เป็นอย่างที่คิด ตู้ฉางหมิงผู้รับผิดชอบการประชุมในครั้ง ถูกการทะเลาะวิวาทจนทำให้ตื่นตระหนกไปไกลแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่เข้าไปจัดการละก็ คนจากศาสนาศักดิ์สิทธิ์กับคนจากศาสนาพุทธจะต้องสู้กันแน่ๆ
คนจากศาสนาพุทธหลายคนต่างก็เป็นวรยุทธ์กันทั้งนั้น ทางด้านศาสนาศักดิ์สิทธิ์ก็มีฉีเติ่งเสียน ถ้ามีเรื่องกันขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าจะบาดเจ็บกันถึงขั้นพิการมันจะแย่เอานะ
“ท่านพระอัครสังฆราช โปรดแสดงเคล็ดลับศักดิ์สิทธิ์ของท่านออกมาเถิด ให้พวกพระสงฆ์เหล่านี้รู้แจ้งซะว่าศาสนาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราเก่งกาจขนาดไหน!” พ่อบ้านของศาสนาศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งอดไม่ได้ที่ตะโกนออกมาดังลั่น
ฉีเติ่งเสียนหยิบคทาของตนเองออกมาด้วยสายตาที่เหี้ยมโหดพลางกล่าวว่า “หุบปากไปให้หมด! ไม่งั้นฉันจะให้พวกแกได้ลิ้มรสพลังของคำสาปพิฆาต!”
อย่างไรก็ตามทุกคนก็นับว่าเป็นคนของศาสนากันทั้งนั้น คนไม่น้อยเลยที่มีฝีมืออันเก่งกาจ แต่พอได้เห็นฉีเติ่งเสียนหยิบไม้คทาออกมา เหล่าพระสงฆ์ก็อดไม่ที่จะแสดงความกลัวออกมาทางใบหน้าของตน
“มีข่าวลือว่าท่านพระอัครสังฆราชถือคทาสู้กับศาสนานอกรีตอย่างพวกลัทธิบูชาแดร็กคิวล่าได้ด้วยตัวคนเดียวด้วยล่ะ เขาใช้แค่คำสาปพิฆาตก็เด็ดหัวพวกมันไปได้ตั้งหลายคนแนะ!”
“จริงหรอ? ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเป็นเรื่องโกหกซะอีก...... คำสาปพิฆาตเนี่ยมันมีจริงหรอ?”
“บางทีมันอาจจะไม่ได้ชื่อนี้แต่แรกก็ได้ แต่ถูกท่านอัครสังฆราชเปลี่ยนมาอีกที คงจะเป็นเวทมนตร์คาถาอะไรสักอย่างในเคล็ดลับศักดิ์สิทธิ์ละมั้ง”
เหล่าผู้คนจากศาสนาศักดิ์สิทธิ์ก็อดไม่ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา ในตอนนั้นเองที่ความอาฆาตพยาบาทของฉีเติ่งเสียนได้ลดลงไปมากทีเดียว
ตู้ฉางหมิงที่เดินมาจากระเบียงทางเดินอีกด้านหนึ่งกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า “พระอัครสังฆราชฉี ท่าจะทำอะไรกันแน่? ทุกคนมาที่นี่เพื่อประชุมหารือเกี่ยวกับการพัฒนากิจการทางศาสนาในอนาคตนะ ไม่ได้มาเพื่อแสดงการต่อสู้กันสักหน่อย!”
ฉีเติ่งเสียนโบกคทาในมือของตนเองไปมาเบาๆ พลางพูดว่า “ฉันก็ไม่ได้มาแสดงการต่อสู้สักหน่อยนี่ อย่างมากก็แค่ใช้เวทมนตร์นิดหน่อย ฉันใช้เวทมนตร์มันจะไปเรียกว่าใช้กำลังต่อสู้ได้ไงจริงไหม?”
มุมปากของตู้ฉางหมิงกระตุกไม่หยุด มารดามันเถอะนี่มันคำแก้ตัวบ้าบออะไรกันเนี่ย? นี่มันเถียงข้างๆ คูๆ ไม่ใช่รึไง?
แต่ฉีเติ่งเสียนเองก็สามารถใช้เวทมนตร์คาถาที่เกี่ยวกับค้อนได้นี่ ไอ้นี่มันโกหกได้หน้าด้านๆ เสียจริง จะอย่างไรก็แล้วแต่ เหล่าผู้คนในศาสนาศักดิ์สิทธิ์แทบจะยกเขาขึ้นหิ้งกันแล้ว ถ้าเขาไม่แสร้งทำเป็นเก่งเช่นนี้ มันไม่เท่ากับว่าเขาไปหักหน้าของพระสันตะปาปาแล้วปล่อยเขาเผยความลับออกมารึไงกัน?
ที่เขาต้องคอยเสแสร้งเช่นนี้ เพราะเขาต้องการที่จะตอบแทนบุญคุณของพระสันตะปาปาด้วยใจจริง เพราะพระสันตะปาปาในใจของเขาท่านก็นับว่าเป็นตาเฒ่า...... ผู้อาวุโสที่น่าเคารพคนหนึ่ง——ต่อให้เขาจะโกหกก็ตาม
“ช่วงนี้มีคนจำนวนมากที่เดินทางมาเที่ยวที่เขาเสวียนหวู่ ห้องพักของโรงแรมก็มีจำนวนจำกัด ใครมาก่อนได้ก่อน ถ้าคุณมาช้าก็อาจจะไม่เหลือห้องดีให้พักแล้ว” ตู้ฉางหมิงกล่าวกับฉีเติ่งเสียนอย่างใจเย็นว่า “ท่านมีฐานะเป็นถึงพระอัครสังฆราช แต่กับกังวลเรื่องที่พักของตัวเองหรูหราหรือไม่หรูหรา ถ้ามีคนแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ท่านไม่กลัวขายหน้าหรอ?”
ฉีเติ่งเสียนกลับออกไปแย้งว่า “คุณก็รู้ว่าฉันเป็นถึงพระอัครสังฆราช แต่กลับของห้องแบบนี้ให้ฉันงั้นหรอ?”
ตู้ฉางหมิงกลับตอบอย่างเฉยชาว่า “ถ้าท่านเก่งนัก สามารถออกไปหาที่อยู่ข้างนอกเอาเองได้น ผมไม่ได้ห้ามเสียหน่อย!”
ฉีเติ่งเสียนตอบอย่างยิ้มๆ ว่า “ได้!”
ที่เขารอมาตลอดก็คำนี้แหละ จากนั้นก็หันไปบอกกับเหล่านักบวชข้างกายว่า “พี่น้องทั้งหลาย ไป ออกไปอยู่กับฉันเถอะ!”
“เอ่อ...... ทำไมรู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นพวกเด็กอันธพาลจากเซียงซานเลยนะ?” พ่อบ้านคนเมื่อกี้อดไม่ได้ที่จะถามออกมาเสียงเบา
“ทุกคนล้วนเป็นบุตรของพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ เราก็ควรที่จะเป็นพี่น้องกันไม่ใช่รึไง? หรือว่าพวกคุณอยากเป็นพวกศาสนานอกรีตกันล่ะ?” ความสามารถในการได้ยินของฉีเติ่งเสียนจะชักจะโดดเด่นเกินคนทั่วไปเกิดไปแล้ว เขาจึงได้หันกลับมาถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียน
ใบหน้าของพ่อบ้านคนนั้นแทบจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความหวาดกลัว เขารีบส่ายหัวพลางพูดว่า “ท่านอัครสังฆราช ผมไม่ได้มีความคิดเช่นนั้นเลย ท่านพูดถูก เราทุกคนล้วนเป็นบุตรของพระเจ้าผู้ศักดิ์และเป็นพี่น้องกัน!”
ตู้ฉางหมิงส่งเสียงเหอออกมาอย่างเย็นชา ไสหัวออกไปกันให้หมดนั่นแหละดี ช่วยเขาประหยัดเงินไปได้ตั้งเยอะ!
ถึงแม้ว่าใกล้ๆ นี้จะมีโรงแรมห้าดาวอยู่แห่งหนึ่งก็ตาม แต่ราคาของที่นั่นก็แพงมากเหลือเกิน
ถึงแม้ว่าลอร์ดเรียนจะไม่พอใจเท่าไหร่ก็นัก แต่ในเมื่อฉีเติ่งเสียนทำให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว เขาก็ทำได้แค่กัดฟันทนเดินตามพวกเขาไปเท่านั้น ถ้าไม่ทำเช่นนั้นละก็ เขาจะไม่กลายเป็นคนทรยศของศาสนาศักดิ์สิทธิ์รึไงกัน?
หลังจากเดินทางมาถึงโรงแรมที่อยู่ห่างออกมาไม่ไกลมากนัก ฉ๊เติ่งเสียนก็หยิบแบล็กการ์ดที่เขาได้มาจากประธานหวังแห่งหลงเหมินฟิล์มออกมา แล้วตบมันลงบนโต๊ะเสียงดังปังแล้วพูดว่า “หนึ่ง สอง สาม สี่......เอิ่ม ขอห้องที่ดีที่สุดเก้าห้อง แล้วก็ขอห้องเพรสซิเดนท์สูทให้ฉันด้วยอีกห้อง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...