“เมื่อสักครู่กาลันดาพูดถึงหมัดนั้น ไล่เลี่ยกัน จริงหรือไม่?เขามีความสามารถถึงระดับไหนกันแน่?”
หยางกวนกวนถึงเวลานี้ถึงสงสัยแล้วเปิดปากถามขึ้น กาลันดาคนนั้นเขานั้นฝึกฝนวิชาโยคะ วิชากังฟูเป็นยังไง เขาไม่รู้
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะแล้วพูดขึ้น: “คุณฟังเขาโม้อยู่ แม้แต่จิ่วโมจื่อยังบอกว่าเขาเคยสู้กับเสี่ยวเฟิง!”
หยางกวนกวนพูด: “มีบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับเทคนิคโยคะนี้จริงๆ”
ฉีเติ่งเสียนพูด: “แน่นอน เพราะเทียนจู๋กั๋วสร้างขึ้นโดยพระพุทธศาสนา มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน”
หยางกวนกวนพูด: “เขาสามารถรับการโจมตีอันหนักหน่วงจากคุณได้ เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างดี”
ฉีเติ่งเสียนลุกขึ้นแล้วพูด: “หากเขาไม่กลั้นเลือดไว้ในเวลานั้น คุณก็ไม่มีทางจะพูดแบบนี้”
หยางกวนกวนพูดขึ้นอย่างสงสัย: “ห๊ะ?คุณหมายความว่าทำร้ายภายในของเขาจนบาดเจ็บแล้ว เมื่อสักครู่เขาเกทอบจะอ้วกเป็นเลือด?”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าแล้วพูดขึ้น: “ใช่ ทักษะของปรมาจารย์โยคะคนนี้เทียบเท่ากับปรมาจารย์ อันดับต้นๆของหัวกั๋ว แต่พลังชีวิตนั้นเทียบเท่ากับพลังของปรมาจารย์ตานจิ้ง(ระดับของสูงของกังฟู)มีเลือดที่แข็งแกร่ง!ไม่รู้ว่าคนที่เขาเรียกว่าโจริริและพระพุทธเจ้ามีความสามารถถึงระดับไหน?”
“ในโลกแห่งความขุ่นมัวทั้งห้า ในยุคแห่งธรรมอันสิ้นสุด ไม่มีผู้ปฏิบัติธรรมคนใดสามารถบรรลุการตรัสรู้ที่แท้จริงได้ มีแต่พระโพธิสัตว์ปรากฏที่เทียนจู๋กั๋ว น่าสนใจจริงๆ!”
“ถ้าไม่มีความสามารถหน่อยเขาไม่กล้าเรียกว่าพระโพธิสัตว์ ไม่อย่างนั้นก็ไร้ความตื่นเต้น”
หยางกวนกวนถามขึ้น: “ทันใดนั้นนิกายพุทธศาสนาเทียนจู๋ ก็มาหาคุณเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับกิจการของหนานหยาง เป็นเพราะจะมีความขัดแย้งในศรัทธาหรือไม่?”
“อืม...”
“ในพื้นที่หนานหยาง ความเชื่อจะปะปนกัน แต่ผู้คนจำนวนมากนับถือศาสนาพุทธ”
“วิหารหนานหยางของฉันเป็นอาคารอันงดงามเป็นอันดับสองรองจากวิหารแห่งอาณาจักรพระเจ้า เมื่อสร้างขึ้นแล้วก็จะมีความโดดเด่น”
“ถ้าถึงเวลา ความเชื่อของทางหนานหยาง ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปเพราะวิหารแห่งนี้”
“พวกเขาเสียผู้นับถือไปจำนวนเยอะในเวลาสั้นๆ พวกเขาจะนั่งนิ่งอีกได้อย่างไร?”
ฉีเติ่งเสียนทนไม่ไหวหัวเราะ จากนั้นเก็บอุปกรณ์ดื่มชาตรงโต๊ะ
“จริงๆแล้วฉันไม่อยากมีปัญหาข้อขัดแย้งกับคนภายในวิหารของพวกเขาเลย เพราะว่าที่พวกนี้เป็นที่เสือหมอบ มังกรซ่อนเร้น”
“แต่ว่า วิหารหนานหยางเป็นรากฐานศาสนาศักดิ์สิทธิ์ของฉัน เหตุผลที่พระสันตะปาปาสามารถตามใจฉันได้มากก็เพราะว่าในอนาคตฉันจะสามารถนำผู้เชื่อใหม่หลายร้อยล้านคนมาให้เขาได้!”
“ถ้าฉันกล้าที่จะอ่อนกำลังในเรื่องนี้ เขาจะแสดงใบหน้าของเขาให้ฉันเห็นในไม่ช้า”
“ดังนั้น เรื่องนี้ไม่สามารถพูดออกไปได้”
ฉีเติ่งเสียนกำลังอธิบายสถานการณ์ของตัวเองในปัจจุบันให้กับหยางกวนกวนฟัง ถ้าหากชุดนักบวชสีแดงของเขาถูกพระสันตะปาปาจับได้ ทันทีเขาจะได้รับโทษอันใหญ่หลวงและน่ากลัว ถึงเวลาต้องค่อยใช้ชีวิตแบบแอบซ่อน
หยางกวงกวงพูด: “พัวพันกับนิกายพุทธศาสนาเทียนจู๋ไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไร เพราะคนที่นับถือศาสนานี้มีจำนวนมาก อีกทั้งยังมีบอสและผู้มีอำนาจจำนวนเยอะ!”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า เก็บอุปกรณ์ดื่มชาเสร็จถึงพูดขึ้น: “ใช่แล้ว แต่ว่ามีวิธีไหนบ้างละ?อิทธิพลของพุทธศาสนายังน้อยกว่าศาสนาศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งติดตามพระสันตะปาปานั้นเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด!”
หยางกวนกวนหัวเราะร้องไห้ไม่ได้ แม้ว่าคำพูดจะหยาบไปสักหน่อย แต่ความจริงก็ไม่หยาบ
อย่างน้อยอิทธิพลของพระสันตะปาปา ก็ไม่ได้มีใครคนหนึ่งในนิกายพุทธศาสนาจะเทียบได้
อิทธิพลของพุทธศาสนาอาจจำกัดอยู่แค่ที่ศาสนา แต่อิทธิพลของพระสันตะปาปาครอบคลุมเรื่องการเมืองด้วย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...