มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1114

สรุปบท บทที่ 1114 ความรู้สึกที่ถูกเลี้ยงดู: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 1114 ความรู้สึกที่ถูกเลี้ยงดู – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1114 ความรู้สึกที่ถูกเลี้ยงดู จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

สำหรับฮูหยินที่มั่งคั่งและงดงามแล้ว ความเยาว์และวัยรุ่นนั้นสำคัญกว่าเงินทองและอำนาจซะอีก ยังไงซะ เธอก็อายุเลขสามแล้ว

ช่วงเวลาสามสิบปีนี้ สำหรับเธอแล้วเป็นการผ่านกาลเวลาไปอย่างไร้ความหมาย โดยเฉพาะไม่กี่ปีมานี้ที่แต่งเข้ามายังตระกูลชุย เป็นการสิ้นเปลืองเยาว์วัยและความสวยอย่างมาก ดังนั้น เธอต้องทดกลับมา

ยังดีที่พระอัครสังฆราชฉีร่างกายแข็งแรง ไม่อย่างนั้น อาจจะต้องเจริญรอยตามผู้อาวุโสชุยที่ใช้โสมในการยืดอายุ

“แท้จริงแล้ว นักล่าระดับส่งมักจะปรากฏตัวในสถานะเหยือนี่เอง” ฉีเติ่งเสียนมองไปยังซุนอิ่งซูที่กลับมีพลังเพิ่มขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

ฉีเติ่งเสียนเตรียมตัวสักพัก เตรียมตัวออกไปหาเฉินปาเซี่ย ได้เงินของเขามาก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ถึงแม้ว่าสำหรับเขาแล้วยังมีความแค้นกับฉีเติ่งเสียนที่ฆ่าลูกของเขา แค้นมากถึงขั้นไม่อยากอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน แต่สมุดบัญชีเล่มนั้นสำหรับเขาแล้ว สำคัญมากเช่นกัน

“หันเจิ้งหมิงผู้นี้ที่เป็นรองผอ.เทควันโดไท่อี้นั้นถูกหลิวจงเหยียนซุ่ยจัดการจนขาหักไปหนึ่งข้าง หันเฉิงจุนผู้นี้ที่เป็นคนแรกของสายศิลปะการต่อสู้แห่งโคกูรยอ ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาแก้ไขสถาณการณ์หรอกหรอ?” ฉีเติ่งเสียนนึเรื่องนี้ได้ขึ้นมา จึงได้ถามไปยังซุนอิ่งซูที่กำลังแต่งหน้าอยู่

ซุนอิ่งซูนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ด้วยท่าทางที่สง่างาม มองไม่เห็นถึงความบ้าคลั่งของ "อธิการอัศวิน" ในตอนเช้าเลยสักนิด

“หันเฉิงจุนเป็นถึงคนแรกของสายศิลปะการต่อสู้แห่งโคกูรยอ ยุ่งเป็นเรื่องปกติ อีกอย่าง หลิวจงเหยียนซุ่ยไม่ใช่คนที่จะต่อกรด้วยง่าย มีชื่อเสียงอย่างมากในเจียเผิงกั๋ว เขาคงจะถ่อเป็นพันไมล์เพื่อมาสถาณการณ์นี้หรอก” เธอพูดเสียงเรียบ

“จะว่าไป ฉันหวังให้เขามาใจจะขาด นายก็จัดการให้เขาพิการไปครึ่งซีกเลย จากนั้นฉันก็จะได้เอาโล่ประกาศเกียรติคุณของพ่อฉันคืนมา”

“ชื่อเสียงของตระกูลซุน ถูกเหยียบย่ำโดยทควันโดไท่อี้เรียกได้ว่าป่นปี้ไปหมดแล้ว”

บิดาของซุนอิ่งซูนั้น แต่ก่อนก็เป็นชาวยุทธที่มีชื่อเสียงในโคกูรยอ แต่กลับแพ้อย่างอนาถในมือของหันเฉิงจุน จากนั้นก็ฟุบลงอย่างไม่มีวันฟื้นขึ้นมาได้ ชื่อเสียงของตระกูลซุนก็จบไปด้วยเช่นกัน

เธอหมกมุ่นกับการเอาโล่ประกาศเกียรติคุณคือมา เป็นอย่างมาก

หลังจากที่วางลิปสีชมพูที่แวววาวและชุ่มชื่นลงแล้ว ฮูหยินที่มั่งคั่งและงดงามก็ได้ยกมือขวาขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับชูนิ้วก้อยออกมา จากนั้นถูไปยังริมฝีปากด้วยท่าทางสง่างาม ราวกับปีศาจยั่วยวนไม่ปาน

ฉีเติ่งเสียนมองหญิงงามในกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง ต้องยอมรับว่า อารมณ์ที่สง่างามและเป็นผู้ใหญ่ของคุณนายซุนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงธรรมดาสามารถมีได้ ทำให้คนอยากได้

“รอเรื่องที่เซียงซานสิ้นสุดลง ฉันก็กลับไปโคกูรยอ ฉันต้องยืนยันว่าหลี่เสวียนเจินนังตัวแสบตัวน้อยกลับมาแล้วถึงจะสบายใจ” ซุนอิ่งซูหมุนตัวกลับมาพูดกับฉีเติ่งเสียน

“ดังนั้น สองวันนี้ ถ้ามาหาฉันได้ ก็พยายามมาเถอะ!”

ขณะที่พูดประโยคนี้ออกมา เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าและขุ่นเคืองในน้ําเสียงของเธอ ฉีเติ่งเสียนที่ได้ฟังอดไม่ได้ที่จะขนลุก

ขณะที่พูด ซุนอิ่งซูก็ดึงลิ้นชักออกมา และหยิบบัตรธนาคารออกมา “นายต้องสร้างวิหารที่หนานหยาง ต้องใช้เงินเยอะแน่นอน ตำแหน่งพระอัครสังฆราชที่นายซื้อมา ก็หมดเงินไปมากเลยทีเดียว ยังติดหนี้คนประเทศเสวี่ยอีกไม่น้อย......”

“ฉันน่ะ ถึงแม้จะเป็นคนระดับสูงของกลุ่มธุรกิจซ่างชิง แต่เงินส่วนตัวในมือมีไม่เยอะ”

“เงินในบัตรนี้น่าจะมีอยู่ราวหกล้านกว่าดอลได้ นายเอาไปใช้เถอะ”

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะตะลึง ภายในใจซาบซึ้งเป็นอย่างมาก จากนั้นค่อยรู้สึกว่ามันไม่น่าใช่ คิดได้แล้วจึงพูดออกมาว่า“ข้าขายศิลป์ไม่ขายตัว!”

เขามีความรู้สึกราวกับถูกฮูหยินมั่งคั่งและงดงามนี้ซื้อกินยังไงไม่รู้ อย่างน้อย คุณนายซุนสบายแล้ว ก็เอาหกล้านกว่าดอลออกมาได้ ทําให้เขารู้สึกมีส่วนร่วมไม่มากก็น้อย

ซุนอิ่งซูก็ชะงัก จากนั้นจึงพูดด้วยเสียงเย็น“ไม่เอาก็ไม่ต้องเอา เจตนาที่ดีกลายเป็นเครื่องในของลาไปแล้ว!”

สิ้นเสียง ซุนอิ่งซูก็เตรียมที่จะเก็บเงินไป

ฉีเติ่งเสียนกลับพุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงหยิบบัตรมาไว้ในมือ“ล้อเล่นหน่า การที่ได้รับใช้คุณนาย เป็นความฝันของฉันมาโดยตลอด!”

ขณะที่เขาพูด รู้สึกได้ถึงความประหม่าเป็นอย่างมาก ทำให้น้ำเสียงในการพูดแข็งไปหน่อย

ฉีเติ่งเสียนยิ้ม จากนั้นพูดด้วยความอ่อนโยน“ฉันมาหานายหางเสือเฉินปาเซี่ย ที่ฉันมีของที่เขาจะต้องสนใจอย่างแน่นอน รบกวนนายเข้าไปแจ้งหน่อย? ”

ยอดฝีมือขมวดคิ้วพูด“ถ้าหากผมบแกว่าไม่ล่ะ?”

“งั้นฉันก็จะเหยียบศพของนายเข้าไป” ฉีเติ่งเสียนพูด

สีหน้าของยอดฝีมือนายนี้เปลี่ยนไปทันที คิดไปคิดมา จากนั้นจึงหมุนตัวเข้าไปแจ้ง

เฉินปาเซี่ยได้ข่าวว่าฉีเติ่งเสียนมาเขาที่สาขาย่อยของหลงเหมินแห่งเซียงซานด้วยตัวเอง จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พร้อมกัดฟันพูด“เขายังกล้ามาอีก?มาเพื่อโอ้อวดแสนยานุภาพงั้นสินะ?”

เขาลุกขึ้นมา พูดด้วยเสียงเย็น“เตรียมมือปืนเดี๋ยวนี้ เพียงแค่ได้รับคำสั่งฉัน พวกนายก็ลั่นไกยิงมันให้เป็นรูพรุนทันที!”

เขารู้ความน่ากลัวของฉีเติ่งเสียนเป็นอย่างดี ดังนั้น ไม่กล้าประมาทแม้แต่นิด เขาสั่งประจำตำแหน่งมือปืนด้วยตัวเอง เพื่อพลาด

มือปืนได้ซ่อนตัวเป็นที่เรียบร้อย ซ่อนอยู่ในมุมที่แทบจะรู้สึกไม่ได้ รอการมาถึงของฉีเติ่งเสียน

หลังจากจัดเตรียมเรียบร้อย เฉินปาเซี่ยก็โบกมือหนึ่งที“ให้เขาเข้ามา ฉันจะดูสิ เขามีอะไรที่ทำให้ฉันสนใจ!”

เขารังเกียจเคียดแค้นฉีเติ่งเสียนเป็นอย่างมาก เฉินซงเฟยตายในมือเขายังไม่พอ วันนั้นบนเรือเขายังพูดจาที่น่าขยะแขยงออกมาอีก ไม่ฆ่าเขา ก็อดรู้สึกผิดกับวิญญาณของลูกชายที่อยู่บนฟ้าไม่ได้!

“อาจารย์ฉี นายหางเสือเฉินเชิญคุณเข้าไปได้”

ฉีเติ่งเสียนได้ฟัง ก็หัวเราะเหอะๆ สองมือไขว้หลัง เดินเข้าไปยังโรงน้ำชาด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับเดินเล่นในลานบ้านไม่ปาน ไม่ได้ใส่ใจกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง