คำพูดของฉีเติ่งเสียนทำให้สวี่ฉางเกอตกอยู่ในภวังค์
"ทำไมเป็นผมล่ะ? อีกอย่าง ผมไม่ใช่คนของหลงเหมิน จะเป็นนายหางเสือของเซียงซานหลงเหมินไม่ใช่เรื่องง่าย" สวี่ฉางเกอถอนหายใจ
"ความดีสะท้อนตัวคนมากกว่า! เป็นคนของหลงเหมินหรือไม่ไม่สำคัญ ถึงตอนนั้นผมให้คนส่งข่าวไปบอกก็เป็นแล้ว" ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเรียบ
สวี่ฉางเกอส่ายหน้า "เฉินปาเซี่ยดูแลกิจการเซียงซานหลงเหมินมาหลายปีแล้ว ต่อให้นายจะฆ่าเฉินซงเฟยลูกชายของเขาไปแล้ว แต่การที่จะเขย่าตำแหน่งของเขามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ"
"ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของเฉินปาเซี่ยกับตระกูลเหอก็แน่นแฟ้นมากด้วย"
"ตระกูลเหอเป็นแหล่งรายได้ใหญ่ของเฉินปาเซี่ย คิดจะโค่นเฉินปาเซี่ย ตระกูลเหอก็ไม่มีทางยอมแน่"
ฉีเติ่งเสียนได้ฟังแล้วก็หัวเราะ "ไม่ต้องกังวลเรื่องตระกูลเหอหรอก จัดการแป๊บเดียวก็จบ อีกไม่กี่วันก็ใกล้จะถึงเวลาหว่านแหแล้ว!"
สวี่ฉางเกอสะดุ้ง รู้สึกไม่ค่อยกล้าเชื่อคำพูดของฉีเติ่งเสียนเท่าไหร่นัก ยังไงตระกูลเหอก็ร่ำรวยมาก ธุรกิจในเซียงซานก็ใหญ่โต บอกจะจัดการก็จัดการได้ง่ายๆที่ไหน
อีกอย่าง ช่วงนี้ตระกูลเหอก็เหมือนจะเริ่มทำธุรกิจร่วมกับคนประเทศมี่ ดูเหมือนจะขยายกิจการใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อที่จะขยายกิจการของตัวเอง ตระกูลเหอยังดำเนินการจัดหาเงินทุนจำนวนมากไว้อีกด้วย......
แต่ที่สวี่ฉางเกอไม่รู้ก็คือ ตระกูลเหอเพิ่งจะก้าวขาเข้าไปในหลุมระดมทุน ซึ่งจะกลายเป็นเครื่องเตือนใจของพวกเขา
"ตอนนี้คุณไม่ต้องกังวลมากขนาดนั้นหรอก ผมแค่อยากถามว่าคุณเต็มใจจะทำไหม?" ฉีเติ่งเสียนพูด
"ถ้ามันเป็นไปได้ผมก็เต็มใจ" สวี่ฉางเกอได้ฟันแล้วก็หัวเราะออกมา ก่อนจะส่ายหน้าเล้กน้อย
"ถ้างั้นก็เอาตามนี้ จัดการเฉินปาเซี่ยได้เมื่อไหร่คุณก็รับหน้าที่นี้ต่อได้เลย!" ฉีเติ่งเสียนพูด
หลังจากคุยกับสวี่ฉางเกอเรียบร้อยแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็เตรียมขอตัวกลับ
"อืม พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่า ไปกินข้าวด้วยกันไหม?" สวี่อี้หรูรีบถามก่อนที่เขาจะออกไป
"คุณหนูสวี่ ช่วงนี้ผมยุ่งมาก ไม่มีเวลาเลย! ไว้ผมจะนัดคุณทีหลังแล้วกัน" ฉีเติ่งเสียนพูดพลางยิ้ม
สวี่อี้หรูผิดหวังเล็กน้อย นึกถึงตอนที่เจอเขาครั้งแรก ยังนึกว่าเขาเป็นเพียงนักธุรกิจตัวเล็กๆในหนานหยางซะอีก
ใครจะรู้ว่าที่จริงแล้วเขาจะมีตำแหน่งใหญ่โตขนาดนี้ แม่แต่พ่อของเธอยังเทียบไม่ติด!
ระยะห่างระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์แบบนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
หลังจากที่หยางกวนกวนเดินออกมาจากประตูบ้านตระกูลสวี่ ก็พูดกับฉีเติ่งเสียนยิ้มๆ "ดูท่าสาวน้อยตระกูลสวี่จะลืมนายไม่ลงเลยนะ ไม่อยากจะสานสัมพันธ์ด้วยหน่อยหรือไง?"
ฉีเติ่งเสียนกรอกตามองบน ก่อนจะพูด "หน้าอกเธอไม่ได้ใหญ่เท่าคุณซะหน่อย ไม่สานสัมพันธ์ด้วย!"
หยางกวนกวนได้ฟังแล้วก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ยกกำปั้นเตรียมจะทุบเขาซักทีสองที แต่ยังไงฝีมือเธอก็ยังด้อยกว่า จึงเปิดโอกาสให้โดน "ท่าเสือดำล้วงใจ" ไปสองทีแทน
หลังจากกลับถึงวิลล่าของหยางกวนกวนแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็เข้าไปคุยโทรศัพท์ในห้องหนังสือ เล่าสถานการณ์ปัจจุบันให้แต่ละฝ่ายฟัง
ข่าวการเสียชีวิตของเหลยเทียนซื่อประหนึ่งสายฟ้าฟาด ไม่มีเขา เรือตระกูลเหลยก็เหมือนเผชิญพายุ ต้องรีบเชิญพระสันตะปาปาจากโคกูรยอมาที่เซียงซานโดยเร็วที่สุด
หลังจากส่งข่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็ถอนหายใจพลางนั่งลงบนโซฟา รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...