มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1206

"งั้นฉันจะพาหมาป่าโลภไปรอคุณที่เมื่อจิงเต่าก่อนนะ"

เช้าวันรุ่งขึ้น หยางกวนกําลังบอกลาฉีเติ่งเสียนที่สนามบิน

เธอใส่ชุดกระโปรง และเอาผ้าพันคอมาปกปิดร่องรอยที่ถูกหมากัด

ขนาดก่อนที่ฉีเติ่งเสียนและคุณนายซุนจะจากลายังต้องมีการขอพรปลุกเสกก่อนเลย และแน่นอนว่ากับเลขาหยางที่รักจะพลาดได้ไงล่ะ ก็ต้องจัดชุดใหญ่ให้สักหน่อย

"อย่าหัวรุนแรงเกินไปก็พอ เอาความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก เรื่องในปีนี้ก็เยอะมากพอแล้ว ต้องเตรียมตัวเข้าปีใหม่แล้วนะ!" ฉีเติ่งเสียนกําชับหนึ่งรอบ

มีหมาป่าโลภคนนี้ที่เคยอยู่ในองค์กรใต้ดินเป็นบอดี้การ์ดให้หยางกวนกวน ฉีเติ่งเสียนไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเธอ

ยิ่งไปกว่านั้น หยางกวนกวนยังมีความสามารถจัดการลวี่ฉ่ายได้เลย กังฟูของตัวเธอเองก็พัฒนาขึ้น ไม่ต้องห่วงเธอหรอก

ฉีเติ่งเสียนเข้าไปในสนามบิน น่าเสียดายที่เวลาเที่ยวบินของเขาค่อนข้างผิดกับเวลาเที่ยวบินของเฉินหยู และไม่ได้เจอกันครั้งสุดท้ายที่สนามบิน

"หืม? ฉันนี่มันก็รักใครจริงจังจริงๆ เพิ่งลากับหยางกวนกวนก็นึกถึงเฉินหยูอีกแล้ว" ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจในใจ ผู้ชายที่รักใครจริวมักจะแบกรับอะไรที่มากเกินไป ยากจริงๆเลยกับการเป็นผู้ชายที่อบอุ่น

เขานั่งเครื่องบินไปยังเมืองไท่เย่ว์ในประเทศ และตรงไปที่เขาเสวียนหวู่ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมทางศาสนาในปีนี้

เขาเสวียนหวู่เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า ได้สืบทอดมาหลายพันปีและได้ทิ้งตํานานของเทพเจ้าลัทธิเต๋าไว้มากมาย

พอลงจากเครื่องบินก็เห็นเจ้าหน้าที่ศาสนสถานถือป้ายมารับ

"ท่านก็คือพระอัครสังฆราชทางเขตใต้ของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ ท่านฉีเติ่งเสียนใช่ไหมครับ?"

"เชิญทางนี้ครับ!"

ฉีเติ่งเสียนตามพนักงานคนนี้ออกจากสนามบิน ขึ้นรถตู้วีไอพีจากนั้นก็ไปที่เขาเสวียนหวู่

ฉีเติ่งเสียนหลับไปตลอดทางจากเซียงซาน พอตอนนี้ขึ้นรถตู้วีไอพีแล้ว ก็หาวและหลับตาอีกครั้ง

และไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเล็กน้อย ก็ถูกเรียกให้ตื่นขึ้นมา ทันทีที่ลงจากรถก็ถึงหน้าประตูโรงแรมระดับสามดาวแล้ว

โรงแรมอยู่ที่เชิงเขาของเขาเสวียนหวู่ ขึ้นไปอีกนิดก็คือสถานที่ประกอบพิธีศาสนาเขาเสวียนหวู่แล้ว

"ท่านพระอัครสังฆราช ผมเฝ้ารออยู่ที่นี่มานานแล้ว" ทันทีที่ฉีเติ่งเสียนลงจากรถ ก็มีคนต่างชาติเข้ามาต้อนรับ สวมเสื้อคลุมสีแดงและพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

ฉีเติ่งเสียนถามว่า "คุณคือพระอัครสังฆราชลอร์ดเรียนใช่ไหม? มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการศึกษาของประเทศหัวกั๋ว"

พระอัครสังฆราชลอร์ดเรียนพยักหน้าและพูดว่า "ฉันคือลอร์เรียนเอง"

ฉีเติ่งเสียนเผยสีหน้าเย็นชาออกมา ไอ่คนนี้คือหนอนบ่อนไส้ที่พระสันตะปาปาเฉามาฟ้องว่ารับเงินมืดจากเฉินปาเซี่ยนั้นสินะ อีกสักครู่ต้องหาวิธีกำจัดเขาหน่อยซะแล้ว!

ด้านหลังของลอร์ดเรียนยังมีศาสนาศักดิ์สิทธิ์คอยตามอีกหลายคน ตําแหน่งก็ไม่ต่ำ แต่พออยู่ต่อหน้าฉีเติ่งเสียนพระอัครสังฆราชท่านผู้นี้แล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นแค่เศษขี้ผงเท่านั้น

"เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีกับนาย!" ฉีเติ่งเสียนคิดในใจ

ถ้าไม่ใช่พระสันตะปาปาเฉามาฟ้องนะ เงินก้อนนั้น เขาสามารถรวบไว้เองครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งก็เอาออกมาบำรุงศาสนาศักดิ์สิทธิ์

หลังจากถูกฟ้อง เงินก้อนนั้นไม่สามารถรวบไว้เองทั้งหมด จะทำไงได้ พระสันตะปาปาเฉาเล็งไว้แน่นอน ไหนๆก็ต้องตรวจสอบบัญชี ถึงเวลานั้นคงส่งไปยังเทียนจู่กั๋วเพื่อตรวจสอบอีก

โรงแรมเต็มหมดแล้ว เต็มไปด้วยตัวแทนของนิกายต่างๆ และเจ้าหน้าที่จากศาสนสถาน

"ฉันในสถานะอะไร คุณมันฐานนะอะไรกัน?"

"คุณเป็นแค่พระอัครสังฆราช จะสอนพระอัครสังฆราชใหญ่อย่างฉันทํางานเหรอ?"

ลอร์ดเรียนตกใจ ไม่คิดว่าฉีเติ่งเสียนจะโมโหขนาดนี้ อ้าปากก็ด่าเลย ถูกเขาด่าจนหน้าแดงหูแดงทันที

อีกอย่าง พระรูปนั้นพูดเยาะเย้ยนาย นายด่าฉันทำไม?!

หลังจากนั้นไม่นาน ลอร์ดเรียนก็สะบัดแขนเสื้ออย่างแรงและพูดว่า "พูดหน่อยก็ไม่ได้งั้นเหรอ? ท่านเป็นพระอัครสังฆราช แล้วยังไง ถ้าไม่ใช่ท่าน ทุกคนก็ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้!"

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเกียจคร้านว่า "พระเจ้าสอนพวกคุณมาอย่างไร? ในสายตาของพวกคุณ มีแค่พวกกินเศษกินเลยแค่นี้เหรอ? พระภิกษุสงฆ์ของพุทธมณฑลฟาดเรียบก็ว่าแล้ว พวกคุณในฐานะผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐขององค์พระผู้เป็นเจ้า คนบาปที่เกิดมารอการไถ่ถอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า ได้แต่รอเสพสุขเองเหรอ?"

หนอยแหนะ ประโยคนี้ของฉีเติ่งเสียน ทำให้ฮุ่ยอู้โมโหจนตากระตุก พระเศียรหลายรูปก็พร้อมใจกันโผล่ออกมาจากห้องรอบข้าง แอบโกรธนิดๆ

แน่นอนว่าคนที่อยู่ข้างศาสนาศักดิ์สิทธิ์ก็รู้สึกโกรธคำพูดของฉีเติ่งเสียนไม่เบา

"พระอัครสังฆราชฉีหมายความว่าไง? อะไรคือพวกฉันฟาดเรียบทุกอย่าง?" พระรูปหนึ่งเดินออกมาจากห้องและถามอย่างไม่พอใจ

"อกุศลมูล คุณละเมิดศีลแล้ว! รีบกลับไปสวดมนต์ซะ ระวังจะไม่บรรลุนะ!" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเย็นชา

คนที่สามารถมาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ได้ ฐานะล้วนไม่ต่ำ อย่างน้อยก็เป็นบุคคลระดับผู้อาวุโส แต่ฉีเติ่งเสียนไม่ไว้หน้าเลย

เขาด่าไปโดยตรง ทำท่าทางพร้อมด่าทันทีที่เห็นผู้คน

ไม่นาน ทุกคนก็โวยวายกัน

เป้าหมายของฉีเติ่งเสียนคือแบบนี้แหละ ปล่อยให้เรื่องเป็นเรื่องใหญ่ก่อน แล้วให้ผู้บังคับบัญชาออกมาห้าม ดูว่าคิดแบบไหนค่อยว่ากัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง