เมื่อเห็นหงเซิงซือได้ตายไปแล้ว ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะผ่อนลมหายใจออกมาดังๆ เหมือนยกภูเขาออกจากอก
ขณะที่เขาผ่อนลมหายใจออกมานั้น ลมหายใจได้มีกลิ่นคาวเลือด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เขาได้ใช้น้ำมนต์ ดังนั้น จึงรู้สึกว่าเซลภายในร่างกายยังทำงานแข็งแรงดั่งปกติ ร่างกายก็ฟื้นฟูได้รวดเร็ว พลังที่ได้ใช้ไปก็ค่อยๆกลับคืนมา
“น้ำมนต์นี่เป็นของดีอย่างที่ว่าจริงๆด้วย น่าเสียดายที่ผลิตออกมาน้อย หากสามารถให้ผมได้หนึ่งลังล่ะก็ แทบไม่อยากจะคิด......” ฉีเติ่งเสียนคิดอย่างอดไม่ได้ จากนั้นจึงส่ายหัวไปมา
น้ำมนต์ที่กลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้แบ่งมานั้นก็มีจำนวนจำกัดเหมือนกัน จึงไม่ต้องพูดถึงเขาที่เป็นถึงพระอัครสังฆราช
หากไม่ใช่ว่าพระสันตะปาปาอยากให้เขาเป็นไม้กันหมา และกลัวว่าเขาจะตายในมือของพวกนอกรีตพวกนั้นล่ะก็ คิดว่าคงให้เขาไม่ลงแน่นอน
จู่ๆเหลยเทียนซื่อก็เดินออกมาจากตัวบ้าน มองไปยังลานบ้านที่ยุ่งเหยิง อดที่จะส่ายหัวไม่ได้ นี่เหมือนมนุษย์สองคนตีกันซะที่ไหน นี่มันราวกับเซียนบนดินที่ประลองยุทธกันชัดๆ
กลางลานบ้าน เต็มไปด้วยแอ่งหลุม กำแพงปูนได้ทล่มทั้งสองด้าน กลายเป็นเศษซากที่ไร้ประโยชน์แทน
หลุมที่พื้น ราวกับได้ถูกระเบิดลงก็ไม่ปาน ไหนจะกระเบื้องปูพื้นที่ทำจากหินแกรนิตนั่นอีก ก็ได้ถูกเหยียบแตกละเอียด ทุกที่เต็มไปด้วยรอยเท้า
“เขาตายหรือยัง?” เหลยเทียนซื่อถามอย่างอดไม่ได้
“ตายเรียบร้อย ตัวเย็นเฉียบแล้ว!” ฉีเติ่งเสียนพูดกับเหลยเทียนซื่อด้วยรอยยิ้ม
“ตายแล้วก็ดี การมีอยู่ของคนแบบนี้ น่ากลัวเกินไป!เขามาหานาย ในใจคงมีความคิดที่ว่าเอาชีวิตมาแลกด้วยชีวิตสินะ?” เหลยเทียนซื่อพูด
“ไม่รู้ว่าไอ้แก่นี้ใช้วิธีอะไรในการอัพเกรดจิตของตัวเอง ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาคงยื้อได้ไม่นานขนาดนี้ จะว่าไป ดีที่ผมมีน้ำมนต์จากศาสนาศักดิ์สิทธิ์ ไม่อย่างนั้นแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ใครจะแพ้จะชนะ คงยากที่จะว่าได้” ฉีเติ่งเสียนตอบ
ครั้งนี้ตอนที่หงเซิงซือเจอกับฉีเติ่งเสียน ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาได้อยู่ในระดับที่สูงสุด ถึงไม่กี่วันมานี้ฉีเติ่งเสียนจะมีการฝึกศิลปะการต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้จงใจปรับ เรื่องการเตรียมตัวนั้น จึงแย่กว่าเหลยเทียนซื่อ
“เบื้องลึกของเหลยเทียนซื่อนี้ ลึกจนคิดไม่ถึงเสียจริง ไม่รู้ว่าในพระจันทร์เต็มดวง จะยังมียอดฝีมืออยู่อีกเท่าไหร่?” ผู้จัดการเหลยแฝงไปด้วยความกังวล
“ยอดฝีมือระดับนี้ ยังไงก็ต้องมีจำนวนจำกัด” ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเรียบ
ผู้จัดการเหลยพยักหน้า“เดี๋ยวผมเรียกให้คนมากำจัดศพ!”
“เผาเลย หลังจากเผาแล้วน่าจะเหลือสารีริกธาตุอะไรแบบนี้ เก็บไว้กับตัว ไว้ขับไล่วิญญาณชั่วร้าย”
“ห๊ะ?”
ผู้จัดการเหลยอดไม่ได้ที่จะตะลึง นึกว่าฉีเติ่งเสียนกำลังล้อเล่น
“ผมพูดจริง!” ฉีเติ่งเสียนกล่าว
“ชาวพุทธที่บำเพ็ญเพียร หลังจากที่ถึงขั้นสูงสุดแล้ว เมื่อถูกเผาก็จะได้สารีริกธาตุออกมา”
“ศิลปะการต่อสู้ก็ถือว่าเป็นการพำเพ็ญเพียร พอถึงขั้นนี้ ก็เป็นดั่งพระพุทธเจ้า ไม่ต่างอะไรกัน เอาไปเผาเถอะ ยังไงก็เผาออกมาเป็นสารีริกธาตุแน่นอน”
สิ้นเสียง เขาก็มองไปที่เหลยเทียนซื่อแวบหนึ่ง“เมื่อถึงตอนนั้นผู้อาวุโสเหลยก็นำสารีริกธาตุนี้ให้กับเหลยเจิ้นฉีและเหลยเจินหลินคุณชายทั้งสองให้พวกเขาพกไว้กับตัว แบบนี้จะต่อต้านพลังฮวงจุ้ยของทะเลขุนเขาฝังศพมังกรที่เป็นภัยต่อพวกเขาได้”
สนามแม่เหล็กของจักรวาลและโลกเราเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์ สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากฮวงจุ้ย แต่เมื่อคนแข็งแกร่งจนถึงจุดๆหนึ่ง สนามแม่เหล็กของตัวเอง ก็สามารถส่งผลกระทบต่อสนามแม่เหล็กของโลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...