มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1185

แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนสังเกตเห็นเซี่ยงเวิ่นเทียนที่ตบเซี่ยงหมิงอย่างแรง เพียงแต่ว่า เขากลับไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมา

เซี่ยงเวิ่นเทียนพาเซี่ยงหมิงเดินเข้ามาหา พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า“คุณฉี สบายดีไหม!”

ฉีเติ่งเสียนก็เสแสร้งลุกขึ้นมา“เหอะเหอะ นี่ไม่ใช่คุณเซี่ยงหรอกหรือ?สวัสดี สวัสดี!”

เซี่ยงเวิ่นเทียนที่เห็นฉีเติ่งเสียนพูดด้วยรอยยิ้มในใจก็อดไม่ได้ที่จะขนลุก เรื่องเกี่ยวกับฉีเติ่งเสียนนั้น เขารู้เยอะมาก เกี่ยวกับคนๆนี้ ไม่อยากที่จะหาเรื่องแม้แต่นิดเดียว

ตอนนี้ ทั้งเซียงซาน ยังมีใครที่กล้าหาเรื่องฉีเติ่งเสียนกัน?แต่ก่อนพวกที่หาเรื่องเขานั้น มีใครจบลงดีซะที่ไหน?

ตระกูลจี้น่าจะเทพสุด?เขาตบหน้าหุ้นส่วนของตระกูลจี้ในงานเลี้ยงวันเกิดของผู้อาวุโสจี้ ตระกูลจี้ก็ไม่ว่าอะไร

เรือของตระกูลเหลยนั้นก่อนหน้ายิ่งกว่าเนื่องจากถูกผู้มีอำนาจต่างๆปิดล้อม ผลเป็นอย่างไร?แต่ละคนแพ้ราบคาบ สูญเสียเงินก้อนใหญ่ ท้ายที่สุดก็ไม่ได้อะไรเลย

เขาเซี่ยงเวิ่นเทียนอยู่ที่เซียงซานถือได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่มีตำแหน่งและอำนาจ แต่หากเทียบกับฉีเติ่งเสียนแล้ว ก็ยังถือว่ามีช่องว่างอยู่

“คุณฉี ต้องขอโทษจริงๆ ลูกชายของผมนั้นไม่มีตา ดันไปล่วงเกินคุณเข้า!เมื่อครู่ ผมได้ลงมือสั่งสอนเขาไปแล้ว โปรดอย่าถือสา” เซี่ยงเวิ่นเทียนพูดกับฉีเติ่งเสียนด้วยความเกรงใจ พร้อมกับหยิบซิการ์ในอกออกมายื่นให้เขา

ฉีเติ่งเสียนโบกมือ เขาไม่สูบบุหรี่ กับซิการ์ก็ไม่มีความสนใจ กลับรู้สึกว่าสิ่งนี้ใช้เพื่อเสแสร้งเพียงเท่านั้น

เซี่ยงเวิ่นเทียนเห็นฉีเติ่งเสียนไม่รับ ตนก็ไม่กล้าสูบ จึงนำซิการ์เก็บกลับเข้าไป“คุณฉี พอจะให้โอกาสวัยรุ่นได้ไหม?”

เซี่ยงหมิงที่อยู่ด้านข้างถึงจะโกรธแต่ก็ต้องเก็บไว้ เขาไม่เห็นด้วยว่าตนจะเด็กกว่าฉีเติ่งเสียน เมื่อตอนนี้ ทั้งสองกลับไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน

ขนาดพ่อของตนยังต้องระมัดระวังในการปฏิบัติตัวกับฉีเติ่งเสียน แล้วตัวเขาเองในสายตาเขานั้น จะถือเป็นอะไร?

“ลูกชายนายไม่ได้ล่วงเกินผม แต่กลับทำให้ผู้กำกับสวีบาดเจ็บ” ฉีเติ่งเสียนพูด“ยังดีที่เป็นผู้กำกับสวี”

สวีเค่อยิ้มให้กับเซี่ยงเวิ่นเทียนอย่างช่วยไม่ได้“เมื่อครู่คุณชายเซี่ยงหุนหันพลันแล่นไปหน่อย ผมได้ขวางเขาไว้ ก็เลยโดนมาหนึ่งที ไม่ได้เป็นอะไรมาก”

เซี่ยงเวิ่นเทียนถอนหายใจออกมา พร้อมกับส่งสายตาขอบคุณไปที่สวีเค่อ

หากเซี่ยงหมิงได้ลงมือกับฉีเติ่งเสียนจริงๆล่ะก็ แล้วถูกฝ่ายตรงข้ามจับจุดอ่อนได้ล่ะก็ ตระกูลเซี่ยงไม่ตายก็คงได้ถูกถลกหนังเป็นแน่!

ดูตระกูลจี้ซะก่อนว่าถูกเขาจัดการอย่างไร?เขาบุกไปที่บ้านโดยตรงและลักพาตัวจี้ข่ายไปอย่างเปิดเผย แล้วยังเอาเงินจากตระกูลจี้ไปถึงสองพันล้าน

ตระกูลเซี่ยงไม่ได้เหมือนกับตระกูลจี้ที่ร่ำรวยแบบนี้ หากโดนแบบเดียวกันเข้า มีหวังได้ล้มละลาย

“เมื่อครู่ประธานหวังไม่ทันระวังได้พูดคำพูดที่ล่วงเกินคุณฉีออกมา ท้ายที่สุดก็ทิ้งบัตรดำไว้ใบนึงแล้วจากไป” สวีเค่อไอออกมาหนึ่งที เพื่อเตือนเซี่ยงเวิ่นเทียน

เซี่ยงเวิ่นเทียนตะลึง เป็นไปตามคาด ที่เป็นข่าวไปทั่วว่าฉีเติ่งเสียนต้องการเงินตอนนี้ไม่เกินจริง ใครหาเรื่องเขาเข้า เขาต้องถือโอกาสนี้ไถ่เงินอย่างหนักหน่วงแน่นอน

เรื่องนี้เป็นที่แพร่หลายอยู่พอตัว ดังนั้น ช่วงนี้จึงไม่มีคนหลับหูหลับตาที่จะกล้าล่วงเกินฉีเติ่งเสียนที่เป็นตัวอันตราย

นิ้วของเซี่ยงเวิ่นเทียนเคาะไปที่โต๊ะ และมองไปที่เจียงชิงเย่ว์แวบนึง จากนั้นจึงพูดขึ้นมาอย่างรู้ความ“เอาแบบนี้ไหม คุณฉี เพื่อเป็นการไถ่โทษ......”

“ทางด้านพวกเรา รายได้ทั้งหมดจากการลงทุนในภาพยนตร์ของผู้กํากับสวีนั้น จะมอบให้คุณเพื่อการกุศลของศาสนาศักดิ์สิทธิ์”

“คุณคิดว่า แบบนี้พอจะได้ไหม?”

เมื่อฉีเติ่งเสียนได้ฟังก็อดไม่ได้ที่จะชะงัก จากนั้นจึงขมวดคิ้ว คิดถึงหนังฟอร์มใหญ่ของสวีเค่อ รายได้จากการขายตั๋วคงหนีไม่พ้นพันล้าน ตระกูลเซี่ยงเป็นฝ่ายลงทุน ส่วนแบ่งจากรายได้ตั๋วไม่น้อยแน่นอน......

เจียงชิงเย่ว์ได้ฟังที่เซี่ยงเวิ่นเทียนพูดก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง ไอ้แซ่ฉีนี่ พลังในการดูดเงินโหดเกินไปแล้ว......ก่อนหน้านี้ที่อยู่โมตู ใช้หยกคาร์เนเลี่ยนที่แตกแล้วเพื่อรีดไถ ครั้งนี้เพียงเรื่องเล็กน้อย ก็ทำให้ตระกูลเซี่ยงยอมที่จะแบ่งรายได้จากการขายตั๋วมูลค่าหลักล้านให้?!

“ใช่ พวกเราล้วนเป็นผู้ศรัทธาในศาสนาศักดิ์สิทธิ์ ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน อามิ......อาเมน!” เซี่ยงหมิงรีบร้อนพูด

ฉีเติ่งเสียนพอใจมาก“แบบนี้ก็เข้าท่าเลย คนกันเอง ผมจะถือสาเรื่องเล็กแค่นี้กับคุณชายเซี่ยงได้อย่างไร?ถูกไหม!”

“ถูกถูกถูก!” เซี่ยงหมิงรีบร้อนพูด

“คุณชายเซี่ยงนั่งลงมา ดื่มกาแฟด้วยกันสักแก้วเถอะ ผมเลี้ยง!” ฉีเติ่งเสียนพูด

“จะให้ท่านเลี้ยงได้อย่างไร?หมอนี่มันไม่มีตาล่วงเกินท่าน เขาควรจะเลี้ยงถึงจะถูก” เซี่ยงเวิ่นเทียนพูด

“ได้สิ!”

เขารับคำอย่างรวดเร็ว ทำให้เซี่ยงเวิ่นเทียนและเซี่ยงหมิงสองพ่อลูกอดไม่ได้ที่จะตะลึง พร้อมคิดในใจว่าพี่แกช่างไม่มีความพิถีพิถันเอาซะเลย

หลังจากที่ดื่มกาแฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็หันไปบอกกับพนักงานว่า“ขอกาแฟดำที่เข้มข้นพิเศษอีกหนึ่งแก้ว ผมต้องการใส่ถุง”

“......” เซี่ยงเวิ่นเทียนหมดคำจะพูดทันที นี่มันโกงแบบใด

ฉีเติ่งเสียนถือกาแฟที่ใส่ถุง จูงมือของสาวสูง พร้อมกับดูดกาแฟไปด้วยแล้วเดินจากไปอย่างสบายอารมณ์

เซี่ยงเวิ่นเทียนถึงจะหันกลับไป มองเซี่ยงหมิงด้วยสายตาดุดัน“พรุ่งนี้เป็นต้นไป กักบริเวณสองเดือน เผื่อสร้างปัญหาอะไรให้กับฉันอีก”

จากนั้นจึงหันไปหาสวีเค่อ“เรื่องในวันนี้ ต้องขอบคุณผู้กำกับสวีอย่างมาก”

“คุณเซี่ยงเกรงใจแล้ว เป็นสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว” สวีเค่อวพูดอย่างช่วยไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง