มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1303

ไม่นาน ฉีเติ่งเสียนก็ได้รับเงินที่หลิวต้าฟู่โอนเข้ามาแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่า เหรินซวนอยู่ในการควบคุมของเขามีประโยชน์ อย่างน้อยก็สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้

ฉีเติ่งเสียนคิดว่าตัวเองยังมีความสามารถ ให้เหรินซวนมีคนจ้องมอง สามารถรับประกันประสิทธิภาพในการทำงาน สองหลังจากที่เปิดโปงก็สามารถรับประกันความปลอดภัยได้

เหรินซวนเป็นกว้างขวางคอไหม เขาไม่สนใจ ที่สำคัญก็คือเพื่อสถานการณ์โดยรวม

ผู้ชายที่มีปณิธานยิ่งใหญ่อยู่ในใจ จะให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาทำให้เสียเวลาได้เหรอ?

เขาไม่ล่าช้า นำเงินโอนไปให้เหลยเจิ้นฉี ให้เขาเตรียมเรือสำราญขนาดใหญ่ที่หรูหราที่สุดไว้ให้เสร็จ

เหลยเจิ้นฉีคิดไม่ถึงว่าฉีเติ่งเสียนจะทำอย่างรวดเร็วขนาดนี้ รับปากเรื่องนี้ และจะมาพร้อมกับเรือสำราญลำเล็กอีกสองลำให้เขาใช้ฟรี

ฉีเติ่งเสียนใช้เงินคนอื่นก็ไม่รู้สึกเสียดาย แม้แต่ส่วนลดอะไรก็ขี้เกียจเอา ซื้อตามราคาเดิม

ถึงยังไงเขายังครอบครองหุ้นของเรือตระกูลเหลย ถึงเวลานั้น รายได้นี้รวมอยู่ในกำไรประจำปีของเรือตระกูลเหลย เขายังสามารถปันผลกำไร…

วิธีการหาเงินของพระอัครสังฆราชฉี ก็แพรวพราวแบบนี้ คนปกติเทียบกันไม่ติด

“แบบนี้ ตระกูลเหอก็ตกอยู่ในการควบคุมของคุณแล้ว แต่ว่า กาสิโนกลับยังคงก่อตั้งขึ้น คุณควบคุมตระกูลเหอ อย่างมากก็แค่ได้ครอบครองกาสิโนนี้ก็เท่านั้นเอง”สวีเอ้าเสวี่ยรอให้ฉีเติ่งเสียนเตรียมการทุกอย่างแล้ว ก็พูดเสียงเรียบเฉย พลางวิเคราะห์สถานการณ์

ฉีเติ่งเสียนก็พูด“เธอผิดแล้ว ฉันไม่ใช่ควบคุมตระกูลเหอ แต่ร่วมมือกับตระกูลเหอ ประคองคนที่สนับสนุนฉัน”

สวีเอ้าเสวี่ยก็พูดอย่างดูถูก“อย่าเสแสร้งทำท่าทางถูกต้องน่าเกรงขาม คุณในสายตาของฉัน เป็นคนต่อยต่ำที่ไร้ยางอาย”

ฉีเติ่งเสียนไม่สนใจคำพูดดูถูกของเธอ และพูดเสียงเรียบเฉย“ก็เหมือนกับเธอ ตอนเเรกก็ร่วมมือกับตระกูลจ้าว แต่เพราะว่าตัวเองพ่ายแพ้ สุดท้ายก็ถูกทุกคนบีบคั้นให้เป็นหมากตัวหนึ่ง จนกระทั่งให้เธอแต่งงานกับคนที่เธอไม่สามารถต่อต้านได้”

“ตอนนี้เธอมีกำลังแล้ว ทำให้ตระกูลจ้าวไม่พอใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ถึงเวลานั้นยังต้องผิดใจกัน”

“ทำไมเธอถึงเดินเส้นทางเก่า?ฉันให้ความไว้วางใจและอิสระกับตระกูลเหอ ให้เขาร่วมมือกับฉันอย่างสบายใจ ไม่ดีเหรอ?”

สวีเอ้าเสวี่ยคิดไม่ถึงว่าจะถูกหมอนี่พูดตำหนิกลับแบบนี้ ฉับพลันสีหน้าก็แย่มาก

ถึงยังไง เวลาที่ฉีเติ่งเสียนจัดการเธอด้วยอารมณ์ ก็สามารถจับประเด็นสำคัญได้ หลังจากนั้นก็พูดแทงใจดำ

ช่องว่างของเธอกับตระกูลจ้าว เป็นแบบนั้นจริงๆ ตระกูลจ้าวต้องการชื่อเสียงและผลประโยชน์มากเกินไป หลังจากที่เธอพ่ายแพ้ ก็บีบคั้นเธอทุกทางทันที

แต่สวีเอ้าเสวี่ยก็หยิ่งยโสเหลือเกิน?ต่อให้ถูกฉีเติ่งเสียนดูถูกเธอ เธอยังคงไม่เชื่อ ไม่ต้องพูดถึงตระกูลจ้าว

“ดังนั้น บางครั้งก็ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่านึกถึงแค่ผลประโยชน์ของตัวเอง”ฉีเติ่งเสียนก็พูด

“เหอะ…”สวีเอ้าเสวี่ยยิ้มเย็นชา

ฉีเติ่งเสียนก็คิดจะใช้ทัศนคติของตระกูลเหลยมาปฏิบัติต่อตระกูลเหอ และยิ่งไปยิ่งไปกว่านั้นเฮ่อตัวเหลียนอยากจะคำนับเขาเป็นอาจารย์ ถึงเวลานั้นมีอาจารย์และผู้ติดตาม ตระกูลเหอจะหักหลังก็ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน

“ขอให้พวกคุณมีความสุขในชีวิตคู่!”ช่างภาพหนุ่มยิ้มและพูด หลังจากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป

สวีเอ้าเสวี่ยได้สติกลับมา อยากจะพูดสั่งสอนช่างภาพหนุ่ม มีความสุขในชีวิตคู่? นี่กำลังสาปแช่งเธอไหม? ใครอยากมีชีวิตคู่ที่ดีกับผู้ชายเลวคนนี้!

ฉีเติ่งเสียนกลับขวางเธอไว้ พูดเสียงเรียบเฉย“ เขาเป็นแค่ช่างภาพที่รักการถ่ายภาพ เห็นว่าพวกเราสาวสวยหนุ่มหล่อที่เหมาะสมกัน จึงถ่ายรูปให้พวกเรา เธอไม่จำเป็นต้องโจมตีเขาเถอะ?”

สวีเอ้าเสวี่ยสีหน้าเย็นชาไม่พูดจา จะไม่พูดก็ไม่ได้ ถึงแม้ว่าช่างภาพคนนี้จะอายุน้อย แต่ถ่ายออกมาได้สวยมาก เลือกมุมได้อย่างไรที่ติ เรียกได้ว่าเป็นภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยม

“ถือว่าเป็นความเข้าใจที่สวยงามเถอะ ไม่แน่อาจจะกลายเป็นความทรงจำที่สวยงามของเธอ”ฉีเติ่งเสียนยิ้มพลางพูด มองดูรูปถ่ายในมือของสวีเอ้าเสวี่ย

“ฉันเกรงว่าคุณจะไม่เข้าใจคำว่าสวยงาม!”สวีเอ้าเสวี่ยพูดด้วยความโกรธ แต่สุดท้ายก็นำรูปถือไว้ในมือ ไม่ได้โยนทิ้ง

“และ ความสวยฉันยอมรับ แต่หนุ่มหล่อ เหอะ…”

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะถูกเธอทำให้โกรธ คุณสามารถตั้งคำถามกับรสนิยมของฉัน แต่ไม่สามารถสงสัยในความหล่อของฉัน

ใบหน้านี้ ใบหน้าหล่อเหลาที่มีเสน่ห์เหมือนหมาป่า เขาแทบจะอุทานออกมาว่า“หล่อจริงๆ!”

“กลับไปขยายรูปฉันให้ใหญ่ ติดภาพวาด และเขียนว่า สาวสวยกับสุนัข คุณคิดว่าเป็นยังไงบ้าง?”สวีเอ้าเสวี่ยพูดถาม

ฉีเติ่งเสียนพูดสบถด้วยความโกรธ เพิ่งอยากจะพูดอะไร กลับได้รับสายโทรศัพท์ของอวี้เสี่ยวหลงโทรเข้ามา