จ้าวเฉียงมั่นใจว่าฉีเติ่งเสียนไม่กล้าลงมือกับเขา แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ คนที่ลงมือกับเขากลับเป็นจ้าวเทียนลู่ผู้เป็นพ่อ!
หลังจากที่จ้าวเทียนลู่เตะเขาด้วยใบหน้าอึมครึมแล้ว ก็กัดฟันพูดขึ้นมาว่า:"แกมันสารเลว อาศัยบารมีฉัน ก่อเรื่องไปทั่วใช่ไหม? !"
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ของจ้าวเทียนลู่ต่างตกตะลึง ไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เมื่อสักครู่นี้จ้าวเทียนลู่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขามาที่นี่เพื่อช่วยจ้าวเฉียง แต่ในตอนนี้ กลับกลายเป็นมาจัดการจ้าวเฉียง
ใบหน้าของจ้าวเฉียงก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความน้อยใจ พูดขึ้นมาว่า:" พ่อ นี่มัน............"
จ้าวเทียนลู่รีบเดินไปตรงหน้าของฉีเติ่งเสียน จับมือของฉีเติ่งเสียนเขย่า แล้วพูดยิ้ม ๆ ว่า:"คุณชายฉี ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!"
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความสงบนิ่งว่า:"ลูกชายของน่าเกรงขามจริง ๆ ผู้บัญชาการจ้าว ถือเงินมาต้องการจะซื้อที่ดินบริษัทของเรา ไม่ขายให้ก็ทุบบริษัทผมเลย!"
มีเหงื่อซึมออกมาหน้าผากของจ้าวเทียนลู่ ความสัมพันธ์ระหว่างฉีเติ่งเสียนกับตระกูลหวงเขาเองก็รู้เป็นอย่างดี
ถ้าฉีเติ่งเสียนบอกเรื่องนี้กับหวงเหวินหลั่ง ตำแหน่งผู้บัญชาการนี้ของตนคงต้องสิ้นสุดลงเป็นแน่
จ้าวเทียนลู่รู้นิสัยของจ้าวเฉียงดี เป็นประเภทโอหังอวดดีและกำเริบเสิบสาน หลังจากเปิดบริษัท เขามักจะใช้อำนาจของตนเพื่อรังแกผู้ชายและเอาเปรียบผู้หญิง
"จ้าวเฉียง แกนี่มันสารเลว กล้าบังคับซื้อขาย? ไม่ใช่บอกว่าจะตั้งใจทำธุรกิจเหรอ?" จ้าวเทียนลู่เตะจ้าวเฉียงที่เพิ่งลุกขึ้นมาอีกครั้ง
เพิ่งได้รับการทุบตีอย่างโหดเหี้ยมจากฉีเติ่งเสียน ตอนนี้กลับถูกจ้าวเทียนลู่ทุบตีด้วยความรุนแรงอีก จ้าวเฉียงเริ่มมีความคิดอยากตายขึ้นมาแล้ว
ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เมื่อกี้พูดอะไรก็ตามหวังเป้าไป ต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งนี้ที่ไหนกัน?
ฉีเติ่งเสียนส่ายหน้าแล้วพูดว่า:"บริษัทถูกเขาทำลายกลายเป็นแบบนี้ จะต้องชดใช้ความเสียหาย"
"ตกลงกันได้ ๆ ห้าสิบล้านนี้ ถือเป็นค่าชดใช้บริษัทของคุณแล้วกัน!" จ้าวเทียนลู่ตัดสินใจแทนจ้าวเฉียง
สีหน้าของจ้าวเฉียงเปลี่ยนไปทันที ปากเต็มไปด้วยความขมขื่น ไม่ได้ประโยชน์อะไรแล้ว แถมยังต้องโดนทำร้ายอีกตั้งสองครั้ง และยังต้องชดใช้อีกห้าสิบล้าน?
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าแล้วพูดว่า:"แต่บริษัทของผมโดนทำลายไปแล้วนะ!"
จ้าวเทียนลู่ยิ้มเจื่อนแล้วพูดว่า:"คุณชายฉีคุณลองบอกแนวทาง?"
"คนที่ทำลายบริษัทของผมเมื่อกี้ ทุกคนห้ามขาดไปแม้แต่คนเดียว หักมือของตัวเองข้างหนึ่งแล้วไสหัวไปซะ เรื่องนี้ผมจะไม่สนใจอีกต่อไป!"
"ไม่เช่นั้นละก็ ผมคงต้องไปถามนายกหวงแล้ว ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการรักษาความปลอดภัยในจงไห่"
"บริษัทเพิ่งจะเปิดกิจการ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งมาทุบและปล้น"
ฉีเติ่งเสียนมองจ้าวเทียนลู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแต่ไม่ยิ้ม กวาดสายตามองพวกลูกน้องของจ้าวเฉียง แล้วพูดขึ้นด้วยความราบเรียบ
สีหน้าของจ้าวเทียนลู่อึมครึมขึ้นทันที แล้วถามจ้าวเฉียงว่า:"แกได้ลงมือด้วยไหม?"
"เปล่า ๆ............." จ้าวเฉียงรีบส่ายหน้า เขาแค่เอาบุหรี่จี้โซฟาจนเป็นรูเท่านั้นเอง การทุบทำลายบริษัทล้วนเป็นฝีมือลูกน้องของเขา
จ้าวเทียนลู่โล่งอก หลังจากนั้นก็หันไปออกคำสั่งกับลูกน้องของจ้าวเฉียงว่า:"คำพูดของคุณชายฉี พวกแกฟังเข้าใจแล้วยัง?"
"ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ หักมือของตัวเอง แล้วไสหัวไปซะ!"
"ไม่เช่นนั้นละก็ ไปสถานีตำรวจให้หมด จะขังพวกแกสักแปดปีสิบปี!"
จ้าวเทียนลู่รู้ดีว่าฉีเติ่งเสียนต้องหารใช้คนเหล่านี้สร้างบารมี ไม่อย่างนั้น ต่อไปจะมีคนมาหาเรื่องที่บริษัทไม่เว้นวัน เช่นนั้นธุรกิจจะได้ทำอีกไหม?
ลูกน้องของจ้าวเฉียงต่างสบตากัน แต่ละคนสีหน้าขาวซีด สุดท้ายมีคนไม่สามารถแบกรับภาระหนักไว้ได้ เริ่มหักแขนตัวเองด้วยใบหน้าร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า
"อ๊า................"
"อ๊า................"
"แกร็ก............"
เสียงกรีดร้องและเสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้ยินจนขนหัวลุก
จ้าวเทียนลู่สังเกตเห็นว่าใบหน้าของฉีเติ่งเสียนเริ่มสงบลง ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ยิ่งรู้สึกหวาดหลัวขึ้นในใจ ยิ่งมั่นใจว่าเขาเป็นคนที่ตนไม่คสรยุ่งด้วย!
"ไสหัวไปซะ!" จ้าวเทียนลู่ถอนหายใจด้วยความเย็นชา
ลูกน้องเหล่านี้ของจ้าวเฉียง รีบออกไปจากประตูของบริษัทเทียนไล่แคปปิตอลทันทีด้วยความตื่นตระหนก
จ้าวเฉียงถูกจ้าวเทียนลู่จับไว้ จับกดลงตรงหน้าของฉีเติ่งเสียน แล้วพูดด้วยความเยือกเย็นว่า:"ขอโทษคุณชายฉี!"
"คุณชายฉี ขอโทษครับ ผมมีตาหามีแววไม่ หาเรื่องผิดคน ได้โปรดให้โอกาสผมได้กลับตัวกลับใจด้วยครับ"จ้าวเฉียงร้องไห้อย่างขมขื่นแล้วพูดออกมา เขาในตอนนี้ก็เข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ว่าตนหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่อง
ฉีเติ่งเสียนเหลือบมองจ้าวเฉียง แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า:"ในเมื่อคุณยอมรับผิด อีกทั้งค่าชดใช้ก็จ่ายมาแล้ว งั้นก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ไปเถอะ"
จ้าวเฉียรรีบพูดขึ้นมาว่า:"ขอบคุณครับคุณชายฉี ขอบคุณครับคุณชายฉี"
หลังจากพูดจบ จ้าวเฉียงก็รีบวิ่งหนีด้วยความลนลานออกจากบริษัทเทียนไล่แคปปิตอล เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันทำให้เขาหดหู่โดยสิ้นเชิง
"พวกนาย ช่วยคุณชายฉีเก็บกวาด!" จ้าวเทียนลู่สั่งให้เจ้าหน้าที่สำรวจภายใต้ความดูแลของตน มาช่วยฉีเติ่งเสียนเก็บกวาดทำความสะอาดบริษัท
เพราะนี่เป็นสิ่งที่จ้าวเฉียงลูกชายของตนก่อเรื่องขึ้น เพื่อให้จบลงด้วยดี สิ่งที่ควรทำก็ต้องทำ
ผ่านไปครู่ใหญ่ จ้าวเทียนลู่ก็พาเจ้าหน้าที่สำรวจออกจากบริษัทเทียนไล่แคปปิตอล ตอนจากไป ในใจก็ยังคงหวาดผวาอยู่
ฉีเติ่งเสียนเรียกฝ่ายบีญชาของบริษัทมาแล้วกำชับว่า:"เก็บเงินห้สิบล้านนี้ไป แล้วเอาไปตกแต่งบริษัทใหม่อีกครั้ง"
"คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนี้ แบ่งให้ทุกคนคนละหนึ่งหมื่น เป็นค่าปลอบขวัญให้กับทุกคน"
"เงินที่เหลือเก็บไว้ในบัญชี เก็บไว้เป็นเงินหมุนในบริษัท"
ฉีเติ่งเสียนโบกมือใหญ่ แล้วเริ่มจ่ายเงิน
พนักงานได้ยินว่าจะได้เงินหนึ่งหมื่น ต่างพากันดีอกดีใจขึ้นมา พากันปรบมือ ยิ่งรู้สึกเชื่อถือในตัวฉีเติ่งเสียนมากขึ้น
ฝีมือการต่อสู้อุกอาจ แถมยังมีผู้สนับสนุนเบื้องหลัง สปอร์ตใจกว้าง เจ้านายแบบนี้ ใครบ้างไม่ชอบ?
ทุกคนรู้สึกว่าการทำงานที่เทียนไล่แคปปิตอล จะต้องมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนเปิดประชุมสั้น ๆ แล้ว จากนั้นก็พาหลี่อวิ๋นหว่านออกจากบริษัท
"วันนี้คุณน่าเกรงขามเกินไปไหม ฉันมองดูจนรู้สึกกระสับกระส่าย!" หลี่อวิ๋นหว่านพูดยิ้ม ๆ วันนี้เป็นการเปิดหูเปิดตาจริง ๆ
"เฉย ๆ คุณหยุดชมผมได้แล้ว ถึงชมผมก็ไม่แบ่งเงินให้คุณหรอกนะ" ฉีเติ่งเสียนโบกมือ แล้วพูดขึ้นด้วยความราบเรียบ
หลี่อวิ๋นหว่านเอื้อมมือไปหยิกเอวของเขาด้วยความโกรธ ถอนหายใจด้วยความเย็นชาแล้วพูดขึ้นว่า:"คนที่อีคิวต่ำอย่างคุณ ไม่ช้าก็เร็วต้องทำฉันโกรธตาย!"
กลับถึงหมู่บ้านคฤหาสน์อวิ๋นติ่ง มื้อค่ำหลี่อวิ๋นหว่านเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเอง กับข้าวสามอย่างและซุปอีกหนึ่งอย่าง แต่หน้าตาสวยงามกลิ่นหอมรสชาติอร่อย ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวคนนี้จะมีทักษะการทำอาหารได้ขนาดนี้
"คุณฉี คุณดูสินั่นใช่รถของประธานเซี่ยงรึเปล่า? !" ตอนที่ออกไปเดินเล่น หลี่อวิ๋นหว่านเห็นรถเบ้นซ์คันหนึ่งจอดอยู่บนถนนบนภูเขา อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
ฉีเติ่งเสียนหันไปมอง เป็นรถของเซี่ยงตงฉิงจริง ๆ เขาขมวดคิ้วขึ้นทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า:"เกิดเรื่องแล้ว!"
หลังจากพูดจบ เขาให้หลี่อวิ๋นหว่านรอเขาอยู่ตรงนี้ เดินขึ้นถนนบนเขาที่ขรุขระอย่างรวดเร็วด้วยตัวเอง ตรงไปบนยอดเขาอวิ๋นติ่ง
บนภูเขา หวังหู่ยืนเคียงข้างกับเซี่ยงตงฉิง เขายิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า:"ตงฉิง คุณยังไม่พร้อมตอบตกลงการจีบของผมอีกเหรอ?"
"ความอดทนของคน ๆ หนึ่ง จะดีสักแค่ไหน ก็ยังมีขีดจํากัดอยู่ดี!"
"หรือว่า คุณไม่รู้เหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
อัพทุกวันอะไรครับ...
รอตอนที่207ครับผม.. สนุกมาก...
สนุกดีครับ...
ไปเล่นสงกรานต์เพลินจนลืมอัพเดทป่าวครับ...
สนุกครับ...
สนุกครับ...
มีต่อไหมครับ กำลังสนุกเลย...