มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1104

"คนที่พูดเหมือนนายคนล่าสุดก็คือสวีเอ้าเสวี่ย ดูสิว่าตอนนี้เธอเป็นยังไง?"

ฉีเติ่งเสียนไม่สนใจคำพูดไร้สาระของลวี่ฉ่ายสักนิด

ลวี่ฉ่ายตอบอย่างเฉยเมย "เอาเถอะ หวังว่านายจะตบหน้าทุกคนได้ก็แล้วกัน! มีหลายคนคิดจะจัดการกับเรือตระกูลเหลย ฉันจะคอยดูว่าน้ำหน้าอย่างนายจะปกป้องมันไว้ได้ยังไง!"

ครั้งนี้มีคนที่อยากจะเล่นงานเรือตระกูลเหลยมากเกินไป แม้แต่กองกำลังต่างชาติเองก็เข้ามาเกี่ยวด้วย สถานการณ์นี้อันตรายกว่าตอนเผชิญหน้ากับเซี่ยงกรุ๊ปในตอนนั้นมาก

ต่อให้ฉีเติ่งเสียนจะทุ่มทุนไปห้าหมื่นล้านดอลลาร์ สถานการณ์ก็ยังอันตรายมากอยู่ดี แต่ยังไงกลุ่มธุรกิจซ่างชิงกับสมาคมเสวียนหยางจะไม่มีทางขาดแคลนเงินแน่นอน

ถ้าพวกเขายอมแทะกระดูกแข็งๆก้อนนี้ ฉีเติ่งเสียนคงถูกพวกเขาจัดการจนตายแน่

"ตบหน้าเธอ? ผิดแล้ว เธอก็เป็นแค่คนใช้ แถมยังชอบตัดพ้อตัวเองด้วย ฉันไม่สนใจที่จะตบหน้าเธอหรอก" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเหยียดหยาม

นี่มันสมัยไหนกันแล้ว? ยังไปทำงานเป็นสาวใช้อีกเหรอ? สำหรับฉีเติ่งเสียนแล้ว นี่เป็นการดูถูกศักดิ์ศรีของตัวเองอย่างถึงที่สุด

แต่ลวี่ฉ่ายกลับพูดอย่างอวดดี "เป็นเกียรติสำหรับฉันมากที่ได้รับใช้คุณชายหมิงลู่! นายจะพูดยังไงฉันไม่สนใจหรอกนะ"

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกพะอืดพะอม ส่ายหน้าพลางพูด "แหวะ จะอ้วก!"

ลวี่ฉ่ายจากไปพร้อมรอยยิ้มเย็นชา แต่ก่อนไปยังปรายตามองคนตระกูลเหลยครั้งหนึ่ง เหมือนกับกำลังเตือนอะไรบางอย่างอยู่

"พ่อผมเพิ่งเสียก็มีพวกภูติผีปีศาจออกมาอาละวาดเต็มไปหมด ยังร้องเพลงไม่ทันจบ คนต่อไปก็ขึ้นเวทีมาซะแล้ว" เหลยเจิ้นฉียิ้มให้ฉีเติ่งเสียนอย่างจนใจพลางส่ายหน้าไปมา

"ไม่ต้องสนใจคนพวกนี้หรอก เดี๋ยวผมไปจัดการเอง แค่ขยะเปียกกองหนึ่งน่ะ" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเหยียดหยาม

ถึงเวลาที่พระสันตะปาปาเดินขึ้นมา เขาจะพูดว่า "คนที่นั่งอยู่เป็นขยะทั้งหมด!"

เขาไม่เชื่อหรอกว่าใครจะกล้าตบหน้าพระสันตะปาปา!

ผู้นำศาสนาออกมาแถลงการ ก็จะเป็นศัตรูกับประเทศตะวันตกทั้งหมด สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

"โชคดีที่ได้นักพรตเต๋าออกมาพูดให้ ไม่งั้นเรื่องวันนี้คงยุ่งยากกว่าเดิมแน่ แต่ที่จริงแล้วพ่อก็เคยบริจาคเงินบำรุงศาสนาพุทธอยู่พักหนึ่งจริงๆ" เหลยเจินหลินพูด

"พวกคุณจัดการเรื่องทางนี้ให้เรียบร้อย ผมจะไปคุยกับนักพรตคนนั้น" ฉีเติ่งเสียนพูด

ฉีเติ่งเสียนเห็นนักบวชลัทธิเต๋าเฒ่านั่งเอนหลังอยู่ที่หินก้อนใหญ่อย่างสบายๆ จึงเดินออกจากโบสถ์มาคุยกับเขา

นักบวชลัทธิเต๋าเฒ่าได้ยินเสียงฝีเท้าแล้ว แต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมามอง

ฉีเติ่งเสียนมาหยุดอยู่ข้างกายเขา ค่อยๆย่อตัวลง พูดเสียงเบา "อู๋เลี่ยงเทียนจวินว่านซุ่ย!"

นักบวชลัทธิเต๋าเฒ่ารีบลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะก้มศีรษะต่อพระสูตรทั้งแปดแล้วพูดว่า "ฝูเซิงอู๋เลี่ยงเทียนจวิน!"

ฉีเติ่งเสียนถาม "วันนี้ท่านนักพรตช่วยผมคลี่คลายสถานการณ์ ผมทราบซึ้งมาก ไม่ทราบว่าท่านนักพรตมีนามว่าอะไร? สำนักอยู่ที่ไหน? ผมอยากจะไปบริจาคค่าธูปหอมให้!"

นักบวชลัทธิเต๋าเฒ่าหัวเราะ "ฉันเป็นปู่ของเธอ"

ฉีเติ่งเสียนสีหน้ามืดครึ้ม พูดอย่างโมโห "ท่านพูดอะไรกันแน่? ถึงจะอยู่ในค่ายของเฉาเชาแต่ใจอยู่ที่ฮั่น ผมเรียนเวทมนตร์บางอย่างมาจากพระสันตะปาปาด้วยนะ ให้โอกาสท่านพูดใหม่อีกครั้ง"

นักบวชลัทธิเต๋าเฒ่าตะลึง ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม "พ่อของเธอมีวรยุทธ์ดีขนาดนี้ได้ก็เพราะฉันทั้งนั้น ฉันบอกว่าเป็นปู่ของเธอฉันผิดตรงไหน?!"

ฉีเติ่งเสียนได้ยินแล้วก็รู้สึกตื่นเต้น มองเขาด้วยความประหลาดใจ "ที่แท้ท่านก็เป็นปรมาจารย์นักพรตที่เห็นหัวมังกรแต่ไม่เห็นหางท่านนั้นเองเหรอ? อู๋เลี่ยงเทียนจวินท่านนั้น เสียมารยาทแล้ว!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง