ฉีเติ่งเสียนเชิญเหลยเจิ้นฉี เย่จีกั๋ว หยางหยุนจือ หลานโยวรวมไปถึงคนในวงการจากเซียงซานและจิงเต่ามาทานอาหาร อีกทั้งเพื่อคุยเรื่องการร่วมมือในอนาคต
เขาให้ทุกคนนั้นใช้สำนักหลงเหมินเน่ยเจียฉวนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา อีกทั้งหากมีเรื่องใดๆเกิดขึ้นจะได้มาขอความช่วยเหลือจากสำนักได้
ฉีเติ่งเสียนกำลังที่จะทำให้สำนักหลงเหมินเน่ยเจียฉวนนั้นค่อยๆ กลายเป็นสำนักศิลปะการต่อสู้แนวหน้า แล้วมีอิทธิพลกระจายไปทั่วประเทศ
“โอ๊ะ ช่วงนี้สบายจริงๆเลยนะ!” ฉีเติ่งเสียนมองไปที่หมาป่าหมาป่าโลภแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ที่ไหนกันล่ะ ทั้งหมดนี่ต้องยกให้หัวหน้ารองเลย!” หมาป่าโลภรีบหัวเราะด้วยท่าทางชั่วร้ายแล้วตอบ “ต้องขอบคุณความฉลาดหลักแหลมทั้งบู๊และบุ๋นของหัวหน้ารองที่เอาฉันไปไว้ในจุดที่ถนัด ไม่อย่างนั้นฉันไหนเลยจะใช่ชีวิตอย่างสุขสบายขนาดนี้?”
“ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าวิธีการและการวางแผนของหัวหน้ารองนั้นราวกับขงเบ้งและสุมาอี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเอง ……”
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะขึ้นมาแล้วตบไหล่ของหมาป่าโลภจากนั้นพูดว่า “ขอแค่คุณอยู่นิ่งๆ ชีวิตนี้ไม่ต้องกลับไปลำบากอีก แต่ถ้าคุณไปก่อเรื่องอะไรขึ้นล่ะก็……”
หลังจากพูดจบ ฉีเติ่งเสียนก็ยื่นมือออกมาหยิบเค้กถั่วเขียวขึ้น แล้วถอนหายใจออกมา
หมาป่าโลภไม่พูดอะไรอีก จากนั้นก็ชี้ไปที่เค้กที่ถูกฉีเติ่งเสียนกัดไปแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “ครึ่งหนึ่งเหมือนพระอาทิตย์อีกครึ่งราวกับพระจันทร์ ครั้งหนึ่งนั้นเคยถูกมังกรทองขย้ำ!”
หลังจากสิบสี่คำนี้ออกมา เย่จีกั๋วที่อยู่ด้านข้างก็ส่งเสียงออกมาว่า “แม่งเอ๊ย” เจ้านี่มันช่างเลียเก่งเหลือเกิน!
นี่มันเหมือนกับคำพูดที่หลิวป๋อเหวินเลียจูเหวินจางเลย เจ้าหมาป่าโลภนี่ก็เอามาใช้ได้?ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเลียเก่ง ก็เพราะเขานั้นเป็นหมายังไงล่ะ!
ฉีเติ่งเสียนถูกการเลียแข้งเลียขาระดับสูงของหมาป่าโลภเข้าไปแล้วก็นิ่งไป จากนั้นผงกศีรษะหัวเราะแล้วกล่าว “ถึงว่าทำไมเมื่อก่อนพ่อฉันถึงชอบให้คุณมาเป็นล่ามให้ คุณนี่มันเลียเก่งจริงๆ!”
หมาป่าโลภหัวเราะขึ้นแล้วพูด “อะไรกัน?ฉันก็เคารพหัวหน้ารองอยู่แล้ว……”
ฉีเติ่งเสียนกำหมัดของตัวเองแล้วก็หัวเราะแล้วกล่าว “ใช่เหรอ?”
หมาป่าโลภพูดด้วยรอยยิ้มประจบว่า “เศษกระดูกไก่เช่นนี้ไม่มีค่าพอที่จะมาถูกหมัดอันสูงส่งต่อยได้หรอก?”
เมื่อเย่จีกั๋วได้ยินเช่นนั้น ในใจก็อุทานว่า “เชี่ย” คำพูดเลียแข้งเลียขาเช่นนี้นั้นมันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ?
ฉีเติ่งเสียนได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะ คลายหมัดลง แล้วกล่าวว่า “ไม่เลวเลย วิชาเทพเลียแข้งเลียขาของคุณนั้นช่างยอดเยี่ยมนัก ในอนาคตหากถูกพี่สาวหลานทิ้งไป ก็ไม่ต้องกังวลใจเรื่องหาภรรยาใหม่แล้ว”
เขาตบไหล่ของหมาป่าโลภ จากนั้นก็ปล่อยเขาไป
ให้เทพชั่วร้ายผู้มีชื่อเสียงโด่งดังของโลกใต้ดินมาเป็นพวก ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีเรื่องให้กลุ้มใจแล้ว
หลังจากฉีเติ่งเสียนจากไปแล้ว เย่จีกั๋วก็มาข้างๆของหมาป่าโลภแล้วถามว่า “ทำอย่างไรถึงจะสามารถประจบประแจงได้อย่างเป็นธรรมชาติเช่นนี้กัน!”
หมาป่าโลภเหลือบมองเขาแล้วกล่าว “หากคุณไปที่เรือนจำโยวตูก็จะได้รู้ว่ามีพระรูปหนึ่งเลียเก่งกว่านี้อีก”
เย่จีกั๋วถาม “ยังไงกัน?”
หมาป่าโลภกล่าว “มีครั้งหนึ่งหัวหน้าใหญ่พาพระเดินทางไปด้วย มีฝนตกห่าใหญ่แล้วเจอวัดอยู่ใกล้ๆพอดี หัวหน้าใหญ่อยากจะแค่เข้าไปขอหลบฝน แต่ก็เกรงใจ จึงจะเข้าไปสักการะด้านใน แต่พระรูปนั้นกลับห้ามเอาไว้ จากนั้นก็พูดประจบหัวหน้าใหญ่จนตัวแทบลอย เมื่อกลับมาที่เรือนจำจึงได้รับเหล้าเหมาไถจำนวนพอที่จะดื่มได้ทั้งเดือน”
เย่จีกั๋วถามอย่างตะลึง “เขาพูดประจบยังไงกัน?”
หมาป่าโลภเงยหน้าสี่สิบห้าองศาขึ้นไปมองท้องฟ้า ถอนหายใจแล้วกล่าว “เจ้าพระสุนัขนั้นพูดว่า……พระโพธิสัตว์นั้นไม่ไหว้กันเองหรอก”
เย่จีกั๋วพูดอย่างสงบนิ่ง มือก็ควักไปในอกแล้วหยิบกล่องขนาดไม่เล็กออกมา เมื่อเปิดออกมาพบว่าข้างในมีเพชรอยู่
อีกทั้งเพชรนั้นมีขนาดไม่เล็กเลยทีเดียว แค่มองก็รู้ว่ามีค่ามากแน่ๆ!
“อ่านี่มัน……ไม่ค่อยเหมาะ?” ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้ว คิดว่าจะรับของคนอื่นมาเฉยๆคงจะไม่ดี
เย่จีกั๋วพูดเสียงต่ำ “เพชรเหล่านี้เหมาะแก่การให้เป็นของขวัญกับสาวๆ สามารถทำเป็นสร้อย ต่างหู กำไล ตัวหนีบผม……ตระกูลเย่เราสนิทกับช่างเพชรระดับท็อปของอิตาลี”
“ฉันคิดว่ากการที่คุณฉีนั้นเป็นชายมากรักแห่งจงไห่นั้น จะขาดสิ่งเช่นนี้ไปได้อย่างไร!”
“อีกทั้งฉันสามารถรับรองได้ว่าทำออกมาไม่ซ้ำแบบกันแน่นอน เมื่อให้ไปแล้ว จะไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์รถไฟชนกัน……ยกตัวอย่างเช่นคุณหยางเหมาะกับสร้อยคอ ส่วนคุณเจียงนั้นเหมาะกับกำไลข้อมือ……”
ฉีเติ่งเสียนเมื่อได้ฟังก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจอย่างเยือกเย็น “หืม……ที่คุณพูดมานั้นฉันคิดไม่ถึงจริงๆ?ดีมาก อย่างนั้นก็รบกวนคุณด้วยแล้วกัน”
พูดจริงๆแล้ว ฉีเติ่งเสียนปวดหัวมากกับการที่จะให้ของขวัญคนรอบตัวในเทศกาลต่างๆ จะให้ของแบบเดียวกันก็เดี๋ยวจะเกิดปัญหา หากไม่ให้ก็ไม่ได้
แผนที่เย่จีกั๋วได้เสนอมานั้น ได้ช่วยให้เขาจัดการปัญหาใหญ่ได้ในที่สุด!
“คุณแค่ไปจัดการด้านรักๆ ใคร่ๆ ก็พอ ส่วนเรื่องของขวัญนั้น ให้ฉันจัดการเอง!” เย่จีกั๋วพูดอย่างนอบน้อม
“ฮ่าฮ่า ดี!ฉันจะกลับไปบอกให้เฮ่อตั่วเหลียนเอาเรือเทียนซื่อมาให้ตระกูลเย่ยืมใช้งานสักสองสามเดือน” ฉีเติ่งเสียนกล่าว
“ไม่ได้!” เย่จีกั๋วขมวดคิ้วแล้วกล่าว “ที่ฉันมาช่วยก็เพราะนับถือในด้านความรักของคุณฉี คุณกลับมาตอบแทนฉันด้วยผลประโยชน์ นี่มันดูถูกกันชัดๆ?!”
ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสบายใจ ตบไหล่ของเย่จีกั๋วเบาๆแล้วกล่าว “ได้เลย ไม่เลวจริงๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...