มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1257

เมืองจิงเต่ามีทะเลกั้นเป็นพรมแดนอาณาเขตกับเมืองเซียงซาน

เมืองนี้มีอุตสาหกรรมการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีขนาดองค์กรใหญ่กว่าลาสเวกัสของประเทศมี่เสียอีก

จิ่วเฮิงได้เห็นเมืองสมัยใหม่ที่คึกคักเจริญรุ่งเรืองเช่นนี้ เขาก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ ตัวเขาช่างเป็นคนบ้านนอกที่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ หลังออกมาจากสนามบินเขาก็รู้สึกทุกอย่างมันช่างละลานตาและน่าตื่นตาตื่นใจเสียจริง

หลังจากที่ต่อแถวขึ้นรถ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปสถานที่พักที่เมืองจิวเต่าทันที

หยางกวนกวนยังได้ทำการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองจิงเต่าไว้อีกด้วย เธอในตอนนี้เป็นถึงเศรษฐินีท่านหนึ่ง จะใช้ชีวิตทั้งทีก็ต้องหรูหราสง่างามเสียหน่อย

นอกจากนี้ ของที่เธอกินก็ล้วนแล้วแต่เป็นของชั้นสูงระดับไฮเอนด์ทั้งสิ้น เธอพิถีพิถันในเรื่องอาหารเป็นอย่างมาก และพยายามเลี่ยงอาหารที่มาจากเทคโนโลยีเฮ็กซ์เทคที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย และยังส่งผลต่อการเลื่อนระดับของวรยุทธ์อีกด้วย

“ตอนนี้ตระกูลเย่ว์กำลังร่วมมือกับตระกูลจ้าว การก่อตั้งคาสิโนก็ใกล้เข้ามาทุกที อย่างไรพวกเราก็เป็นได้เพียงคนนอก เรายังคงต้องการให้คนจากตระกูลเหอเป็นคนเริ่มลงมือด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้น จะเป็นการเดินอ้อมแทนเปล่าๆ” หยางกวนกวนกล่าวกับฉีเติ่งเสียน

“คุณได้ติดต่อกับคนตระกูลเหอบ้างหรือเปล่า?” ฉีเติ่เสียนกล่าวพลางนั่งอ่านเอกสารที่หยางกวนกวนเตรียมให้อยู่บนโซฟา

หยางกวนกวนส่ายศีรษะไปมาพลางกล่าวว่า “เวลากระชั้นชิดเกินไป ฉันเดินทางมาที่จิงเต่าเพื่อรวบรวมข้อมูลเอกสารบางอย่างเท่านั้น เลยถือโอกาสทักทายคนจากรัฐบาลจิงเต่าไปด้วย เลยยังไม่ได้เวลาดำเนินการหาข้อมูลที่ละเอียดมากกว่านี้”

“แต่ว่า คุณหนูใหญ่ตระกูลเหอ เหอเซียนเซียนได้เป็นฝ่ายติดต่อฉันมาหาฉันด้วยตนเองแล้ว ดูเหมือนว่าเธอมีเจตนาที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในตอนนี้ของบ้านตระกูลเหอ”

“ผู้หญิงคนนี้ให้ความสนใจกับสถานการณ์ในเซียงซานเป็นอย่างมาก และเธอยังรู้อีกด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้นเธอจึงอยากที่จะขอความช่วยเหลือจากพวกเรา”

หลังจากที่ฟังจบ ฉีเติ่งเสียนก็ไตร่ตรองเรื่องนี้อยู่ครึ่งค่อนวัน จากนั้นถึงเอ่ยปากกล่าวออกมาว่า “เธอสวยไหม?”

ใบหน้าของหยางกวนกวนมืดลงในชั่วพริบตาที่ได้ยินประโยคนั้น

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะออกมาเสียง และกล่าวว่า “ฉันล้อเล่นหรอกน่า ไม่ต้องไม่สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หรอก ในใจของฉันมีแต่เธอเท่านั้น เธอก็รู้ไม่ใช่หรอ?”

“ถ้าเซี่ยงตงชิงอยู่ตรงนี้ แล้วคุณพูดประโยคเมื่อกี้ต่อหน้าเธอ ฉันถึงจะเชื่อคุณ” หยางกวนกวนตอบอย่างเย็นชา

ฉีเติ่งเสียนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินประโยคนี้ และกล่าวเพียงแค่ “เธอให้เหอเซียนเซียนมาทานอาหารเย็นที่บ้าน แล้วพวกเรามาคุยกับเธอดีๆ กันดีกว่า”

หยางกวนกวนไม่ได้กล่าวต่อ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรเหอเซียนเซียน บอกว่าฉีเติ่งเสียนมาถึงแล้ว และอนุญาตให้เธอมาพบเขาได้”

เหอเซียเซียนอดดีใจไม่ได้ เธอรีบตอบตกลงในทันที แล้วบอกว่าตัวเองจะไปถึงตรงเวลาอย่างแน่นอน

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าปีนี้ชีวิตของเขาค่อนข้างจะสบาย หลังจากที่มาถึงเมืองจิงเต่า เขาก็ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ผ่อนคลายเช่นเดิม ก่อนอื่นเริ่มจากโทรหาสวี่ฉางเกอที่เซียงซาน สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของสำนักหลงเหมินสาขาย่อยของเมืองเซียนซาน จากนั้นก็โทรหาหวงเหวินหลั่งทักทายสารทุกข์สุกดิบเสียหน่อย

ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแบบนี้ก็ต้องรักษาเอาไว้เช่นกัน

“พี่ใหญ่ ปล่อยผมไปเถอะ ผมเหนื่อยจริงๆนะ เหนื่อยจนขยับไม่ไหวแล้ว!” เสียงของหมาป่าโลภดังออกมาจากเสียงหลังบ้าน

“ไม่ได้!” จิ่วเฮิงพูดตอบเสียงสูง

“ผมไม่ไหวจริงๆ นะ!” หมาป่าโลภกล่าว

“ไม่ไหวก็ต้องไหว มา ขยับต่อ! ออกแรงอีกหน่อย! แรงขึ้นอีก! ฮ่า รู้สึกดีชะมัด......” จิ่วเฮิงตะโกนเสียงดัง

ฉีเติ่งเสียนที่ได้ยินเสียงตะโกนเดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำของทั้งสองคน เขาอดที่จะรู้สึกอยากตายไม่ได้ มารดามันเถอะ ถ้าไม่ได้รู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนมาก่อนแล้วได้ยินการสนทนาเหล่านี้เข้า เกรงว่าเขาคงขนลุกขนพองไปทั้งตัว

หมาป่าโลภในตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนัก งานเดียวของเขาในฐานะล่ามก็ถูกแย่งไป อาการบาดเจ็บที่ขาก็ยังไม่หายดี ลูกน้องทั้งหมดในเรือนจำโยวตูก็โดนแย่งไปจนหมด การออกมาครั้งนี้ ก็ยังโดนจิ่วเฮิงลากไปเป็นคู่ซ้อม เขาช่างน่าสงสารจริงๆ

เมื่อเวลาช่วยบ่ายมาถึง คุณหนูใหญ่ตระกูลเหอ เหอเซียนเซียนก็มาถึงพร้อมกับบอดี้การ์ดของเธอ

เหอเซียนเซียนสวมชุดเดรสสีขาวและใส่เครื่องประดับราคาแพง แสดงถึงบุคลิกที่นับถือของบุตรสาวของครอบครัวผู้มั่งมีไปด้วยทุกที่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง