มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1105

สรุปบท บทที่ 1105 ปลูกบัวทองในกองไฟ: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 1105 ปลูกบัวทองในกองไฟ – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1105 ปลูกบัวทองในกองไฟ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

นักบวชลัทธิเต๋าเฒ่าขี้เกียจที่จะสนใจฉีเติ่งเสียนแล้ว หลักจากได้เงินมา ก็ตบตูด เตรียมตัวจากไป

“นี่ อาจาร์ ผมถามคำถามอยู่นะ ทำไมถึงไม่ตอบผมแล้วล่ะ?” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ พลางวิ่งตามตูดของนักบวชลัทธิเต๋าเฒ่าเพื่อถามคำถาม

แต่นักบวชลัทธิเต๋าเฒ่ากลับยิ่งเดินยิ่งเร็วขึ้น ไม่อยากที่จะหยุดเลยสักนิด ครั้งนี้ที่เขามาที่เซียงซาน ก็เพื่อส่งมอบตราประทับจิตรจุลนาคาให้กับฉีเติ่งเสียนเพียงเท่านั้น และก็นำเงินที่ได้มาใช้สะหน่อย

ฉีเติ่งเสียนมองนักบวชลัทธิเต๋าเฒ่าที่จากไปอย่างรีบร้อนนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว “เห้อ ไม่ใช่คนบ้านเดียวกัน ไม่เข้าประตูปานเดียวกัน อ้าปากออกมาก็มีแต่เรื่องเงิน......ห้าล้านดอลของฉัน!”

ว่าไป ห้าล้านดอลแลกกับตราประทับจิตรจุลนาคา สำหรับฉีเติ่งเสียนแล้ว ก็ไม่ถือว่าขาดทุน อย่างน้อยก็สามารถเป็นเครื่องมือที่เขาใช้เสแสร้งในงานชุมนุมศาสนาได้

ถึงตอนนั้นแล้วไม่ว่าไอ้หน้าไหนที่ต้องการได้ผลประโยชน์จากตระกูลจ้าว แล้วหลับตามาหาเรื่องเขาล่ะก็ เขาก็จะมอบตราประทับจิตรจุลนาคาเข้าไปที่หน้ามัน

“อาจารย์ของฉันคงจะไม่เอาของปลอมมาหลอกกันหรอก อย่างน้อย ก็ถึงขนาดที่มาถึงที่นี่เมื่อส่งมอบ” ฉีเติ่งเสียนชั่งน้ำหนักตราประทับจิตรจุลนาคา ใบหน้าได้ปรากฏรอยยิ้มออกมา

ตราประทับจิตรจุลนาคาทำมาจากทองแดง จิตรจุลรวมเข้ากับนาคา จึงกลายเป็นเต่าดำ ลือกันว่าร่างกายที่แท้จริงของเทพเจ้าเจินอู่ต้าตี้นั้นก็คือเต่าดำ

ฉีเติ่งเสียนพิจรณาตราประทับจิตรจุลนาคาอย่างละเอียด จิตรจุลอยู่ด้านล่าง ตามด้วยนาคาที่พันรอบตัวบน มีกลิ่นอายเหมือนไท่เก็ก......

ยิ่งเขาพิจรณามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าตราประทับจิตรจุลนาคามีกลิ่นอายที่พิเศษที่มีเสน่ห์อันน่าดื่มด่ำ

“จิตรจุลนาคาเต่าดำ น้ำไฟรวมกัน......ตราประทับทองแดงอันนี้ แฝงไปด้วยแก่นสารของลัทธิเต๋า สูตรลับในการปรุงโอสถ!ไม่รู้ว่าออกมาจากยอดฝีมือคนไหนกัน?” ฉีเติ่งเสียนคิดในใจ จากนั้นจึงนำตราประทับไปพิจรณาใต้แสงแดดอย่างละเอียดอีกรอบ

ดูไปดูมา ฉีเติ่งเสียนรู้สึกได้ถึงการขับเคลื่อนของชี่ของไต จู่ๆโชคก็หล่นทับ มือทั้งสองข้างทำเป็นดั่งตราประทับ มือซ้ายดั่งจิตรจุล มือขวาดั่งนาคา จากนั้นต่างพันกันไปมา

เมื่อประทับได้ผล เขารู้สึกได้ถึงพลังของชี่ของไตที่แข็งแกร่งขึ้น มือขวาฉกออกมาหนึ่งหมัด ทิศทางขึ้นไปยังบนฟ้า สิ้นเสียงดัง ลมปรานได้ระเบิดออก เมื่อวางหมัดลง เข้าที่พื้น ทรายและหินก็ได้กระเด็นออกไปทันที

“เพียงจินตานได้ถูกกลืนเมื่อใด เมื่อนั้นชะตาย่อมเป็นฉันที่กำหนด!”

“ร่างกายมนุษย์ย่อมมีจิตวิญญาณ เลือดหล่อหลอมรวมกัน จิตวิญญาณ เลือดธาตุทั้งห้าดั่งน้ำ แรกเริ่มของมนุษย์ แรกสุดดำรงอยู่ในรูปของน้ำ”

“เจินชี่ที่แท้จริงซ่อนอยู่ในน้ําไต เจินชี่ที่แท้จริงนี้อยู่ที่จุดเริ่มต้นของทารกในครรภ์ เจินชี่ที่แท้จริงของพ่อแม่ซ่อนอยู่ภายใน และซ่อนอยู่ในไตคู่ของผู้คน”

“ตราประทับจิตรจุลนาคานี้ ปรับแก้ที่เจินชี่ รวมพลังเจิ้งหยางที่อยู่กลางหัวใจ ก็จะสามารถทำน้ำไฟรวมกันได้สำเร็จ ชะตาชีวิตเป็นของฉัน ปลูกบัวทองในกองไฟ!”

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าตนเองเริ่มเข้าใจกังฟูไปอีกขั้นแล้ว ครั้น“ปลูกบัวทองในกองไฟ”ได้ปรากฏ เจินชี่และเลือดหลอมรวมกัน พลังที่ถูกส่งออกมานั้น น่ากลัวอย่างถึงที่สุด

ผู้ที่จพปลูกบัวทองในกองไฟได้ ล้วนแต่เป็นเซียนที่บรรลุแล้วเท่านั้น หมัดของฉีเติ่งเสียนหมัดนี้ กลับไม่ใช่หมัดของคนธรรมดาอีกต่อไป เป็นหมัดที่ต้องเป็นเทพเซียนเท่านั้นถึงจะใช้ได้

ขณะที่หมัดยาวไท่จู่“ห้าก้าวยึดภูเขาหัวซาน ก็เป็นหมัดของเทพเซียนเหมือนกัน ว่ากันว่าจ้างค้วงอิงและเฉินตวน“เซียนหลับใหล”ตระหนักได้จากการเล่นหมากรุกที่หัวซาน เฉินตวนยึดตี่ได้เพียงห้าก้าว ตั้งแต่นั้นมา หัวซาน ก็ไม่เก็บภาษีอีก

“กระบวนท่านี้ยังต้องปรับอีกสักหน่อย เนื่องจากเป็นการรวมกันของลัทธิเต๋ากังฟูปรุงโอสถที่คิดเอง หลังจากที่ปรับแล้ว จะสามารถนำหน้าหมัดมวยพิฆาตได้หลายอันเลยทีเดียว” ฉีเติ่งเสียนคิดในใจ

เขาเก็บตราประทับจิตรจุลนาคาลง ภายในใจรู้สึกซาบซึ้งต่อนักบวชลัทธิเต๋าเฒ่าเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกว่าอาจารย์ท่านนี้ของตนนั้นลึกล้ำเหลือกำหนด

ในเช้าวันที่สองของงานศพเหลยเทียนซื่อ

ฉีเติ่งเสียนเข้าร่วมในชุดต้าหงเผา รอจนนำโรงลงดินเสร็จ เขาจึงหยิบดินมาโปรยหนึ่งกำมือ จากนั้นปากก็ท่องบทสวด เป็นการรำลึกครั้งสุดท้าย

หลังจากรำลึกเสร็จแล้ว คนงานที่สุสานจึงได้ลงมือขยับพลั่ว ไม่นาน โรงไม้ก็ถูกดินปกคลุมเป็นที่เรียบร้อย

“พี่เป็นถึงคนที่มีพลังคู่ระดับสูงที่มีชื่อเสียงลือนาม ย่อมไม่กลัวเรื่องเล็กอย่างนี้” ฉีเติ่งเสียนพูด

“เมื่อวานฉันวิจัยกระบวนท่าหนึ่งมา เดี๋ยวเอาให้ดู ไม่แน่อาจจะเป็นแนวทางให้เธอด้วย”

อวี้เสี่ยวหลงตะลึง จากนั้นจึงหยักหน้า“ได้!”

หลังจากที่รอฉีเติ่งเสียนโชว์“ปลูกบัวทองในกองไฟ”เสร็จ อวี้เสี่ยวหลงอดที่จะตกตะลึงไม่ได้ แววตาเป็นประกาย“หมัดนี้มัน......สุดยอดมาก” นายคิดออกมาได้อย่างไร

“อาจารย์ให้ตราประทับจิตรจุลนาคากับฉัน ฉันตระหนักได้จากสูตรลับในการปรุงโอสถ จากนั้นก็คิดเอง” ฉีเติ่งเสียนภูมิใจ“เก่งไหมล่ะ!”

“อาจารย์สุดยอดไปเลย” อวี้เสี่ยวหลงตั้งใจพูด“ให้ตราประทับนายมาหนึ่งอัน ยังทำให้นายตระหนักได้”

ฉีเติ่งเสียนถูกทำให้รู้สึกสะเอียดจน ในใจมีความคิดที่จะบีบคอผู้หญิงคนนี้ให้ตายแล้ว

เมื่อถึงที่จอดรถ ฉีเติ่งเสียนก็ได้บอกลากับอวี้เสี่ยวหลง หลังจากที่เขาสตาร์ทรถ ก็ได้พูดขึ้นมาว่า“ช่วงนี้ฉันได้เล่นเกมที่สนุกหนึ่งเกม และก็ได้เลือกอาชีพที่โครตสุดยอด”

อวี้เสี่ยวหลงสีหน้าเต็มไปด้วยเควสชั่นมาร์คมองไปที่ฉีเติ่งเสียน

“อาชีพที่ฉันเลือกคืออัศวินมังกร” ฉีเติ่งเสียนพูด

เมื่อพูดจบ เขาก็เหยียบคันเร่งทันที จากนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว

อวี้เสี่ยวหลงชะงักอยู่กับที่สามวิ จึงจะดึงสติกลับมา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม“ฉันไม่น่าไปห้ามจ้าวหงซิ่วเลย น่าจะให้เธอตีไอ้ลูกเต่าอย่างนายให้ตายซะน่าจะดี!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง