แต่ทว่า เหลือน้ำมนต์แค่เพียงสองเท่านั้น แต่ก็ถือว่ายังดีกว่าไม่ได้เลยสักหลอดเดียว!
เมื่อสักครู่สมเด็จพระสันตะปาปาเกือบจะเก็บน้ำมนต์ได้สามหลอด ดีที่อาจารย์จางเทียนรับรู้ถึงความคิดของฉีเติ่งเสียน ไม่งั้นคงจะขาดทุนย่อยยับเป็นแน่
ร็อบเบนได้นำพิกัดที่อาจารย์จางเทียนเขียนไว้บนพื้นมาทำการคัดลอก จากนั้นจึงกล่าวขึ้น "ฝ่าบาท เกล้ากระหม่อมจะไปตามหาวัตถุอันศักดิ์สิทธิ์มาให้ได้!"
แต่สมเด็จพระสันตะปาปากลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “นี่ถือเป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงนัก ฉันจะต้องไปตามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยตัวเองว่าสรุปแล้วไปตกหล่นอยู่ที่ไหนกันแน่”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็มองไปที่ฉีเติ่งเสียนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
คทานั้นโดนพวกคนนอกรีตขโมยไป แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขากัน?
ร็อบเบนใช้แท็บเล็ตล็อคพิกัดนั้นอย่างรวดเร็ว และนั่นทำให้เขาต้องตลกตะลึงไปและพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก "น...นี่... พิกัดนี้มันคือของธนาคารดอกไม้นี่นา!"
สมเด็จพระสันตะปาปาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วทันทีหลังจากฟังจบ จากนั้นจึงตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มเย็นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า "ในช่วงนี้ส่วนมากมีการปิดล้อมที่แน่นหนาและเข้มงวดเป็นอย่างมาก พวกคนนอกรีตก็คงไม่กล้าที่จะเคลื่อนย้ายคทาออกไป เลยอาจจะเป็นเหตุผลที่พวกนั้นต้องซ่อนมันไว้ที่ธนาคารก่อน"
ร็อบเบนเห็นด้วย เขาคิดว่าสิ่งที่สมเด็จพระสันตะปาปากล่าวนั้นค่อนข้างสมเหตุสมผล ด้วยความที่คทานั้นหายไป จึงทำให้แต่ละฝ่ายล้วนตื่นตัวขึ้นมา ซึ่งมันก็จะยิ่งทำให้พวกคนนอกรีตที่ขโมยคทาไปรู้สึกหวาดระแวงได้มากขึ้น
จากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาจึงได้นำทางและพาเหล่านักบุญไปที่ธนาคารดอกไม้
ธนาคารดอกไม้เป็นธนาคารที่ร่วมทุนกับต่างชาติ ซึ่งประธานของธนาคารนี้ก็เป็นชาวต่างชาติเช่นกัน และเมื่อทราบว่าสมเด็จพระสันตะปาปามาที่ธนาคารด้วยตนเอง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ
“ฝ่าบาท ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด มีสิ่งใดที่เกล้ากระหม่อมจะสามารถช่วยท่านได้บ้างหรือไม่” ท่านประธานเอ่ยถามอย่างสุภาพอย่างกล้าๆกลัวๆ
“คุณชื่ออะไร” สมเด็จพระสันตะปาปาเอ่ยถามเสียงเรียบ
“เรียนฝ่าบาทที่เคารพ โปรดเรียกเกล้ากระหม่อมว่าริคกี้” ท่านประธานตอบด้วยความเคารพและนอบน้อม
สมเด็จพระสันตะปาปาพยักหน้าอย่างรับรู้พร้อมกับเอ่ยต่อ "ประธานริคกี้ คุณคงจะทราบอยู่แล้วว่าเพราะเหตุใดฉันถึงมาปรากฏตัวที่จิงเต่า! และเป้าหมายในการมาที่ธนาคารของคุณก็คงจะชัดเจนมากเช่นกัน ซึ่งก็คือการตามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่หายไป"
เมื่อได้ยินดังนั้น ริกกี้ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบตอบกลับทันที "วัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่สูญหายไปของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ ฝ่าบาทคาดว่าถูกนำมาซ่อนไว้ในธนาคารของกล่าวกระหม่อมหรือ"
สมเด็จพระสันตะปาปาตอบกลับ “ก็มีความเป็นไปได้ ถ้าไม่งั้นฉันคงไม่มาถึงที่นี่ด้วยตนเองหรอก วัตถุศักดิ์สิทธิ์นี้อาจถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยของธนาคารของคุณ โปรดพาฉันเข้าไปค้นหาสักหน่อยได้หรือไม่”
ริคกี้ไม่กล้าที่จะตอบกลับไป ถึงแม้ว่าตัวเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่เชื่อในศาสนาศักดิ์สิทธิ์ความศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก แต่เรื่องนี้นั้นเกี่ยวกับหน้าที่การงานของเขาโดยตรงเลยนี่สิ
ห้องนิรภัยของธนาคารนั้น จะมีแค่เฉพาะคนที่เป็นVIPเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าไปได้ ถ้าเขาพาคนของสมเด็จพระสันตะปาปาเข้าไป เขาคงจะต้องโดนจัดการอย่างทารุณเป็นแน่
และยังไงเสียนี่ก็เป็นธนาคาร ทรัพย์สินส่วนตัวของลูกค้านั้นจะต้องได้รับความคุ้มครองเป็นอย่างดี ถ้าหากลูกค้ารู้ว่ามีคนเดินเข้าออกห้องนิรภัยอย่างตามอำเภอใจ จะยังมีลูกค้าไว้ใจและเลือกธนาคารของพวกเขาอีกหรือ?
และเรื่องที่สมเด็จพระสันตะปาปามาที่ธนาคารดอกไม้ด้วยตัวเองนั้นยังทำให้ผู้คนไม่น้อยต่างรู้สึกตกใจ อีกทั้งยังดึงดูดความสนใจจากผู้คนไม่น้อยเลย ซึ่งต่างคนต่างก็อยากที่จะรู้เกี่ยวเรื่องที่เกิดขึ้นกันทั้งนั้น ว่าวันนี้จะสามารถเจรจากันได้ลงตัวหรือไม่ และสุดท้ายคำตอบจะออกมาเป็นเช่นไร
“ว่ายังไง นี่ทำให้คุณลำบากใจขนาดนั้นเลยหรือไง ประธานริคกี้!” สายตาของสมเด็จพระสันตะปาปาที่มองไปที่ประธานริคกี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เรื่องนี้เกล้ากระหม่อมคงต้องหารือกับผู้ใหญ่เสียก่อน เพราะสถานที่ที่ฝ่าบาทต้องการจะเข้าไปเป็นห้องนิรภัย” ริคกี้ที่ตอนนี้มีเหงื่อไหลอาบเต็มใบหน้า ตอบกลับไปด้วยความร้อนรน
และแน่นอนว่าสมเด็จพระสันตะปาปาก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจอีก เพียงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ "ถ้างั้นคุณก็ไปหารือมาอย่างเร็วที่สุด!"
ในขณะที่ริคกี้กำลังจะต่อสายหาฮิลด์ เขาก็กลับปรากฏตัวขึ้นมาพอดิบพอดี และโบกมือให้ริคกี้พร้อมกับเอ่ยขึ้น "ไม่ต้องหารือหรอก ผมอยู่นี่แล้ว!"
“ท่านฮิลด์!” ริคกี้โค้งคำนับให้กับฮิลด์ทันทีที่เห็นเขา
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าธนาคารดอกไม้เป็นธุรกิจที่ตระกูลรอธไชล์ดร่วมลงทุน ซึ่งแน่นอนว่าฮิลด์ที่คนในตระกูลโดยตรง จึงทำให้เขามีสิทธิ์มีเสียงในธนาคารแห่งนี้เป็นอย่างมาก
ฮิลด์แสดงความเคารพต่อสมเด็จพระสันตะปาปาตามมารยาทเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม "ฝ่าบาทที่เคารพ เกล้ากระหม่อมอยากรู้ว่าใครบอกท่านกัน ว่าวัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์จะมาอยู่ในห้องนิรภัยของธนาคารดอกไม้ของเรา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...