หลินถิงปู้เป็นคนอวดดี
บนโลกนี้คนอวดดีล้วนมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน
โดยเฉพาะคนจำพวกประเภทที่มีอำนาจอยู่ในมือยิ่งอวดดี
ดังนั้นหลินถิงปู้จึงตาย
ฉีเติ่งเสียนทุบตีเขาจนตายไม่ต่างอะไรกับฆ่าไก่ตัวหนึ่ง ใช้เพียงมือเดียวก็หักคอเขาจนหัก
การมีชีวิตอยู่ของคนบางคนคือ ภัยพิบัติอย่างหนึ่ง
แต่การตายไปของคนบางคนกลับสร้างเสียงกรีดร้องอันน่าสะเทือนใจไปถึงจิตวิญญาณ
——คุณยินยอมที่จะเป็นคนขี้ขลาดไปตลอดชีวิตหรือจะเป็นวีรบุรุษผู้กล้าเพียงชั่วครู่? เพียงเสียงกรีดร้องจากจิตวิญญาณหากสามารถปลุกคนเหล่านี้ได้แม้เพียงไม่กี่คนก็เพียงพอแล้ว
หลังฉีเติ่งเสียนฆ่าของหลินถิงปู้ ความคิดของเขาก็ล่องลอยไปไกล ตอนนี้ก็เหลือเพียงจ้าวถูหลงเท่านั้นที่รอให้เขาจัดการ
“อะแฮ่ม ฉันว่าอาจารย์น้อยฉี คุณมายืนเหม่ออะไรตรงนี้? ” จิ่วเฮิงถาม
ฉีเติ่งเสียนตัดศีรษะของหลินถิงปู้แล้วเพียงแค่ห่อมันง่ายๆ เพียงยิ้มแล้วพูดว่า : “คิดอะไรไร้สาระน่ะ พูดไปก็ไร้ประโยชน์”
เขากับจิ่วเฮิงมาเพื่อสังหารหลินถิงปู้ จึงเพียงจัดการคนที่คิดขัดขวางแต่ไม่ได้หมายเอาชีวิต
หลังจากจัดการคนบงการเสร็จ ทั้งสองก็จากไปอย่างสง่างาม
ฉีเติ่งเสียนพูดกับจิ่วเฮิงว่า : “เป็นดังคาด มนุษย์นั้นยังต้องการศิลปะการต่อสู้เป็นดังอาวุธ อาวุธของฉันและนาย.......ดังนั้นเมื่อเราเจอเข้ากับสถานการณ์กดดันยังสามารถใช้เท้าหมัดต่อสู้กลับไปได้”
“เมื่อมีอาวุธที่สามารถรับประกันความปลอดภัยของตัวเองได้ ถึงทำให้ตัวเองไม่ต้องถูกไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่งั้นละก็ แม้ไปเพียงหาหมอ ซื้อยา ยังต้องคุกเข่าขอร้องอ้อนวอน ศักดิ์ศรีอยู่ที่ใด!” จิ่วเฮิงตอบกลับ
ทั้งสองคนกลับถึงโรงฝึกอย่างรวดเร็ว ฉีเติ่งเสียนโยนห่อผ้าเปื้อนเลือดออกไป แล้วพูด : “เอาไปแจ้งแก่
ครอบครัวของผู้ตายให้รับทราบ จะได้ให้ผู้ตายได้จากไปอย่างสงบ”
หลินถิงปู้ผู้อวดดีเกินใครในวันนั้น วันนี้กลับปรากฏเพียงศีรษะเท่านั้น ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตกใจ
เรื่องที่ฉีเติ่งเสียนและจิ่วเฮิงได้กระทำในวันนี้ ข่าวก็ได้แพร่ออกไปในที่สุด
เพียงไม่นาน ทั้งเมืองจิงเต่าก็เดือดพล่าน
แม้กระทั่งฟู่เฟิงหยุนผู้ที่ตัวอยู่ไกลถึงเมืองหลวง หลังได้รับข่าวหนังศีรษะพลันชาวาบ รีบร้อนส่งคนออกหน้าไกล่เกลี่ย
เมื่อตระกูลฉีลุกขึ้นมาแสดงถึงการสนับสนุน ทั้งยังให้เห็นว่า ฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต เป็นไปตามกฎของสัจธรรม
เสมือนเป็นสัญญาณการเปิดฉากการต่อสู้
“วันนี้สู้สนุกสุดๆ ไปเลย ผมขอไปพักผ่อนก่อนนะ” จิ่วเฮิงพูดกับฉีเติ่งเสียนพลางยืดเส้นยืดสายไปมา
“ได้!” ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า โบกมือให้จิ่วเฮิงส่งสัญญาณว่าตามสบาย
ฉีเติ่งเสียนนั่งขัดสมาธิ ณ โรงฝึกที่เงียบสงบ จิตทั้งห้าแน่วนิ่ง ปรับลมหายใจคิดพิจารณาถึงปัญหาบางอย่าง
ไม่นาน หลี่เหอถูและอวี้เสี่ยวหลงพวกเขาสองคนก็จูงมือกันเข้ามา เห็นฉีเติ่งเสียนปลอดภัยสบายดีก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ไม่นานพวกเขาก็อดจะกังวลขึ้นมาไม่ได้
หลี่เหอถูถอดถอนหายใจแล้วพูด : “ฉันรู้อยู่แล้วว่าคงห้ามนายไม่อยู่ แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้! สวรรค์ ........ภายใต้สถานการณ์ท่ามกลางคนของสมาคมหงนายกลับกล้าลงมือต่อหน้าพวกเขา และคนที่นายฆ่า คือเหยียนมู่หลง!”
ฉีเติ่งเสียนตอบกลับอย่างสงบว่า “เหยียนมู่หลงคิดอยากจะยืมอำนาจและพลังของสมาคมหงมากดดันฉัน
ง่ายดายไปไหม?”
“ทำผิด ก็ต้องยอมรับผิด สมควรถูกทุบตีแล้ว”
หากไม่เพราะพวกเขาใส่ร้ายลู่จ้านหลง ฉีเติ่งเสียนกับฉู่อู๋เต้าจะลงมือได้อย่างไร?
หากฉู่อู๋เต้าไม่ลงมือเขาก็ไม่มีทางตาย
“ฉันว่า ทำไมนายไม่ไว้หน้าสมาคมหงสักนิดเล่า อีกทั้งนายยังฆ่ายอดฝีมือของสมาคมหงไปอีก นี่ยิ่ง
ทำให้ความขัดแย้งระหว่างสมาคมหงกับสำนักหลงเหมินรุนแรงขึ้น!” หลี่เหอถูพูด
“ไม่อย่างนั้นนายก็เชิญเฉินหยวนเป่ยมาดื่มชาสักหน่อยจากนั้นค่อยพูดสร้างสันติ! ดูว่าเขาจะยอมไว้หน้านายไหม?” ฉีเติ่งเสียนยิ้มเย็นแล้วตอบ
หลี่เหอถูรู้สึกน้ำท่วมปากกับประโยคนี้ แต่รู้สึกว่าก็สมเหตุสมผลอยู่
ฉีเติ่งเสียนพูดต่อ : “ตั้งแต่แรกระหว่างฉันกับสมาหงความก็มีความขัดแย้งกันอยู่แล้ว อีกทั้งกับสำนักหลงเหมินก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์สำคัญอะไรมากมาย หากสมาคมหงชมชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยน งั้นก็ตีคนกลับไปเป็นพอ ฉันก็ไม่ถือสาจะฆ่าพวกมันเพิ่มอีกสักสองสามคน”
ชื่อเสียงของฉีเติ่งเสียนนั้นล้วนมาจากการต่อสู้ เขาไม่มีทางมาสนใจว่าใครจะคิดอย่างไร หากมีความสามารถก็ฆ่าเขาให้ได้สิ แต่หากฆ่าไม่ตายงั้นจงรอเขาย้อนกลับมาฆ่าแล้วกัน
“ศึกครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการสร้างสถานะในยุทธภพนี้ หากสมาคมหงมีอะไรไม่พอใจสามารถมาหาฉันได้ตลอดเวลา” ฉีเติ่งเสียนพูดกับหลี่เหอถูอย่างช้าช้า
“เช่นเดียวกัน หากว่าภายในสำนักหลงเหมินใครรู้สึกว่าฉันขัดตา ฉันก็ยินดีต้อนรับพวกเขา”
หลังหลี่เหอถูได้ฟังได้เพียงยิ้มออกมาอย่างจนปัญญา ไม่นานก็พูดว่า : “ก็จริง แม้ในสถานการณ์ที่สมาคมหงส่งยอดฝีมือมา นายก็ยังสามารถฆ่าได้หมดและหาทางหลบหนีโดยไร้แม้บาดแผล หากเรื่องนี้แพร่ออกไปชื่อเสียงของนายจะยิ่งกระฉ่อน”
“เกรงว่าทั้งตระกูลเย่และคาสิโนคงจะสร้างหวาดกลัวเป็นอย่างมาก?” อวี้เสี่ยวหลงอดถามออกมาไม่ได้
การฆ่าสังหารครั้งนี้ของฉีเติ่งเสียน แน่นอนว่าย่อมเป็นการส่งสัญญาณของการตักเตือน
อย่างเจ้าพวกโจรกระกูลตระกูลเย่ เกรงว่าคงมีความคิดที่จะลงมือกับฉีเติ่งเสียนไม่น้อย แต่หลังจากเกิดเรื่องนี้คงหวาดกลัวเป็นอย่างมากไม่กล้ามีความคิดเช่นนั้นอีก
ถ้าหากพวกมันกล้าใช้ความรุนแรงเช่นนั้นฉีเติ่งเสียนก็ย่อมตอบแทนดังที่พวกมันกระทำ เพียงไม่นานพวกมันก็คงจบเห่....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...