คุกเข่า?!
สวี่หยางชั่วชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องคุกเข่าให้คนอื่น ที่ผ่านมามีแต่คนอื่นที่คุกเข่าต่อหน้าเขา
“ให้สวี่หยางคุกเข่า?”
“นายกำลังล้อเล่นอะไร?หรือว่าสมองมีปัญหา?”
“อย่าคิดว่านายมีปืนอยู่ในมือแล้วฉันจะกลัว ถ้ามีความสามารถก็ยิงฉันให้ตาย ฉันก็อยากดูว่านายมีจุดจบยังไง?”
สวี่หยางสีหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส พูดเสียงเย็นชา“อยากให้ฉันคุกเข่า นอกจากนายจะกลายเป็นสุสานบรรพบุรุษ!”
สวี่หยางโมโหมาก เป็นธรรมชาติที่จะทำให้พวกเน็ตไอดอลเสื่อมศรัทธา คิดว่าเขามีความหยิ่งทระนง และมีนิสัยเฉพาะตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียง
สายตาของฉีเติ่งเสียนก็เย็นชามาก เต็มไปด้วยกลิ่นอายการสังหาร
หลังจากที่สวี่หยางมองเห็นสายตาของเขา ในใจก็จมดิ่ง พูดเสียงเคร่งขรึม“นายกล้าให้ฉันโทรศัพท์ไปเรียกคนไหม?นายไม่ใช่บ้าระห่ำเหรอ?”
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนได้ฟังคำพูดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา
“ทำไม?ไม่กล้าเหรอ?”สวี่หยางพูดดูถูกฉีเติ่งเสียน
“นายไม่ต้องใช้วิธียั่วยุมาใช้ในเวลานี้ ไม่มีประโยชน์กับฉัน เพียงแต่ ในเมื่อนายมั่นใจขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้โอกาสนาย”
“นายรีบต่อสายโทรศัพท์ คนที่นายสามารถเรียกได้ก็เรียกมาให้หมด”
“ดูว่าพวกเขาวันนี้สามารถเหยียบฉันให้ตายได้ไหม”
“ถ้าหากพวกเขาทำไม่ได้ วันนี้ฉันจะให้นายกลายเป็นสุสานบรรพบุรุษแทน”
ฉีเติ่งเสียนวางปืนลงอย่างใจเย็น หลังจากนั้นก็เดินกลับไปด้านข้างจางโหรวกับหลี่อวิ๋นหว่าน ปืนสองกระบอกโยนทิ้งไว้บนโต๊ะ
สวี่หยางไม่พูดจา ก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองโทรเรียกคนมา
“นายน้อยหางเสือ โทรศัพท์เรียกผู้มีฝีมือสูงของหลงเหมินมา เหยียบย่ำเขาให้ตาย!”
“หมอนี่บ้าระห่ำเกินไปแล้ว นายน้อยหางเสือต้องจัดการเขาอย่างโหดเหี้ยมจึงจะได้!”
พวกเน็ตไอดอลพากันฮือฮา หวังว่าจะซื่อสัตย์ต่อหน้าของสวี่หยาง
ริมฝีปากของจางโหรวสั่นเทา มองฉีเติ่งเสียน และพูด “นายให้เขาโทรไปเรียกคนมา บ้าบิ่นเกินไปไหม?”
ฉีเติ่งเสียนยักไหล่ พูดย้อนถาม“มีอะไรบ้าบิ่น?เธอคิดว่าเขาสามารถเหยียบฉันตายได้?”
จางโหรวเม้มปากไม่กล้าพูดอีก แค่คิดว่าฉีเติ่งเสียนทำแบบนี้ บ้าบิ่นเกินไปแล้ว ความจริงสามารถใช้โอกาสนี้ควบคุมสวี่หยางหลังจากนั้นก็ออกไป แต่กลับให้โอกาสเขาเรียกคนมา
หลี่อวิ๋นหว่านอกสั่นขวัญหาย สวี่หยางเป็นนายน้อยหางเสือของหลงเหมิน มีอำนาจและอิทธิพล ฉีเติ่งเสียนนึกไม่ถึงว่าจะให้เสือคืนถ้ำ?
หลังจากที่สวี่หยางโทรศัพท์แล้ว ก็แจ้งสถานที่ ให้คนรีบเข้ามา
“ไอสวะ นายสู้เก่ง ฉันเรียกคนที่สามารถเล่นเป็นคู่ต่อสู้เป็นเพื่อนนายแล้ว!”สวี่หยางพูดเสียงเย็นชา
“ฉันความอดทนมีขีดจำกัด และตอนนี้หิวแล้ว ดังนั้น นายเรียกมาเพิ่มอีกสองสามคนจะดีกว่า”ฉีเติ่งเสียนกวาดสายตามองสวี่หยาง พูดอย่างเย็นชา
สวี่หยางยิ้มพลางพูด“นายควรเตรียมตัวเรื่องงานศพ เพื่อจะได้มีเวลาให้นายใช้”
ฉีเติ่งเสียนไม่ได้พูดน่ารำคาญกับสวี่หยางอีก พลางหยิบขนมกินเล่นบนโต๊ะกิน
หลังจากนั้น เขาหันหน้ากลับไปพูดกับหลี่อวิ๋นหว่าน“เธอหิวไหม?ไม่อย่างนั้นพวกเราหาของกินก่อน แล้วค่อยมาจัดการพวกโง่นี้”
หลี่อวิ๋นหว่านส่ายหน้าจนแทบจะร้องไห้ ตอนนี้ความหิวถูกทำให้ตกใจจนไม่หิวแล้ว จะมีอารมณ์ขันหาของกินอีก?
แต่ไม่นาน คนของสวี่หยางก็มาแล้ว
“นายน้อยหางเสือ!”คนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในห้องรับรอง โค้งคำนับไปทางงสวี่หยาง เห็นได้ชัดเจนว่าเคารพมาก
“อืม…” สวี่หยางค่อยๆพยักหน้า สีหน้าเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...