“หืม?เขาพูดเคยพูดหรอ? เขาไม่ได้พูดหนิ!”
เฉินหยูอดตะลึงไม่ได้ จากนั้นถามด้วยความตกใจ
เฉินหยูไม่ได้เสแสร้งแอ๊บเป็นคนใสซื่อ แต่เธอไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉีเติ่งเสียนกับซุนอิ่งซูจริงๆ
วันนี้ซุนอิ่งซูมาหาเธอ ไม่ใช่ว่าเธอตั้งใจที่จะหาเรื่อง แต่เพราะ ตอนนี้ทั้งสองคนเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ธุรกิจของนายทุนซ่านซิงที่หนานหยาง ก็ได้ซุนอิ่งซูและเฉินหยูในการติดต่อสื่อสาร
ซุนอิ่งซูยิ้มตามมารยาท ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นจึงเดินเข้ามาในบ้าน“ฉันนึกว่าพระอัครสังฆราชฉีไปทำธุระอะไรซะอีก ที่ไหนได้มาอยู่กับคุณหนูเฉินนี่เอง!”
“เมื่อตอนบ่ายฉันเรียกเขาให้มากินข้าวด้วยกัน กินข้าวเสร็จก็ไปเดินเล่น จากนั้นก็คุยธุระกันนิดหน่อย”
แววตาของซุนอิ่งซูประกายผ่านด้วยไอสังหาร
ฉีเติ่งเสียนรู้แล้วว่าเธอเข้าใจผิด!
ก่อนที่ฉีเติ่งเสียนจะไปจากซุนอิ่งซู ได้บอกว่าอวี้เสี่ยวหลงมีธุระกับเขา แต่คราวนี้เฉินหยูกลับบอกว่าเธอเป็นคนออกปากเรียกเขามากินข้าวเอง
หน้าหลังไม่ตรงกันแล้ว......
“เธอว่ายังไงนะเธอเรียกฉันมากินข้าวด้วยงั้นหรอ ทั้งๆที่อวี้เสี่ยวหลงเป็นคนโทรหาฉันต่างหาก ฉันคงไม่รับน้ำใจนี้ของเธอหรอก!” ฉีเติ่งเสียนรีบพูดแก้ตัวให้กับตนเอง
เฉินหยูก็ฉลาด ราวกับเดาได้ถึงบางอย่าง ได้ปรากฏรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นมาทันที“อวี้เสี่ยวหลง?อวี้เสี่ยวหลงอะไรกัน......ทั้งๆที่......”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอจึงตั้งใจที่จะหยุดไปสักแปป จากนั้นจึงแสร้งทำเป็นตกใจ“อ้อ ใช่ๆ!เป็นนายพลอวี้ที่โทรเรียกนายมา ไม่ใช่ฉัน เป็นฉันเองที่จำผิดไป”
หลังจากพูดจบ เฉินหยูก็อดไม่ได้ที่จะขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน
ไอ้หมานี่มันเร็วได้ใจจริงนะ ไม่ได้เจอกันพักนึง ก็ได้จัดการคุณนายซุนของนายทุนซ่านซิงไปซะแล้ว?ดูไม่ออกเลย ว่าจะเป็นคนที่ชอบแย่งภรรยาผู้อื่นด้วย!
“ผู้ชายหน้าหม้อจะต้องไม่ตายดี ฉันกําลังกําจัดอันตรายให้กับผู้คน!!!” ภายในใจของเฉินหยูได้คิดอย่างเด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผาย
แต่ฉีเติ่งเสียนกลับมองมาด้วยแววตาไร้ความหวัง ความแค้นอะไรที่มีกับเขา ใช้วิธีนี้ในการแก้แค้นเขา ไม่นับว่าเกินไปหน่อยหรอ?
เฉินหยูแกล้งทำเป็นไม่เห็นสายตาของฉีเติ่งเสียน“คุณนายซุน โปรดอย่าเข้าใจผิด ฉันและเขาเราเป็นเเค่เพื่อนปกติเพียงเท่านั้น วันนี้เป็นนายพลอวี้ที่เรียกเขามากินข้าวด้วยจริงๆ”
ซุนอิ่งซูอืมไปหนึ่งเสียง เพียงแต่ เห็นจากบรรยากาศรวบตัวเธอแล้ว แน่นอนว่าโกรธเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“นั่งเถอะ นั่งลงมาคุยกัน!” เฉินหยูยิ้มและพูดกับซุนอิ่งซู
ซุนอิ่งซูได้นั่งลงข้างฉีเติ่งเสียนทันที จากนั้นจึงแอบหยิกเข้าไปที่เอวของฉีเติ่งเสียน แล้วบิดไปมาสามครั้ง
“นี่สินะที่เรียกว่ากรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนองคืน!” เฉินหยูแอบหัวเราะเยาะ จากนั้นจึงเทกาแฟให้ซุนอิ่งซู
ซุนอิ่งซูก็ไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้นจึงเปลี่ยนมาปรึกษาหารือกับเฉินหยูเกี่ยวกับตลาดทางหนานหยางอย่างตั้งใจ หลังจากที่นายทุนซ่านซิงได้เข้าไปในตลาดหนานหยางแล้ว ก็ได้รับผลประโยชน์ที่แน่นอน เพียงแต่ว่า ประสิทธิภาพในการได้ผลประโยชน์นั้นค่อนข้างช้า เนื่องจาก สถานการณ์ตอนนี้ของหนานหยางนั้นค่อนข้างวุ่นวาย คุณภาพความเป็นอยู่ของประชาชนจึงไม่สูงมาก สินค้าบางรายการของซ่านชิงก็ซื้อไม่ไหว
แต่ก็ต้องขอบคุณแรงจากตระกูลเฉิน ที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐซื้อสินค้าจากซ่างชิงโดยเฉพาะ อีกทั้งอุปกรณ์ก่อสร้างพื้นฐานไม่น้อยก็ได้เลือกใช้ของซ่างชิง ไม่อย่างนั้นแล้ว น่าจะเป็นไปได้ยากที่จะได้เห็นผลประโยชน์
ทั้งสองได้คุยกันไปราวหนึ่งชั่วโมง ได้ปรึกษาสำหรับทิศทางในอนาคตและแนวโน้มการพัฒนาความร่วมมือเป็นที่เรียบร้อย
ฉีเติ่งเสียนไม่มีความสนใจในเรื่องกิจการธุรกิจพวกนี้เลยสักนิด คำศัพท์เฉพาะทางมากมายและสกิลต่างๆก็ฟังไม่รู้เรื่อง ดังนั้นเขาจึงนอนหลับตาบนโซฟาไปสักพักนึง
ซุนอิ่งซูจับมือกับเฉินหยูแล้วพูดว่า“คุณหนูเฉิน ฉันขอลาไปก่อน ขอบคุณสำหรับการดูแล พรุ่งนี้ฉันเลี้ยงข้าว”
เฉินหยูยิ้ม“เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่สะดวก พรุ่งนี้ฉันต้องให้พระอัครสังฆราชฉีไปทำธุระเป็นเพื่อน ไว้วันหลังเถอะ ฉันจะนัดเธอเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...