ไม่ว่าจะสำหรับผู้ชายคนไหน ผู้หญิงที่ไว้ตัวและหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างสวีเอ้าเสวี่ยย่อมเป็นผู้หญิงที่ทำให้คนอยากจะพิชิตใจได้มากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!
รูปร่างหน้าตาของเธอ นิสัยของเธอ ภูมิหลังของเธอ รวมถึงความเป็นเลิศต่างๆ นานานั้น ทำให้ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ปฏิเสธไม่ได้
แม้กระทั่งผู้ชายห่วยๆ... เอ่อ ผู้ชายที่อบอุ่นอย่างฉีเติ่งเสียนก็ยังต้องสับสนอยู่ระหว่างการตกหลุมรักเธอและการตกหลุมรักเธอเป็นเวลานาน
“เป็นมนุษย์จะต้องรักษาคำพูด ถ้าผิดคำพูดกับคนอื่นบ่อยเกินไป สุดท้ายสัจจะก็จะพังทลาย”
“เหมือนบางคนที่บอกว่าหนึ่งปีจะจบ แต่ผ่านไปแล้วปีเล่า จนสามปีแล้วก็ยังมีแต่แย่ลงเรื่อยๆ”
“แบบนี้สัจจะทั้งหมดจะพังทลายลง ด้วยคำโป้ปดมากมาย ความน่าเชื่อถือระดับนานาชาติก็จะพังทลายลงด้วย และจะไม่มีใครยอมเล่นตามอีก”
ฉีเติ่งเสียนยักไหล่ให้สวีเอ้าเสวี่ย เกลี้ยกล่อมคนรักเก่าให้รักษาสัจจะอย่างมุ่งมั่น
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตะกละตะกลามขาสวยๆ ในถุงน่องสีดำ เขาเพียงแต่คิดว่าความซื่อสัตย์คือคุณธรรมของมนุษย์ เป็นรากฐานของบ้านเมือง ดังนั้นจึงต้องสั่งสอนอย่างจริงจัง!
จะถุงน่องสีดำหรืออะไรก็ตามแต่ เขาไม่ได้แคร์ ไม่ได้สนใจเลย
แววตาของสวีเอ้าเสวี่ยยังคงอ่อนโยนเหมือนเดิม เธอยิ้มและกล่าวว่า “กับคนอย่างคุณ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงสัจจะอะไรนั่นหรอก! วันนี้ฉันยังมีเรื่องอื่นต้องไปทำ”
ฉีเติ่งเสียนเอ่ยด้วยใบหน้าที่มืดมนว่า “ไม่ได้ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องทำตามสัญญา ยอมรับความพ่ายแพ้! เงื่อนไขของฉันตอนนั้นก็บอกไว้แล้ว ว่าต้องมาเป็นแฟนของฉันอย่างจริงๆ จังๆ หนึ่งวัน”
สวีเอ้าเสวี่ยคร้านที่จะใส่ใจ เธอหยิบแว่นตาขึ้นมาสวมพร้อมกับสวมหมวกสักหลาดใบเล็กเป็นการปลอมตัวเล็กๆ น้อยๆ จากนั้นจึงหันหลังเตรียมจะออกไปและบอกว่า “ไม่มีเวลาว่างมาสนใจนายหรอกนะ ลาก่อน!"
ฉีเติ่งเสียนยิ้มเยาะและบอกว่า “วันนี้เธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ฉันไม่ใช่คนประเภทที่จะให้เธอมาล้อเล่น!"
ว่าแล้วเขาก็ใช้มาตรการที่รุนแรงกับสวีเอ้าเสวี่ย ทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก
“จริงๆ เธอก็เต็มใจใช่ไหมล่ะ? แต่เพราะความถือตัวอวดดีของเธอ เธอเลยเลือกที่จะตอบสนองฉันด้วยวิธีที่เย่อหยิ่งอย่างนี้!” จู่ๆ ฉีเติ่งเสียนก็ยิ้มออกมาและกระซิบที่ข้างหูของเธอ ราวกับว่าเขาเป็นคนรอบรู้ที่มองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่ง
สวีเอ้าเสวี่ยชะงัก ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ เธอด่าออกมาว่า “นายป่วยรึไง มีสิทธิ์อะไรถึงมาคิดว่าฉันจะสนใจคนห่วยๆ อย่างนาย!"
แต่ฉีเติ่งเสียนกลับมองเธอราวกับกำลังครุ่นคิดและบอกว่า “ไม่ใช่สิ... ปกติถ้าเธอไม่เห็นด้วยกับคำพูดของฉัน เธอจะต้องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วก็ต้องทำเป็นพูดแดกดันตอบรับฉันซ้ำๆ จากนั้นก็พูดจาเล่นลิ้นเสียดสีให้ฉันเห็นข้อบกพร่องของตัวเอง...”
“ปกติเวลาที่เธอแสดงอารมณ์แบบนี้ออกมามักจะเป็นเพราะฉันพูดแทงใจ”
“ฮ่า เธอนี่มันหยิ่งจริงๆ!”
สวีเอ้าเสวี่ยมองฉีเติ่งเสียนด้วยสีหน้าที่เฉยเมย จากนั้นจึงยิ้มและบอกว่า “โอ้? นายนี่เดาได้แม่นจริงๆ! ว่าแต่ทำไมฉันถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?”
ฉีเติ่งเสียนคิดนิดหนึ่งและบอกว่า “บางทีเธออาจจะตกหลุมรักฉัน อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้”
สวีเอ้าเสวี่ยไม่ใช่คนที่จะเหยียบคันเร่งสุดเท้าตลอดเวลา พอได้ยินคำพูดแบบนี้เธอก็อดชะงักไม่ได้ จากนั้นจึงยิ้มเยาะและบอกว่า “บ้าเหรือเปล่า!"
“ไปกันเถอะ ถึงยังไงก็มีเวลาแค่วันเดียว ต้องรีบหน่อย! เธอเองก็อยู่ที่จิงเต่าจนเบื่อแล้วเหมือนกันนี่ มาเล่นเป็นแฟนกันสักหน่อยก็ช่วยคลายเหงาได้ไม่ใช่หรือ” ฉีเติ่งเสียนหยุดจับสวีเอ้าเสวี่ยและเอื้อมมือไปกอดไหล่ของเธอ พาเธอออกไปข้างนอก
ปากของสวีเอ้าเสวี่ยไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกำลังคิดว่า “ฉันไม่ได้ต้องการ แต่เป็นเพราะหมอนี่ใช้กำลังหรอกน่ะ มีมือที่แรงเยอะลากไปแบบนี้ ฉันเองก็ต้านไม่ไหว!"
และก็เป็นอย่างที่ฉีเติ่งเสียนพูดกับฉีหยุนเฟิง เขามีวิธีดีๆ ที่จะจัดการสวีเอ้าเสวี่ยให้อยู่หมัด
อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีใครอื่นบนโลกนี้แล้วที่สามารถอ่านความคิดของสวีเอ้าเสวี่ยได้อย่างง่ายดายแบบเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...