ฉีเติ่งเสียนลงมือครั้งนี้ ทำให้เหล่าเพื่อนๆของผู้จัดการเจิ้งตกใจจนตัวสั่น
ส่วนซุนอิ่งซูก็ดื่มไวน์คำหนึ่งอย่างสวยสง่า ราวกับเห็นฉากแบบนี้จนชินไม่แปลกใจแล้ว
คุณนายซุนก็ไม่ใช่คนธรรมะธัมโมอะไร ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่สามารถยึดครองถือทรัพย์สินของตระกูลชุยหลังจากที่สามีตายไปได้
“หนีไปตอนนี้ยังทันนะ ฉันเองก็ขี้เกียจจะซักไซ้แล้ว” ซุนอิ่งซูถือแก้วไวน์โคลงไปมาเบาๆ พูดกับเพื่อนกลุ่มนั้นของผู้จัดการเจิ้ง
คนเหล่านี้อดโกรธขึ้นมาไม่ได้ รู้สึกว่าซุนอิ่งซูที่เป็นนายทุนต่างชาติคนหนึ่งมาหยิ่งผยองถึงผึ่งไหลแบบนี้มันเกินไป ทำตัวเสแสร้งเกินไปหน่อย!
ผู้จัดการเจิ้งเลือดขึ้นหน้า คำรามเสียงต่ำปีนขึ้นจากพื้น พูดพร้อมความโมโห “พวกเธอจบเห่แน่!”
แต่ในเวลานี้ โทรศัพท์ของผู้จัดการเจิ้งก็ดังขึ้น
เขาไม่คิดสนใจ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของประธานจางแล้วก็ทำได้เพียงยกโทรศัพท์ขึ้นมา เดินไปด้านข้างสองสามก้าวพูดอย่างระมัดระวังว่า “ประธานจางโทรหาผมหรือครับ?”
ประธานจางคนนี้ก็คือประธานของผึ่งไหลชิปกรุ๊ปคนปัจจุบัน
“เสี่ยวเจิ้ง ทางบริษัทตัดสินใจแล้วให้เปิดชิปของคุณนายซุนแห่งซ่านซิง ไม่ต้องสร้างความวุ่นวายแล้ว เข้าใจหรือยัง?” ประธานจางถามเรียบๆ
“ฮะ?!” ผู้จัดการเจิ้งได้ยินประโยคนี้แล้วอดไม่ได้ที่ยืนงง ทั้งคนเหมือนถูกสายฟ้าฟาด
เมื่อกี้เขายังให้คนระงับชิปของซุนอิ่งซูอย่างใหญ่โตอยู่เลย ผลสุดท้าย เพียงแค่หันหน้าเจ้านายใหญ่ของตนเองก็โทรศัพท์มาหาเขาบอกว่าไม่ต้องยุ่งกับซุนอิ่งซูแล้ว?
ผู้จัดการเจิ้งพลันหมดคำพูด ชั่วขณะหนึ่งต่อมาถึงได้ถามว่า “ไม่ใช่สิ... ประธานจาง ซุนอิ่งซูคนนั้นสนับสนุนจั่วเฉินนะครับ! พวกเราระงับชิปของเธอ นั่นก็ผ่านการพิจารณาแล้ว แถมยังประสานงานกับหลายๆฝ่ายแล้วด้วย จะบอกว่าให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ยังไงครับ?”
ซุนอิ่งซูให้ผึ่งไหลชิปกรุ๊ปขวางคออยู่ ความสามารถในการผลิตช่วงนี้ได้รับผลกระทบไม่น้อย การที่ความสามารถในการผลิตมีข้อจำกัดนั่นก็กระทบถึงผลประโยชน์ของเธอ
นั่นช่วยไม่ได้ ถ้าซุนอิ่งซูอยากอยู่ในตลาดของประเทศหัวกั๋วต่อไปได้รับผลประโยชน์มากกว่าคนอื่น เช่นนั่นก็ต้องเลือกยืนอยู่ข้างจั่วเฉินในผึ่งไหลนี้ถึงจะได้
ไม่เช่นนั้น จะไม่ถือว่าเป็นการต่อต้านประเทศหัวกั๋วเหรอ? เขายังจะช่วยเธอให้อยู่ในตลาดต่อไปทำไม?
ซุนอิ่งซูสนับสนุนจั่วเฉินเพราะความจำเป็น คิดเพื่อให้อยู่ในตลาดของประเทศหัวกั๋วต่อไป แต่ทว่าการที่เธอสนับสนุนจั่วเฉินก็ทำให้เจ้าถิ่นผึ่งไหลมากมายโกรธเคือง ทำให้ชิปถูกระงับ
ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ทำให้เธอขยับตัวยากจริงๆ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันยากที่จะคาดเดา อีกอย่างสถานการณ์ของผึ่งไหลก็เปลี่ยนไปวันต่อวัน ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง?” ประธานจางทอดถอนใจพูดอย่างมีสติ
“ไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีไหนถึงขอให้คุณซุนออกมาพูดได้”
“ตอนแรกที่ผึ่งไหลชิปกรุ๊ปสร้างมาได้ก็ได้รับการสนับสนุนจากคุณซุนมาตลอด แม้แต่พ่อของผมก็ยังได้รับความเมตตาจากคุณซุน”
“คุณซุนพูดแล้ว แล้วผมจะไม่ฟังได้หรือ?”
บางทีประธานจางเองก็รู้สึกว่าจู่ๆเปลี่ยนเรื่องมาเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกผิดกับคนอยู่บ้าง ดังนั้นจึงอธิบายกับผู้จัดการเจิ้งสักกี่ประโยค
ผู้จัดการเจิ้งฟังแล้วก็ยืนนิ่ง เป็นเหมือนที่พวกเขาพูดจริงๆว่าติดต่อให้คนตระกูลซุนช่วยเหลือหรือ?!
ในปากผู้จัดการเจิ้งเต็มไปด้วยความขมขื่น รู้สึกว่าหน้าตนเองใกล้ถูกตบจนบวมแล้ว วินาทีก่อนยังให้คนหักชิปอยู่เลย ผลสุดท้าย วินาทีต่อมาเจ้านายใหญ่ก็โทรศัพท์มาบอกว่าให้รักษาไว้คงเดิมตามปกติ!
“ผมก็ไม่ได้จะเอามากมาย พวกคุณเอาเงินยี่สิบล้านดอลลาร์มาชดเชยให้ผม ผมจะไม่แจ้งความก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นก็รอให้ตำรวจมาจับตัวไปได้เลย!” ผู้จัดการเจิ้งพูดขู่
ฉีเติ่งเสียนฟังแล้วก็เคาะลิ้นอย่างอดไม่ได้ ยี่สิบล้านดอลลาร์ ทำไมฟังแล้วมันดูขาดๆอะไรอยู่นะ?
ที่จริงแล้ว ยี่สิบล้านดอลลาร์ก็โลภมากเกินไปแล้ว!
ถึงยังไงก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนฉีเติ่งเสียน ไม่ทันไรก็ได้เงินหลักร้อยล้าน ลักพาตัวจี้ข่ายยิ่งไปกว่านั้นแบล็คเมล์ไปคำนึงก็ได้สองร้อยล้านดอลลาร์มา
ถ้าให้ธรรมดาหน่อย ประมาณสักกี่ล้านก็มากพอแล้ว เงินของทุกคนไม่ใช่ว่าลมพัดมาก็มา
ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ล้วนรู้สึกว่าเงินที่ผู้จัดการเจิ้งต้องการให้ชดใช้มันมากเกินไป มีเพียงฉีเติ่งเสียนที่รู้สึกว่าขาดอยู่หน่อยๆ กระทั่งคิดว่าจำนวนตัวเลขนี้ที่พูดออกมานั้นตัดยอดลงแล้ว
“ยี่สิบล้านดอลลาร์? ยังจะกล้าขอจริงๆนะ!” ซุนอิ่งซูคิ้วกระตุก แสยะยิ้มออกมา
ผู้จัดการเจิ้งรู้ว่าชิปขวางซุนอิ่งซูไม่ได้แล้ว งั้นเรื่องคน เขาก็ไม่ต้องคิดแล้ว ในเมื่อเรื่องคนไม่ต้องคิดแล้ว งั้นก็เอาเงินแล้วกัน เขาคงไม่ปล่อยให้ทั้งคนทั้งทรัพย์เป็นช่องว่างอยู่ทั้งสองช่องหรอกใช่มั้ย?!
ฉีเติ่งเสียนมองซุนอิ่งซูอย่างไม่เข้าใจ ถามว่า “ยี่สิบล้านดอลลาร์นี่มากเหรอ? สำหรับคุณ มันเป็นตัวเลขที่ยังไม่ยาวเท่านิ้วก้อยคุณเลยรึเปล่า?”
ซุนอิ่งซูแปลกใจ แทบจะถูกไอ้หมานี่โกรธจนจะเป็นลม ทำไมพูดเข้าข้างแบบนั้นล่ะ? คนเขาจะขโมยเงินไปนะ ไหงถึงได้ช่วยเขาพูด?
ผู้จัดการเจิ้งเองก็พูดเรียบๆกับซุนอิ่งซูว่า “เขาพูดไม่ผิด สำหรับคุณเงินยี่สิบล้านดอลลาร์มันไม่มากจริงๆ ถ้าไม่ยอมสูญเสียทรัพย์สินสักหน่อย ถ้าอย่างนั้นผมก็จะดำเนินการแจ้งความแล้ว ถึงตอนนั้นคุณก็จะมีคดีติดตัว เขาก็ต้องติดคุก ผมคิดว่า...คุณคงไม่อยากเห็นเรื่องพวกนี้หรอกนะ?”
ฉีเติ่งเสียนเกาหัว พูดว่า “ไม่ใช่... พวกนายถูกเล่นงานจนอ่วมขนาดนี้ ไม่สู้กล้าอีกนิด เอาเงินมากกว่านี้อีกหน่อยล่ะ?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...