มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1102

สรุปบท บทที่ 1102 สร้างสถานการณ์: มังกรผู้ทรงพลัง

ตอน บทที่ 1102 สร้างสถานการณ์ จาก มังกรผู้ทรงพลัง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1102 สร้างสถานการณ์ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่เขียนโดย จาง หลงหู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อเริ่มฝึกด้วยพื้นฐานจากการเตะและต่อย ตามมาด้วยการฝึกแบบใช้อาวุธ แน่นอนว่าคุณภาพการฝึกจะต้องก้าวกระโดด

เพราะเทคนิคการต่อยมวยส่วนมากก็ได้มาจากการฝึกกับอาวุธ

ยกตัวอย่างเช่นมวยสิงอี้ที่โด่งดัง คิดค้นโดยอาจารย์เยว่เฟย ซึ่งเป็นการดัดแปลงมาจากการฝึกจากหอกและทวน รวมถึงทักษะของนักแม่นปืนในสนามรบ กลั่นกรองออกมาเป็นหมัด

แล้วยังมีหมัดยาวไท่จู่ มวยแปดสุดยอด ฝ่ามือแปดทิศ รวมถึงมวยไท่เก๊ก ที่พัฒนามาจากทักษะของนักแม่นปืนและทักษะการใช้มีดในสนามรบ เมื่อฝึกหมัดและการเตะต่อยมาได้ระยะหนึ่งแล้วก็ต้องเริ่มฝึกด้วยอาวุธ จึงจะสามารถพัฒนาได้จนถึงจุดสูงสุดต่อไป

"เป็นไงบ้าง?" หยางกวนกวนที่ฝึกทวนเสร็จแล้วหันกลับมาถามฉีเติ่งเสียนอย่างตื่นเต้น รู้สึกได้ว่าฝีมือของตัวเองพัฒนาขึ้น สามารถควบคุมทวนที่ยาวขนาดนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว

"ดีมาก ทวนนี้ขาวมาก" ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะชม

"???" หยางกวนกวนชะงัก ไม่เข้าใจว่าฉีเติ่งเสียนกำลังพูดอะไรอยู่ ทวนขาวมาก? ขาวเป็นคำอธิบายเทคนิคของทวนเหรอ? หรือว่าอะไรกันแน่?

ฉีเติ่งเสียนพลันนึกขึ้นได้ รีบพูด "อ้อ! ฝึกทวนได้ดีมาก เทคนิคคือต้องใช้พละกำลังทั้งหมด เมื่อคุณสามารถรวบรวมพลังทั้งหมดนี้เข้ากับกำลังภายใน ให้มันแทรกซึมไปทั่วร่างกาย ซึมเข้าไปยันไขกระดูกได้แล้ว งั้นก็ต้องฝึกฮั่วจิ้งต่อ เมื่อถึงขั้นฮั่วจิ้งแล้ว คุณก็จะกลายเป็นผู้มีฝีมือสูงส่งที่แท้จริง ไม่ต้องกลัวปืนอีกต่อไปแล้วล่ะ เพราะคุณจะหลบกระสุนได้สบายๆเลย"

หยางกวนกวนพยักหน้าอย่างดีใจ คิดไม่ถึงเลยว่ากังฟูของตัวเองจะสามารถพัฒนาได้เร็วขนาดนี้

หลังจากกินมื้อเช้าแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็ไปดูหวงชงต่อ อาการบาดเจ็บของเขาไม่ร้ายแรงมาก หากพักผ่อนเต็มที่ก็จะสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว

"ใกล้ถึงเวลาเหวี่ยงแหแล้ว คุณติดต่อกลุ่มนายทุนบอสตันหน่อย ให้พวกเขาลงมือได้เลย" ฉีเติ่งเสียนโทรไปหาหลี่อวิ๋นหว่าน

เวลานี้ประเทศกำลังเป็นตอนกลางคืน

"ได้ พรุ่งนี้เช้าฉันจะให้อีวาไปติดต่อกลุ่มนายทุนบอสตันให้" หลี่อวิ๋นหว่านพูด

กลุ่มนายทุนบอสตันสั่งซื้อกับตระกูลเหอไปจำนวนมาก ให้ตระกูลเหอส่งหยกไปที่ตลาดของต่างประเทศ

ตระกูลเหอก็มีความฝันที่อยากจะทำการค้าทั่วโลก จึงมุ่งหน้าไปลงทุนที่อวี้สือกั๋ว ซื้อหินแร่เป็นจำนวนมาก

ขอเพียงกลุ่มนายทุนบอสตันหาข้ออ้างยกเลิกคำสั่งได้ เงินทั้งหมดที่ตระกูลเหอลงทุนไปก็จะถูกมัดไว้กับหินแร่ ส่งผลกระทบขนาดใหญ่เป็นห่วงโซ่

นอกจากนี้ ที่เซียงซานยังมีเฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ที่แข็งแกร่งและร่ำรวยอยู่อีกด้วย

ถ้าเฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ฉวยโอกาสนี้ร่วมมือกับบริษัทจิวเวลรี่อื่นโจมตีตระกูลเหอ ทำให้ตระกูลเหอล้มละลายด้วยการกดราคา

แผนการนี้ของฉีเติ่งเสียนดูง่ายดาย ความจริงแล้วทุกอย่างมันเชื่อมโยงกัน หากคนขายเนื้อไม่ได้นำกองทัพไปสู้รบทั้งวันทั้งคืนที่ตู๋ซานเจี่ยว ไม่ได้ระเบิดเหมืองหินแร่ขนาดใหญ่ หินแร่พวกนี้ก็คงเพิ่มราคาขึ้นไม่ได้

นอกจากนี้ ชื่อเสียงของกลุ่มนายทุนบอสตันก็โด่งดังมาก ฉีเติ่งเสียนจึงไม่เสียดายเลยแม้แต่น้อยที่จะทุ่มเงินร้อยล้านหยวนเพื่อทำให้ตระกูลเหอได้ลิ้มรสชาติผลประโยชน์ที่หอมหวาน

และตระกูลเหอยังคงไม่รู้ตัวว่านี่เป็นกับดัก

หลังคุยกับหลี่อวิ๋นหว่านเสร็จ ฉีเติ่งเสียนก็สวมชุดนักบวชสีแดงไปที่โบสถ์ใหญ่ของเซียงซาน

บ่ายสามโมงวันนี้ พิธีไว้อาลัยของเหลยเทียนซื่อจะจัดขึ้นที่นี่ และเขาจะเป็นเจ้าภาพของงาน

โบสถ์ถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ภายนอกและภายในล้วยสะอาดสะอ้าน ผู้ประกอบพิธีแต่งกายเตรียมพร้อมเรียบร้อย

-ฉีเติ่งเสียนไม่ใช่คนขี้อายไม่กล้าถาม เขาไม่เคยเป็นเจ้าภาพในงานแบบนี้มาก่อน จึงไปถามผู้รู้เพื่อเรียนรู้จากพวกเขา จากนั้นก็เตรียมวาทศิลป์ที่จะกล่าวอยู่ในใจ

ประมาณบ่ายสองโมง ศพของเหลยเทียนซื่อก็ถูกส่งมายังโบสถ์ บรรดาญาติและเพื่อนๆล้วนใส่ชุดดำมาร่วมงาน

แต่เขารู้ดีว่านี่เป็นการสร้างสถานการณ์ น่าจะเป็นหนึ่งในพวกที่คิดจะโค่นเรือตระกูลเหลย

"คุณผู้หญิง ผมขอพูดอย่างชัดเจนว่าคุณเหลยนับถือศาสนานี้ ในฐานะที่เป็นพระอัครสังฆราช ผมเห็นกับตาว่าบนร่างของเขาแผรังสีออกมา"

"มนุษย์ไม่ควรที่จะสัมผัสถึงพระเจ้าได้ มักจะเป็นพระเจ้าต่างหากที่เลือกมนุษย์ แล้วส่งจิตวิญญาณบริสุทธิ์ลงมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก"

"คุณเหลยนับถือศาสนานี้มาตั้งแต่แรก ความยุติธรรมคือวิถีการดำเนินชีวิตของเขา"

ฉีเติ่งเสียนปรายตามองผู้หญิงคนนี้อย่างเย็นชา พลางพูดเสียงเรียบ แต่ในดวงตาฉายแววสังหารอ่อนๆ

เขานับถือเหลยเทียนซื่อมาก ดังนั้นเขาไม่อยากให้มีคนเข้ามาแส่ในเวลานี้ ถ้ามีใครไม่ลืมหูไม่ลืมตาดูสถานการณ์ เขาก็คงได้แต่ใช้คทาจัดการอีกฝ่ายด้วย "คำสาปพิฆาต" แล้ว!

ผู้หญิงคนนี้พูดอย่างตกใจ "หรือคะ? แต่ว่าคุณเหลยมาเซียงซานเพื่อบริจาคเงินบำรุงศาสนาพุทธนี่คะ เขายังเป็นเพื่อนกับท่านเจ้าอาวาสอีกด้วย"

ในขณะนี้เองก็มีพระอาวุโสชุดแดงเดินเข้ามาในโบสถ์

พระรูปนี้อายุราวหกสิบปี คิ้วตาดูใจดี เดินเข้ามาช้าๆ "อามิตาพุทธ......อาตมาได้ยินว่าโยมเหลยเสียชีวิตแล้ว จึงมาเพื่อแสดงความเสียใจ!"

เหลยเจิ้นฉีกับเหลยเจินหลินพลันสีหน้ามืดครึ้มลงเล็กน้อย เมื่อก่อนเหลยเทียนซื่อได้บริจาคให้กับวัดของศาสนาพุทธจริงๆ เพราะอยากคุ้มครองครอบครัวให้ปลอดภัย

แต่กลับไม่ได้ผลเลย สุดท้ายก็ได้พบกับนักบวชลัทธิเต๋าและฉีปู้อวี่ ที่ทำให้ครอบครัวของเขาอยู่อย่างสงบสุขมาหลายปี

"ดูสิ เจ้าอาวาสฮุ่ยอู้ฉานก็อยู่ที่นี่แล้ว เขาเป็นพยานได้" เธอยิ้มให้ฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนสายตาเย็นชา จ้องไปที่ฮุ่ยอู้อย่างจาบจ้วง พระอาวุโสรูปนี้ไม่ได้มีหลิ่นอายของการเป็นพระเลย ถึงกับยอมช่วยไอ้พวกสุนัขพวกนั้นมาหาเรื่องพระอัครสังฆราชอย่างเขาเชียวเหรอ?!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง