มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1350

แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนจะไม่อธิบายเรื่องราวภายในให้ฉีหยุนเฟิงกับสวีเอ้าเสวี่ยฟังแน่นอน โดยเฉพาะสวีเอ้าเสวี่ย หากเธอลอบโจมตีด้วยการเผยแพร่ข่าวนี้ออกไปศาสนาศักดิ์สิทธิ์รู้ละก็ พระอัครสังฆราชฉีจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง?

เมื่อเห็นสีหน้า "นายมันขี้โม้" และ "ฉันก็ทำได้เหมือนกัน" ของฉีหยุนเฟิงแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

"สรุปก็คือไม่ต้องกังวลเรื่องที่ผมจะเสียคฑาพระอัครสังฆราชหรือเปล่า ผมคิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาอะไร" ฉีเติ่งเสียนพูด

ฉีหยุนเฟิงได้ยินฉีเติ่งเสียนพูดแบบนี้ก็ยักไหล่ ไม่คิดจะถามอะไรอีก

ฉีเติ่งเสียนหันมายิ้มหน้าบานให้สวีเอ้าเสวี่ย "คนรักเก่าอย่างคุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงผมมากนักหรอก ไม่ต้องไปแอบสืบด้วย อยากรู้อะไรก็ถามผมตรงๆได้เลย เดี๋ยวผมบอกเอง!"

-สวีเอ้าเสวี่ยหยิบขวดน้ำแร่ขึ้นแล้วชี้ไปที่หน้าฉีเติ่งเสียน ก่อนจะออกแรงบีบจนน้ำในขวดพุ่งใส่หน้าฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนที่ตอบสนองไวอยู่แล้วก็หมุนตัวหลบได้ทัน พริบตาเดียวก็ไปยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งแล้ว

"ไม่เห็นต้องทำกันแบบนี้เลย" ฉีเติ่งเสียนบ่นอุบอย่างน้อยใจ

สวีเอ้าเสวี่ยพูดพลางยิ้มเย็น "ทางที่ดีอย่าทำตัวปากไม่มีหูรูดจะดีกว่านะ ไม่งั้นรอบหน้าฉันอาจจะยัดกระสุนปืนลูกซองใส่ปากนายแทน!"

ฉีหยุนเฟิงเห็นทั้งสองคนแล้วก็รู้สึกจนใจ รู้สึกอยากเดินหนีไปจากตรงนี้ แล้วปล่อยให้ทั้งสองคนตีกันให้เต็มที่

ฉีเติ่งเสียนนั่งลงพลางพูด "เข้าเรื่องกันต่อเถอะ ผมอยากให้ตระกูลฉีแสดงจุดยืนและสนับสนุนการเข้ารับตำแหน่งของเฮ่อตั่วเหลียนอย่างเต็มที่ในวันพรุ่งนี้ รู้สึกว่าช่วงนี้ตระกูลฉีจะควบคุมอำนาจของครอบครัวสายสามไว้ได้ไม่น้อยแล้วใช่ไหม?"

ฉีหยุนเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย "ใช่ พวกเราควบคุมครอบครัวสายสามไว้ในกำมือเรียบร้อยแล้ว แต่จะให้สนับสนุนเฮ่อตั่วเหลียนเต็มที่ ผมคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะสม!"

"ไม่เหมาะสมตรงไหน?" ฉีเติ่งเสียนถาม

"ทำแบบนี้ก็เท่ากับเทหมดเปลือก เราก็จะเป็นไส้ศึกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ตระกูลฉีของพวกเราจะแทรกแซงเข้าไปในคาสิโนไม่ได้อีก และตระกูลจ้าวก็จะเข้ามาควบคุมอย่างเต็มรูปแบบ ปัญหาใหญ่ชัดๆ!" ฉีหยุนเฟิงพูด

แต่ฉีเติ่งเสียนกลับส่ายหน้า "ไม่หรอกน่า เชื่อผมเถอะ!"

"ครั้งนี้คุณเย่อหยิ่งเกินไป ยังจำจิมมี่ที่โดนคุณซัดกระโหลกแตกไปนั่นได้ไหม? ตอนนี้คนของตระกูลเขามาจิงเต่าแล้ว แถมยังสนับสนุนตระกูลเย่! พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากตระกูลรอธไชล์ดแบบนี้ นายเอาชนะไม่ได้ง่ายๆหรอก" ฉีหยุนเฟิงถอนหายใจพลางว่า

"ดังนั้น ความหมายของผมก็คือให้เราแทรกแซงต่อไป ไม่สำคัญหรอกว่าอำนาจของตระกูลเฮ่อจะเป็นของตระกูลจ้าวหรือเปล่า ขอแค่ตระกูลฉีควบคุมครอบครัวสายสามได้ คุณควบคุมครอบครัวสายรองได้ ตระกูลจ้าวก็ใช้อำนาจจากตระกูลเฮ่อไม่ได้หรอก"

"อีกอย่าง ตระกูลฉีไม่มีทางเปิดเผยเรื่องนี้แน่ สามารถให้ครอบครัวสายสามเข้าร่วมคาสิโนได้ มีตระกูลฉีคอยจัดการอยู่ลับๆ ตระกูลจ้าวจะทำอะไรได้......"

สวีเอ้าเสวี่ยได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มหยัน คนตระกูลฉีเป็นพวกจิตใจล้ำลึกเหมือนกันหมดจริงๆ!

ตระกูลใหญ่แบบนี้แถมยังไม่กลัวอำนาจตระกูลจ้าว แทนที่จะคิดแผนเล่นงานตระกูลจ้าวทีละขั้นๆ แต่กลับคิดว่าจะเป็นไส้ศึกแล้วไปหลอกคนอื่นยังไง

ถ้าเธอมีครอบครัวแบบนี้ เกรงว่าคงไม่ต้องทำงานทำการอะไรกันแล้ว เจอพวกชอบแทงข้างหลังพวกนี้ ต้องได้หัวใจวายตายไม่ช้าก็เร็วแน่ๆ

"คนที่มาจากตระกูลรอธไชล์ดไม่ใช่เขาที่เป็นคนจัดการแน่ ยังไงการตายของเจมี่ก็เกี่ยวข้องกับเขา พวกตระกูลกลุ่มธุรกิจไม่มีทางประนีประนอมกับเขาแน่ ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายยังส่งเสริมให้ดำเนินการตามข้อกล่าวหาการก่อการร้าย......" สวีเอ้าเสวี่ยคิดในใจ

แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดเรื่องที่ฉีเติ่งเสียนจะเสียคทาไป บวกกับทัศนคติไร้ยางอายของฉีเติ่งเสียน จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้ว

เธอค่อนข้างเข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้สมาคมหัวเมิ่นแห่งหนานหยางก็สร้างปัญหาไว้ไม่น้อย ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อช่วยเป่ยบูฉีออกมาจากเทียนจู่กั๋ว......

"หรือว่าไอ้หมอนี่จะหาเรื่องใส่ร้ายฮิลเด้?!" พอคิดมาถึงตรงนี้ สวีเอ้าเสวี่ยก็ตกใจ

ฉีหยุนเฟิงเองก็ตกอยู่ในภวังค์ เดิมทีเขาก็ไม่อยากถูกเปิดเผยอยู่แล้ว แต่ในเมื่อฉีเต่งเสียนมั่นใจมากขนาดนี้ งั้นจะลองสู้กับตระกูลจ้าวดูก็ไม่น่าเสียหายอะไรนี่?

หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉีหยุนเฟิงก็พูด "งั้นก็ทำตามที่คุณพูดแล้วกัน แต่เราไม่สามารถเสียตำแหน่งนี้ในจิงเต่าได้ ไม่อย่างนั้นถ้าตระกูลจ้าวได้เงินมากมายขนาดนี้ไป พวกเราจะเดือดร้อนแทน......"

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า "วางใจเถอะ ผมทำได้"

ฉีหยุนเฟิงถอนหายใจ

"ถอนหายใจทำไม?" ฉีเติ่งเสียนถาม

"ต่อไปก็เป็นไส้ศึกไม่ได้แล้วน่ะสิ!" ฉีหยุนเฟิงท่าทางหมดอาลัยตายอยาก

ขนาดฉีเติ่งเสียนที่เป็นพวกชอบแทงข้างหลังเหมือนกันยังมองเขาอย่างตะลึง สวีเอ้าเสวี่ยเองก็ไม่ต่างกัน