มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1208

แน่นอนว่าลอร์ดเรียนทนไม่ได้กับเรื่องนี้ เขาจึงโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศถึงพระสันตะปาปาโดยตรง

แต่แทนที่พระสันตะปาปาจะสนับสนุนเขาในการลงโทษฉีเติ่งเสียน ท่านกลับด่าเขาแทนเสียอย่างนั้น

เรื่องนี้ทำให้ลอร์ดเรียนอดที่จะน้อยใจไม่ได้ เขาอัดอั้นมาเสียจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะ ไอ้หนุ่มนี่ดูท่าจะไม่เคยถูกความจริงตีแสกหน้าสินะ ถึงได้ไม่ได้รู้ความแตกต่างของระดับชั้นของเราทั้งคู่อย่างนี้! นายมีฐานะเป็นถึงพระคาร์ดินัลของประเทศหัวกั๋ว แต่วันๆ กลับเอาแต่แบมือของเงินลงทุนจากพระสันตะปาปาบอกว่าจะเอาไปพัฒนาศาสนา กลับกันฉันเอาแต่หาเงินสร้างรายได้ให้กับพระสันตะปาปาอย่างบ้าคลั่ง เพราะงั้นสถานะของเราทั้งสองคนในใจของพระสันตะปาปาจะไปเท่ากันได้อย่างไร?

“ถ้าครั้งหน้าแกยังทำตัวเป็นคนต่ำช้าแบบนี้อีก มาดูกันว่าฉันจะอัดแกยังไงอีกดี!” ฉีเติ่งเสียนกล่าวเตือนลอร์ดเรียน พลางโบกหมัดที่ใหญ่ราวกับกระสอบทรายอันเล็กๆ ของตนไปมากลางอากาศ

ลอร์ดเรียนเมื่อเห็นว่าเรื่องที่เขาร้องเรียนกับพระสันตะปาปาไปไม่ได้รับการสนับสนุนก็ตัดสินใจยอมแพ้ เขายิ้มด้วยหนาเหยเกพลางเช็ดเลือดกำเดาอย่างเงียบๆ ไม่กล้าพูดอะไรมากความอีก

หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนกล่าวเตือนเสร็จ เขาก็หมุนกายเดินออกมาจากห้อง โดยที่ไม่ได้ถ่ายรูปลอร์ดเรียน

ทันทีที่เขาเดินจากไป ลอร์ดเรียนก็ส่งเสียงเชอะและสบถด่าออกมา “เรื่องจริงสินะที่เขาว่ากันว่าพอคนเราแก่ขึ้นก็จะเลอะเลือน!”

ไม่จำเป็นต้องคิดเยอะเลยว่าประโยคที่พูดออกมาเมื่อกี้หมายถึงใคร

ความสามารถในการรับฟังของฉีเติ่งเสียนนับได้ว่าสุดยอดจริงๆ เขาได้ยินประโยคเมื่อสักครู่อย่างชัดเจนทุกคำ แต่ว่า ในเมื่อไม่ได้ว่าเขาเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร

แต่เขาก็ได้ก็ทำการจดประโยคเมื่อสักครู่ลงในสมุดเล่มน้อยเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากหลังจากนี้ลอร์ดเรียนยังกล้าที่จะทำตัวเป็นปรปักษ์กับเขาอีกละก็ เขาก็พร้อมที่จะนำประโยคนี้ไปบอกแก่พระสันตะปาปาโดยตรง

“คนฉลาดปราดเปรื่องอย่างฉันคนนี้ จะเอาเงินตัวเองจ่ายได้ยังไงกัน?” ฉีเติ่งเสียนเก็บสมุดเล่มน้อยเข้ากระเป๋า บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

แค่รอให้ไอ้คนที่ขึ้นหลังไปแล้วแต่ลงไม่ได้อย่างตู้ฉางหมิงเดือดร้อนในวันพรุ่งนี้ กล้าทำให้ฉันอับอายดีนัก? เรื่องดีๆ แบบนี้จะขาดไปได้อย่างไรกัน!

“ดินสอของฉันล่ะ?”

ในขณะที่ฉีเติ่งเสียนกำลังคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นอย่างฉับพลัน

“ผี!” เขาหยิบคทาออกมาอย่างไม่รู้ตัว

จะมีใครกล้าขอดินสอจากเขาได้อีกนอกเสียจากพี่สาวเซี่ยงที่แสนจะอ่อนโยนเข้าถึงง่าย สวย จิตใจดี และยังมีเมตตาอีก?

เมื่อหันศีรษะกลับไป เขาก็พบกับเซี่ยงตงชิงที่กำลังเอามือกอดอกพิงกำแพงอยู่ และมองดูเขาด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

วันนี้เซี่ยงตงชิงแต่งตัวอย่างสบายๆ เธอสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวเข้าคู่กับกางเกงยีนรัดรูป ท่อนบนเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบสบายๆ ส่วนผมยาวที่แสนจะงดงามของเธอนั้นก็ถูกปล่อยสยายพาดไว้บนไหล่อย่างสบายๆ

“คุณมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง?!” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

“ฉันรู้ว่านายจะมาร่วมงานชุมนุมศาสนา นอกจากนี้ ฉันก็อยากจะมาที่นี่เพื่อจุดธูปหลงโถวให้กับครอบครัว” เซี่ยงตงชิงกล่าว

ธูปหลงโถวถือเป็นของวิเศษอย่างหนึ่งของเขาเสวียนหวู่ ภายในวัดเต๋า จะมีเสาเหล็กลายมังกรต้นหนึ่งที่ยืดออกมาจากหน้าผาประมาณ 3 เมตรกว่า เสาเหล็กนี้กว้างประมาณ10กว่าเซนติเมตร แต่บนยอดเสากลับมีกระถังธูปตั้งอยู่

ตั้งแต่สมัยโบราณ มีผู้ศรัทธาจำนวนนับไม่ถ้วนที่ยอมถือศีลอดล่วงหน้า3วัน เพื่อแสดงว่าตนเองเคารพมีใจศรัทธาอย่างแท้จริงและขอพรให้ช่วยปกปักรักษา จากนั้นก็พากันฝ่าอันตรายเสี่ยงชีวิตเพื่อไปจุดธุปที่ยอดเสากัน

แน่นอนมีคนจำนวนมากที่ตกหน้าผาลงมาตายจากการขึ้นไปจุดธูป

ต่อมา การจุดธูปหลงโถวนี้ก็โดนกลายเป็นของต้องห้าม......แต่กฎพวกนี้น่ะมันมีไว้สำหรับคนธรรมดาเท่านั้น คนรวยก็ยังสามารถขึ้นไปจุดธูปได้เหมือนเดิมไม่ใช่รึไงกัน?

“ฉันว่าจะได้เจอนายพรุ่งนี้เสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่านายจะมาถึงที่นี่ ไม่ใช่ว่านายควรจะพักอยู่ที่โรงแรมสามดาวแห่งนั้นไม่ใช่หรอ?” เซี่ยงตงชิงถามอย่างสงสัย

“เฮ่อ หัวหน้าการประชุมเขาตั้งใจแกล้งฉันนะสิ เขาจัดห้องพักให้พวกเราเป็นห้องดำทั้งหมด” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันจะไปทนเรื่องไร้สาระแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

เซี่ยตงชิงถามกลับ “นั่นไม่ใช่เพราะว่านายออกเงินค่าใช้จ่ายเองหรอ? เขาคงไม่คิดว่านายเจ๋งหรอก เขาน่าจะด่าว่านายเป็นไอ้โง่ด้วยซ้ำ”

ฉีเติ่งเสียนกล่าวออกมาอย่างขำๆ “เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นไอ้โง่! ตั้งใจจัดการฉันนักใช่ไหม เตรียมรับผลจากการกระทำได้เลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง