังล้อเล่น

“ผมพูดจริง!” ฉีเติ่งเสียนกล่าว

“ชาวพุทธที่บำเพ็ญเพียร หลังจากที่ถึงขั้นสูงสุดแล้ว เมื่อถูกเผาก็จะได้สารีริกธาตุออกมา”

“ศิลปะการต่อสู้ก็ถือว่าเป็นการพำเพ็ญเพียร พอถึงขั้นนี้ ก็เป็นดั่งพระพุทธเจ้า ไม่ต่างอะไรกัน เอาไปเผาเถอะ ยังไงก็เผาออกมาเป็นสารีริกธาตุแน่นอน”

สิ้นเสียง เขาก็มองไปที่เหลยเทียนซื่อแวบหนึ่ง“เมื่อถึงตอนนั้นผู้อาวุโสเหลยก็นำสารีริกธาตุนี้ให้กับเหลยเจิ้นฉีและเหลยเจินหลินคุณชายทั้งสองให้พวกเขาพกไว้กับตัว แบบนี้จะต่อต้านพลังฮวงจุ้ยของทะเลขุนเขาฝังศพมังกรที่เป็นภัยต่อพวกเขาได้”

สนามแม่เหล็กของจักรวาลและโลกเราเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์ สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากฮวงจุ้ย แต่เมื่อคนแข็งแกร่งจนถึงจุดๆหนึ่ง สนามแม่เหล็กของตัวเอง ก็สามารถส่งผลกระทบต่อสนามแม่เหล็กของโลก

ข่าวว่ารถของตระกูลเหลย ลงมาจากคฤหาสน์บนภูเขา ก็แพร่กระจายในทันที

คนที่รับข่าว ล้วนอดที่จะตะลึงไม่ได้ ผ่านไปสักพักก็ไม่มีเสียงใดออกจากปากพวกเขา

“ยอดฝีมืออย่างหงเซิงซือ ชีวิตแลกชีวิต แต่กลับไม่ได้แลกชีวิตเขามา?เป็นไปได้อย่างไร?”

“ลานบ้านของตระกูลเหลยมีแต่ซาก หงเซิงซือได้ตายไปแล้ว ศพก็ได้ถูกตระกูลเหลยส่งไปเผาที่โรงเผาศพแล้ว”

“ไอ้หมอนี่ ลงมือโหดเหี้ยมยิ่งกว่าไอ้ใบ้ฉีในตอนนั้นอีก!ไอ้ใบ้ฉีไม่ว่าทำเรื่องอะไรก็ค่อนข้างจริงจัง แต่ไอ้หมอนี่กลับเดินทางลัด”

คนพวกนี้ที่นั่งรอดูฉีเติ่งเสียนกับหงเซิงซือพินาศด้วยกันนั้น อดที่จะผิดหวังไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ความกลัวที่มีต่อฉีเติ่งเสียนก็ได้เพิ่มขึ้น

พวกเขารู้ว่า หงเซิงซือมีเวลาไม่มากนัก เมื่อลงมือกับฉีเติ่งเสียน แน่นอนว่าต้องเป็นชีวิตแลกด้วยชีวิตเท่านั้น ถึงจะเป็นแบบนี้ ฉีเติ่งเสียนกลับไม่เป็นอะไรแถมยังนั่งรถตระกูลเหลยออกมาอีก แต่หงเซิงซือ กลับตัวเย็นไปแล้ว

อวี้เสี่ยวหลงเห็นข้อความที่ส่งมาบนโทรศัพท์มืถือแล้ว อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา จากนั้นมองไปยังจ้าวหงหนีที่นั่งอยู่ตรงข้ามแวบหนึ่งแล้วพูดว่า“อีกสักตา?”

จ้าวหงหนีเลิกคิ้ว จากนั้นมองไปยังกองทัพราตรีนิรันดร์ที่อยู่ในชุดเครื่องแบบด้านนอกแวบนึง แล้วจึงพูดว่า“ถึงแม้ว่าจ้าวหงซิ่วจะไม่ไป เขาก็ไม่ใช่ว่าจะได้อยู่อย่างมีความสุข อย่างไง สู้ชนะหงเซิงซือ นับว่าไม่ง่าย”

อวี้เสี่ยวหลงแสยะยิ้ม ในมือของฉีเติ่งเสียนมีน้ำมนต์อยู่ แล้วความเร็วร่างกายที่ฟื้นฟูนั้น เกินว่าที่คนธรรมดาจะคิดได้ เธอจึงไม่กังวลในจุดนี้

“ขอแค่เธอไม่ไปก็พอแล้ว” อวี้เสี่ยวหลง พูดเสียงเรียบ“เดาก่อน”

จ้าวหงหนีมองไปที่กำหมดของเธอแวบหนึ่ง“เธอเป็นถึงนายพระดับกลาง กลับใช้เครื่องแบบศิลปะการต่อสู้ของโลกใต้ดิน อีกทั้งยังถูกหมายหัวในฐานะกองทัพราตรีนิรันดร์ที่ทรยศประเทศ หากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป เกรงว่าอนาคตคงจะลำบากน่าดู”

อวี้เสี่ยวหลงหัวเราะ“ช่วยไม่ได้ ฉันขยับย้ายเซียงซานไม่ได้ จึงได้แต่ทำอย่างนี้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง