เศรษฐีนีท่านหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านข้างถึงกับพ่นไวน์ที่อยู่ในปากออกมา เพราะเธอได้รู้ว่าฉีเติ่งเสียนไม่ได้รังเกียจที่เธอมีเงินมากมายเลย แต่เกลียดที่เธอโกงน้อยเกินไป
ทราบดีว่าพระอัครสังฆราชฉีวิธีหาเงินต้องมีหลักการ เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะเอาเงินจากเขาอย่างไร้เหตุผล!
ถึงอย่างไรเขาก็ได้รับการปลูกฝังจากทนายจางซานมาเป็นระยะเวลานาน ทำสิ่งใดควรต้องมีเหตุผลที่เหมาะสม
คุณหลอกเอาทองจากชั้นมูลค่า 20 ล้านหยวน ถ้าฉันให้คุณชดใช้ 20 ล้านหยวน มันสมเหตุสมผลหรือไม่ สมเหตุสมผลมาก!
สีหน้าของผู้จัดการเจิ้งซีดลงทันที และเพื่อนของเขาเหล่านั้นต่างมองหน้ากันไม่รู้จะทำเช่นไรดี ไม่กล้าถอนหายใจเลยด้วยซ้ำ
หลิวปิงเว่ยก็ประหลาดใจเล็กน้อยและกระแอมพร้อมพูดว่า "คำพูดของคุณฉี คุณได้ยินแล้วใช่ไหม "
ผู้จัดการจิ้งพูดอย่างตะลึงงันว่า "คนที่ถูกทำร้ายคือผมนะครับ ได้รับความเสียหายก็คือผมนะ นี่มันช่าง"
ฉีเติ่งเสียนกล่าว " นี่มันสมเหตุสมผลนะ! คุณมารบกวนเวลาทานข้าวของพวกเราแล้วยังมาข่มขู่หลอกเอาเงินของผมอีก ผมให้คุณชดใช้ตามราคานี้ ไม่ได้อย่างงั้นเหรอ"
พอพูดเช่นนี้ คุณลองคิดดูว่าสมเหตุสมผลมากขนาดไหน!
ผู้จัดการเจิ้งคิดไม่ถึงเลยว่าตนเองต้องการเงินจากฉีเติ่งเสียนและซุนอิ่งซูกลับไม่ได้เลยสักบาท กลับกันตอนนี้เขาต้องการเงินจากฉัน!
ตอนนี้เขาถึงได้รู้แล้วว่าทำไมฉีเติ่งเสียนถึงได้บอกว่าเงินที่เขาต้องการน้อยเกินไป ให้เขาเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
ที่แท้ทุกสิ่งทุกอย่างก็รออยู่ที่นี่!
ผู้จัดการเจิ้งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ว่าหลิวปิงเว่ยเป็นหัวหน้าพรรคไผ่เขียวอยู่ที่นี่
เขาจะไปกล้าโวยวายได้อย่างไร
แน่นอนว่าหลิวปิงเว่ยที่เอามือไขว้หลังนั้นกำลังมองผู้จัดการเจิ้งอย่างเหยียดหยามและกล่าวว่า " ถูกต้องแล้ว คุณรบกวนเวลาทานข้าวของเขา แถมยังอยากจะหลอกเงินเขา ก็สมควรที่จะชดใช้ เมื่อพวกเราเจรจาสมเหตุสมผลแล้ว คุณเขาต้องการเท่าไหร่ ก็ชดใช้มาเท่านั้น!"
ผู้จัดการเจิ้งกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า "แต่ว่าผมไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นครับ "
เขาเป็นผู้บริหารระดับสูงของชิปแห่งผึ่งไหล แต่ชิปผึ่งไหลไม่ใช่ตระกูลเขาเป็นผู้สร้าง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหาเงินเลี้ยงชีพได้ 20 ล้านหยวนภายในคราวเดียว ให้เวลาเขาหน่อย อาจจะยังพอมีความหวัง
ถึงอย่างไร ไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถเอาเงินมากมายขนาดนั้นออกมาใช้ได้ตลอดเวลาอย่างตระกูลเซียงซานจี้
" คุณไม่มีเงิน แต่ว่าเพื่อนของคุณน่าจะมีเงินนะ ไม่มีเงินก็ยืมไม่ได้หรือ" หลิวปิงเว่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ
ในความเป็นจริงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้นทำให้เขารู้สึกอับอายมาก วันนี้มีคนทำให้ฉีเติ่งเสียนรู้สึกขุ่นเคือง แน่นอนว่าเขาต้องทำอะไรสักหน่อย
ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ หัวหน้าพรรคไผ่เขียวอย่างเขาสำหรับฉีเติ่งเสียนแล้วเกรงว่าจะตกอันดับจริง ๆ
ฉีเติ่งเสียงนกล่าว " ดีเลย ไม่มีเงินก็ยืมสิ!"
ผู้จัดการเจิ้งกล่าวด้วยสีหน้าซีดเซียวว่า "ผมเกรงว่าจะคืนไม่ไหวครับ "
ฉีเติ่งเสียงนกล่าว " ใช้ความสามารถมายืมเงิน ทำไมต้องคืนด้วยล่ะ!"
เพื่อนเหล่านั้นของผู้จัดการเจิ้งร่างกายเริ่มสั่นเทา พวกเขารู้สึกว่าคำพูดนี้พูดเกินไปแล้ว
หลิวปิงเว่ยโบกมือไปมาแล้วพูดด้วยท่าทางนิ่งงันว่า "วันนี้คุณต้องนำทองคำ 20 ล้านหยวนชดใช้ให้กับคุณฉี ไม่อย่างนั้นพวกคุณไม่สามารถออกจากห้องอาหารนี้ได้! "
" แน่นอนว่าถ้าหากพวกคุณไม่ยินยอมล่ะก็ ลองดูก็ได้นะ ลองดูคำพูดของหัวหน้าพรรคไผ่เขียนอย่างฉันนี้ สำคัญหรือไม่ "
"ให้เวลาพวกคุณ 10 นาที ตอนนี้สามารถระดมเงินได้แล้ว ชดใช้มาเดี๋ยวนี้"
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนมีสีหน้าถอดสี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...