มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 129

จ้าวเฉียงมั่นใจว่าฉีเติ่งเสียนไม่กล้าลงมือกับเขา แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ คนที่ลงมือกับเขากลับเป็นจ้าวเทียนลู่ผู้เป็นพ่อ!

หลังจากที่จ้าวเทียนลู่เตะเขาด้วยใบหน้าอึมครึมแล้ว ก็กัดฟันพูดขึ้นมาว่า:"แกมันสารเลว อาศัยบารมีฉัน ก่อเรื่องไปทั่วใช่ไหม? !"

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ของจ้าวเทียนลู่ต่างตกตะลึง ไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?

เมื่อสักครู่นี้จ้าวเทียนลู่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขามาที่นี่เพื่อช่วยจ้าวเฉียง แต่ในตอนนี้ กลับกลายเป็นมาจัดการจ้าวเฉียง

ใบหน้าของจ้าวเฉียงก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความน้อยใจ พูดขึ้นมาว่า:" พ่อ นี่มัน............"

จ้าวเทียนลู่รีบเดินไปตรงหน้าของฉีเติ่งเสียน จับมือของฉีเติ่งเสียนเขย่า แล้วพูดยิ้ม ๆ ว่า:"คุณชายฉี ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!"

ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความสงบนิ่งว่า:"ลูกชายของน่าเกรงขามจริง ๆ ผู้บัญชาการจ้าว ถือเงินมาต้องการจะซื้อที่ดินบริษัทของเรา ไม่ขายให้ก็ทุบบริษัทผมเลย!"

มีเหงื่อซึมออกมาหน้าผากของจ้าวเทียนลู่ ความสัมพันธ์ระหว่างฉีเติ่งเสียนกับตระกูลหวงเขาเองก็รู้เป็นอย่างดี

ถ้าฉีเติ่งเสียนบอกเรื่องนี้กับหวงเหวินหลั่ง ตำแหน่งผู้บัญชาการนี้ของตนคงต้องสิ้นสุดลงเป็นแน่

จ้าวเทียนลู่รู้นิสัยของจ้าวเฉียงดี เป็นประเภทโอหังอวดดีและกำเริบเสิบสาน หลังจากเปิดบริษัท เขามักจะใช้อำนาจของตนเพื่อรังแกผู้ชายและเอาเปรียบผู้หญิง

"จ้าวเฉียง แกนี่มันสารเลว กล้าบังคับซื้อขาย? ไม่ใช่บอกว่าจะตั้งใจทำธุรกิจเหรอ?" จ้าวเทียนลู่เตะจ้าวเฉียงที่เพิ่งลุกขึ้นมาอีกครั้ง

เพิ่งได้รับการทุบตีอย่างโหดเหี้ยมจากฉีเติ่งเสียน ตอนนี้กลับถูกจ้าวเทียนลู่ทุบตีด้วยความรุนแรงอีก จ้าวเฉียงเริ่มมีความคิดอยากตายขึ้นมาแล้ว

ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เมื่อกี้พูดอะไรก็ตามหวังเป้าไป ต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งนี้ที่ไหนกัน?

ฉีเติ่งเสียนส่ายหน้าแล้วพูดว่า:"บริษัทถูกเขาทำลายกลายเป็นแบบนี้ จะต้องชดใช้ความเสียหาย"

"ตกลงกันได้ ๆ ห้าสิบล้านนี้ ถือเป็นค่าชดใช้บริษัทของคุณแล้วกัน!" จ้าวเทียนลู่ตัดสินใจแทนจ้าวเฉียง

สีหน้าของจ้าวเฉียงเปลี่ยนไปทันที ปากเต็มไปด้วยความขมขื่น ไม่ได้ประโยชน์อะไรแล้ว แถมยังต้องโดนทำร้ายอีกตั้งสองครั้ง และยังต้องชดใช้อีกห้าสิบล้าน?

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าแล้วพูดว่า:"แต่บริษัทของผมโดนทำลายไปแล้วนะ!"

จ้าวเทียนลู่ยิ้มเจื่อนแล้วพูดว่า:"คุณชายฉีคุณลองบอกแนวทาง?"

"คนที่ทำลายบริษัทของผมเมื่อกี้ ทุกคนห้ามขาดไปแม้แต่คนเดียว หักมือของตัวเองข้างหนึ่งแล้วไสหัวไปซะ เรื่องนี้ผมจะไม่สนใจอีกต่อไป!"

"ไม่เช่นั้นละก็ ผมคงต้องไปถามนายกหวงแล้ว ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการรักษาความปลอดภัยในจงไห่"

"บริษัทเพิ่งจะเปิดกิจการ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งมาทุบและปล้น"

ฉีเติ่งเสียนมองจ้าวเทียนลู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแต่ไม่ยิ้ม กวาดสายตามองพวกลูกน้องของจ้าวเฉียง แล้วพูดขึ้นด้วยความราบเรียบ

สีหน้าของจ้าวเทียนลู่อึมครึมขึ้นทันที แล้วถามจ้าวเฉียงว่า:"แกได้ลงมือด้วยไหม?"

"เปล่า ๆ............." จ้าวเฉียงรีบส่ายหน้า เขาแค่เอาบุหรี่จี้โซฟาจนเป็นรูเท่านั้นเอง การทุบทำลายบริษัทล้วนเป็นฝีมือลูกน้องของเขา

จ้าวเทียนลู่โล่งอก หลังจากนั้นก็หันไปออกคำสั่งกับลูกน้องของจ้าวเฉียงว่า:"คำพูดของคุณชายฉี พวกแกฟังเข้าใจแล้วยัง?"

"ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ หักมือของตัวเอง แล้วไสหัวไปซะ!"

"ไม่เช่นนั้นละก็ ไปสถานีตำรวจให้หมด จะขังพวกแกสักแปดปีสิบปี!"

จ้าวเทียนลู่รู้ดีว่าฉีเติ่งเสียนต้องหารใช้คนเหล่านี้สร้างบารมี ไม่อย่างนั้น ต่อไปจะมีคนมาหาเรื่องที่บริษัทไม่เว้นวัน เช่นนั้นธุรกิจจะได้ทำอีกไหม?

ลูกน้องของจ้าวเฉียงต่างสบตากัน แต่ละคนสีหน้าขาวซีด สุดท้ายมีคนไม่สามารถแบกรับภาระหนักไว้ได้ เริ่มหักแขนตัวเองด้วยใบหน้าร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า

"อ๊า................"

"อ๊า................"

"แกร็ก............"

เสียงกรีดร้องและเสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้ยินจนขนหัวลุก

จ้าวเทียนลู่สังเกตเห็นว่าใบหน้าของฉีเติ่งเสียนเริ่มสงบลง ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ยิ่งรู้สึกหวาดหลัวขึ้นในใจ ยิ่งมั่นใจว่าเขาเป็นคนที่ตนไม่คสรยุ่งด้วย!

"ไสหัวไปซะ!" จ้าวเทียนลู่ถอนหายใจด้วยความเย็นชา

ลูกน้องเหล่านี้ของจ้าวเฉียง รีบออกไปจากประตูของบริษัทเทียนไล่แคปปิตอลทันทีด้วยความตื่นตระหนก

จ้าวเฉียงถูกจ้าวเทียนลู่จับไว้ จับกดลงตรงหน้าของฉีเติ่งเสียน แล้วพูดด้วยความเยือกเย็นว่า:"ขอโทษคุณชายฉี!"

"คุณชายฉี ขอโทษครับ ผมมีตาหามีแววไม่ หาเรื่องผิดคน ได้โปรดให้โอกาสผมได้กลับตัวกลับใจด้วยครับ"จ้าวเฉียงร้องไห้อย่างขมขื่นแล้วพูดออกมา เขาในตอนนี้ก็เข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ว่าตนหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่อง

ฉีเติ่งเสียนเหลือบมองจ้าวเฉียง แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า:"ในเมื่อคุณยอมรับผิด อีกทั้งค่าชดใช้ก็จ่ายมาแล้ว งั้นก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ไปเถอะ"

จ้าวเฉียรรีบพูดขึ้นมาว่า:"ขอบคุณครับคุณชายฉี ขอบคุณครับคุณชายฉี"

หลังจากพูดจบ จ้าวเฉียงก็รีบวิ่งหนีด้วยความลนลานออกจากบริษัทเทียนไล่แคปปิตอล เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันทำให้เขาหดหู่โดยสิ้นเชิง

"พวกนาย ช่วยคุณชายฉีเก็บกวาด!" จ้าวเทียนลู่สั่งให้เจ้าหน้าที่สำรวจภายใต้ความดูแลของตน มาช่วยฉีเติ่งเสียนเก็บกวาดทำความสะอาดบริษัท

เพราะนี่เป็นสิ่งที่จ้าวเฉียงลูกชายของตนก่อเรื่องขึ้น เพื่อให้จบลงด้วยดี สิ่งที่ควรทำก็ต้องทำ

ผ่านไปครู่ใหญ่ จ้าวเทียนลู่ก็พาเจ้าหน้าที่สำรวจออกจากบริษัทเทียนไล่แคปปิตอล ตอนจากไป ในใจก็ยังคงหวาดผวาอยู่

ฉีเติ่งเสียนเรียกฝ่ายบีญชาของบริษัทมาแล้วกำชับว่า:"เก็บเงินห้สิบล้านนี้ไป แล้วเอาไปตกแต่งบริษัทใหม่อีกครั้ง"

"คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนี้ แบ่งให้ทุกคนคนละหนึ่งหมื่น เป็นค่าปลอบขวัญให้กับทุกคน"

"เงินที่เหลือเก็บไว้ในบัญชี เก็บไว้เป็นเงินหมุนในบริษัท"

ฉีเติ่งเสียนโบกมือใหญ่ แล้วเริ่มจ่ายเงิน

พนักงานได้ยินว่าจะได้เงินหนึ่งหมื่น ต่างพากันดีอกดีใจขึ้นมา พากันปรบมือ ยิ่งรู้สึกเชื่อถือในตัวฉีเติ่งเสียนมากขึ้น

ฝีมือการต่อสู้อุกอาจ แถมยังมีผู้สนับสนุนเบื้องหลัง สปอร์ตใจกว้าง เจ้านายแบบนี้ ใครบ้างไม่ชอบ?

ทุกคนรู้สึกว่าการทำงานที่เทียนไล่แคปปิตอล จะต้องมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน

หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนเปิดประชุมสั้น ๆ แล้ว จากนั้นก็พาหลี่อวิ๋นหว่านออกจากบริษัท

"วันนี้คุณน่าเกรงขามเกินไปไหม ฉันมองดูจนรู้สึกกระสับกระส่าย!" หลี่อวิ๋นหว่านพูดยิ้ม ๆ วันนี้เป็นการเปิดหูเปิดตาจริง ๆ

"เฉย ๆ คุณหยุดชมผมได้แล้ว ถึงชมผมก็ไม่แบ่งเงินให้คุณหรอกนะ" ฉีเติ่งเสียนโบกมือ แล้วพูดขึ้นด้วยความราบเรียบ

หลี่อวิ๋นหว่านเอื้อมมือไปหยิกเอวของเขาด้วยความโกรธ ถอนหายใจด้วยความเย็นชาแล้วพูดขึ้นว่า:"คนที่อีคิวต่ำอย่างคุณ ไม่ช้าก็เร็วต้องทำฉันโกรธตาย!"

กลับถึงหมู่บ้านคฤหาสน์อวิ๋นติ่ง มื้อค่ำหลี่อวิ๋นหว่านเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเอง กับข้าวสามอย่างและซุปอีกหนึ่งอย่าง แต่หน้าตาสวยงามกลิ่นหอมรสชาติอร่อย ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวคนนี้จะมีทักษะการทำอาหารได้ขนาดนี้

"คุณฉี คุณดูสินั่นใช่รถของประธานเซี่ยงรึเปล่า? !" ตอนที่ออกไปเดินเล่น หลี่อวิ๋นหว่านเห็นรถเบ้นซ์คันหนึ่งจอดอยู่บนถนนบนภูเขา อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

ฉีเติ่งเสียนหันไปมอง เป็นรถของเซี่ยงตงฉิงจริง ๆ เขาขมวดคิ้วขึ้นทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า:"เกิดเรื่องแล้ว!"

หลังจากพูดจบ เขาให้หลี่อวิ๋นหว่านรอเขาอยู่ตรงนี้ เดินขึ้นถนนบนเขาที่ขรุขระอย่างรวดเร็วด้วยตัวเอง ตรงไปบนยอดเขาอวิ๋นติ่ง

บนภูเขา หวังหู่ยืนเคียงข้างกับเซี่ยงตงฉิง เขายิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า:"ตงฉิง คุณยังไม่พร้อมตอบตกลงการจีบของผมอีกเหรอ?"

"ความอดทนของคน ๆ หนึ่ง จะดีสักแค่ไหน ก็ยังมีขีดจํากัดอยู่ดี!"

"หรือว่า คุณไม่รู้เหรอ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง