หลังจากได้ข้อมูลมาอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว หลี่อวิ๋นหว่านก็ได้สรุปและประมวลผลข้อมูล และค่อยๆรายงานให้กับฉีเติ่งเสียนทันที
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนได้ฟังดังนั้น ก็ตอบกลับด้วยความพึงพอใจ "คิดไม่ถึงเลยว่าเจสันต์ชายชาวอเมริกันคนนี้จะทำสำเร็จได้ดีขนาดนี้ เขารู้วิธีที่จะเข้าใจจิตใจของผู้คนได้อย่างชัดเจน!"
หลี่อวิ๋นหว่านกล่าว "กองทุนสำรองของฮิลด์มีประมาณห้าพันล้าน และเป็นดอลลาร์ด้วย คุณว่าควรจะจัดการยังไง"
ทันใดนั้นฉีเติ่งเสียนก็ตะโกนออกมาเสียงดัง "ทุกคนลุกขึ้น! ทุกคนลุกขึ้น!"
หลี่อวิ๋นหว่านมองมาที่เขาราวกับสัตว์ประหลาด
“ถ้าผมเปลี่ยนตัวตนของผมกับสมเด็จพระสันตะปาปาได้ ไพ่ในมือของผมจะสามารถชนะได้อย่างขาดลอยชนะ แต่น่าเสียดายที่มันเปลี่ยนไม่ได้...”
"ฮิลด์เดินทางมาที่จิงเต่าเพียงลำพัง โง่จริงๆ..."
หลี่อวิ๋นหว่านผายมือออกมาอย่างหมดคำที่จะพูด รู้สึกว่าอาการป่วยของฉีเติ่งเสียนจะกลับมาเป็นซ้ำอีกแล้ว
“การลงมือในครั้งนี้ก็เพียงพอสำหรับที่ผมจะชำระหนี้ทั้งหมดแล้ว ถึงตอนนั้นผมจะไม่มีหนี้และไม่ต้องทำงานหนักเพื่อใช้หนี้อีก” ฉีเติ่งเสียนสงบลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ค่อยๆปรากฏขึ้น
“แต่ว่า การทำแบบนี้มันจะโอเคจริงๆเหรอ? ถ้าเกิดว่ามีอะไรผิดพลาด คนที่จะต้องตายมันจะกลายเป็นคุณนะ!” หลี่อวิ๋นหว่านกลอกตามองบน
ฉีเติ่งเสียนเอื้อมมือไปโอบหลี่อวิ๋นหว่านผู้ที่นำโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้มาให้กับเขาพร้อมกับกล่าวขึ้น "ยังไงผมก็ทำได้!"
และเมื่อนึกขึ้นได้ ฉีเติ่งเสียนก็โทรหาอวี้เสี่ยวหลงทันที
“ว่ายังไง?” อวี้เสี่ยวหลงรู้ได้ทันทีว่าฉีเติ่งเสียนต้องการที่จะทำอะไร เธอจึงถามออกไปตรงๆ
“วันนี้ทำตามแผนเดิมแล้วกัน แล้วก็ไปหามาร่วมมือกับคุณ” ฉีเติ่งเสียนกล่าวอย่างจริงจัง
อวี้เสี่ยวหลงไม่ได้พูดต่อความใดๆ ทำเพียงแค่ตอบรับกลับไป "โอเค งั้นก็ตามนั้นแหละ!"
หลังจากที่พูดจบ เธอก็วางสายไปทันที เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากคุยกับฉีเติ่งเสียนผู้น่าเกลียดมากเท่าไหร่นัก
เมื่อถึงตอนเย็น อวี้เสี่ยวหลงก็ได้ไปหาลูกน้องเพื่อที่จะมาตระเตรียมแผนของฉีเติ่งเสียน
“ว้าว ท่านแม่ทัพอวี้ ทำแบบนี้จะดีจริงเหรอ ผมคิดว่ามันเสี่ยงเกินไปนะ ยังไงเขาก็เป็นถึงนายน้อยของตระกูลรอธไชลด์เชียวนะ” ลูกน้องอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาตามตรง
“มีนายน้อยคนหนึ่งจากตระกูลรอธไชลด์ตามด้วยน้ำมือของเขาแล้ว” อวี้เสี่ยวหลงตอบอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกไป
ลูกน้องที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่ามันก็จริงจึงพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า "โอเค งั้นพวกเราจะทำให้ดีที่สุดกัน แต่ว่าการแสดงนี้มันก็คงต้องลงมือจริงๆ ผมกลัวว่าตัวเองจะโดนฆ่าขึ้นมาจริงๆเนี่ยสิ!”
อวี้เสี่ยวหลงกล่าว "เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลไปหรอก ในเมื่อเขาให้เราทำแบบนี้ ก็คงจะต้องคิดมาแล้วแหละ"
ลูกน้องตอบกลับ "ผมเกรงว่าเขาไม่มีจรรยาบรรณการต่อสู้ และเพื่อให้การแสดงนี้สมจริงยิ่งขึ้น เขาจะตีผมจนตายที่นั่น แล้วเอาร่างของผมไปแสดงต่อสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ยสิ..."
หลังจากที่ได้เช่นนั้น อวี้เสี่ยวหลงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเขาคิดว่าชายที่น่าเกลียดอย่างฉีเติ่งเสียนจะสามารถทำอย่างนั้นได้จริงๆ! ลูกน้องคนนี้เองก็ไม่ใช่คนดีอะไร
ในขณะเดียวกัน ฉีเติ่งเสียนก็ให้หมาป่าโลภ เชิญพี่หลานมาที่บ้านของเขาในฐานะแขก เขาไม่รีบร้อนที่จะพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจที่จริงจัง เขาทำเพียงแค่ชวนทานอาหารง่ายๆและดื่มไวน์ด้วยกันสักหน่อย .
นอกจากนั้นยังเรียกคนหนุ่มสาวอย่างอาปิน เหลยเสวี่ยเจียว จี้ข่าย เฮ่อตั่วเหลียน และคนอื่น ๆ มาร่ามด้วย เต็มทั้งโต๊ะขนาดใหญ่ในห้องเพื่อมากินดื่มและสนุกสนานด้วยกัน
หวงฉีปินเห็นฉีเติ่งเสียนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหลัก โดยมีหลี่อวิ๋นหว่านนั่งอยู่ทางซ้ายมือและหยางกวนกวนนั่งอยู่ทางขวามือ เขาก็รู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาทันที!
มีสิทธิอะไรกัน !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...