ทหารพลร่มของแก๊งบิ๊กเซอร์เคิลมาถึงอู่ต่อเรือร้างตามที่นัดกันไว้แล้ว ฟู่จี้หมิงก็มาดูด้วย อยากที่จะเห็นด้วยตาตัวเองว่าทหารพลร่มของเขาจะฆ่าผู้ที่ถูกขนานนามว่าเทพศิลปะการต่อสู้อย่างไร
วันนี้จิ่วเหิงเข้าห้องไปนอนตั้งแต่หัวค่ำ โดยไม่สนใจที่จะมาด้วยซ้ำ เพราะเขารู้ว่าทหารพลร่มเหล่านี้จะถูกเจ้าคนชั่วร้ายหลอกจนตายอย่างแน่นอน
ตอนนี้เมื่อมองย้อนกลับไป น่าจะหยิบคัมภีร์ของพระพุทธศาสนามาท่องสักสองสามประโยค เพื่อปลอบประโลมจิตวิญญาณของผู้ที่ถูกเจ้าคนชั่วร้ายสังหาร
เมื่อใกล้ถึงเวลาฉีเติ่งเสียนก็เดินเข้าไปในอู่ต่อเรือร้างอย่างสงบ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาถูกจับตาโดยทหารพลร่มที่อยู่โดยรอบทันที
หลังจากรายงานผ่านวิทยุเรียบร้อย ฟู่จี้หมิงก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับหัวเราะว่า “ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ฉันคิดว่าแกจะกลัวจนหัวหดเสียอีก!”
ผู้กองของทหารพลร่มกล่าว “มาได้จังหวะพอดี จะได้เอาหัวของเขามาสังเวยให้แก่แก๊งบิ๊กเซอร์เคิลของเรา!วันนี้เราจะไม่ออมมือให้อย่างเด็ดขาด”
หน่วยสอดแนมด้านนอกเพิ่งจะรายงานเสร็จ เมื่อกำลังปิดวิทยุมีร่างหนึ่งเข้ามาแตะด้านหลังอย่างเงียบๆ กระบี่ที่คมกริบวาดผ่านลำคอ ตัดหลอดเลือดแดงโดยตรง
“หัวหน้า คนเหล่านี้ต่างพกพาอาวุธกันจริงๆ ยุทโธปกรณ์มีทั้งปืนไรเฟิล m4a1 ของประเทศมี่ และปืน glock-19 จากประเทศออสเตรีย” คนผู้นี้พูดหลังจากที่ได้ปาดคอทหารพลร่มไปเรียบร้อยแล้ว
“ฉันได้กำจัดสไนเปอร์ไปเรียบร้อย ยุทโธปกรณ์ของเขามีปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ mk11……ที่นายพลจัตวาฉีกล่าวไว้ไม่เกินจริงเลย พวกคนเหล่านี้ต่างพกอาวุธสงครามมากันทั้งนั้น” มีเสียงอีกเสียงหนึ่งตอบกลับมา
อวี้เสี่ยวหลงได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างสงบว่า “อืม ทำตามแผนที่คุยกันไว้ รอได้โอกาสแล้วค่อยลงมือ”
แม้ว่าทหารพลร่มของแก๊งบิ๊กเซอร์เคิลจะเก่งกาจ แต่เมื่อเอามาเปรียบกับทหารอาชีพที่ผ่านการฝึกของลู่จ้านหลงและอวี้เสี่ยวหลงมาแล้วนั้น ยังคงห่างชั้นกันมาก
ดังนั้นหลังจากที่ฉีเติ่งเสียนมาถึงอู่ต่อเรือร้างไม่นาน เหล่าคนที่แอบสอดแนมอยู่นั้น ต่างก็ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบจนหมดแล้ว
ฉีเติ่งเสียนเดินส่ายอาดๆเข้ามาในอู่ต่อเรือร้าง จากนั้นก็เห็นคนของแก๊งบิ๊กเซอร์เคิลกลุ่มใหญ่พร้อมอาวุธจำนวนมาก เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มน้อยๆ ถ้าคนเหล่านี้จะมาจัดการกับเขาทีละคนด้วยมีดนั้น เขาคงจะขำออกมาแน่!
แน่นอน เขาก็แค่คิดเล่นๆ ที่แก๊งบิ๊กเซอร์เคิลนั้นมีชื่อเสียงด้านการรบนั้นก็เพราะใช้ทหารพลร่มเข้ามาเปิดฉากยิงแล้วถอนกำลังออกไปอย่างรวดเร็ว
ฟู่จี้หมิงกำลังควงมีดพับอยู่บนนิ้วของเขา หลังจากที่ได้เห็นฉีเติ่งเสียนเข้ามาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วกล่าวว่า “มาแค่คนเดียวหรือ?”
ฉีเติ่งเสียนพูด “กองทัพของฉันล้วนมาถึงแล้ว จะพูดได้อย่างไรว่าฉันมาที่นี่แค่คนเดียว?”
“หยุดพูดโอ้อวดเกินจริงเถอะ!แต่เห็นแก่ที่แกมาแค่คนเดียวนั้น ฉันขอคารวะแกในฐานะลูกผู้ชาย แล้วจะละเว้นให้แกได้ตายอย่างครบสามสิบสอง” ฟู่จี้หมิงได้ควงมีดพับอีกสองสามครั้งจากนั้นเก็บไว้ในมือ
ผู้กองของทหารพลร่มหัวเราะแล้วกล่าว “ในเมื่อแกมาคนเดียว นับว่าแกเก่งกาจยิ่งกว่าราชาสวรรค์เล่าจื้อเสียอีก แต่วันนี้แกต้องตายอยู่ที่นี่!พวกเราลงมือ”
ไม่ทันได้ยินเสียงปืน ฉีเติ่งเสียนก็เคลื่อนตัวไปหาที่กำบังหลบวิถีกระสุนก่อนแล้ว
พอเสียงปืนดังขึ้น ทหารพลร่มของแก๊งบิ๊กเซอร์เคิลก็เคลื่อนตัวเข้ามาโอบล้อม ปืนแต่ละกระบอกเคลื่อนหามุมยิง เพื่อที่จะจัดการฉีเติ่งเสียน
ฟู่จี้หมิงหัวเราะเยาะซ้ำแล้วซ้ำอีก รู้สึกว่าชายผู้นี้ต้องสมองกลับไปแล้วแน่ๆ เขาคิดว่าถ้าฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ในระดับสูงแล้ว จะอยู่ยงคงกระพันไม่กลัวมีดกลัวปืน? ปืนจำนวนมากขนาดนี้ แม้แต่จางซานเฟิงหรือปรมาจารย์ตั๊กม้อฟื้นคืนชีพกลับมา ก็ยังจะถูกขยี้เป็นชิ้นๆ!
สถานการณ์ดังกล่าวนั้นอันตรายต่อฉีเติ่งเสียนเป็นอย่างมาก แต่โชคดีที่ลักษณะภายในอู่ต่อเรือร้างนั้นค่อนข้างซับซ้อนและมีซากปรักหักพังมากมาย แม้ว่าเขาจะถูกล้อม แต่เขาก็ยังมีพื้นที่สำหรับหลบซ่อน
“ฮ่า ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่แล้ว ฝั่งของเรายังเหลือปืนอีกเป็นร้อยกระบอกที่ยังไม่ได้ยิง!” ผู้กองพูดกับฟู่จี้หมิงอย่างผ่อนคลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...