หลิวปิงเว่ยไม่อยากรบกวนช่วงเวลาดีๆ ของฉีเติ่งเสียนกับคุณนายกลุ่มธุรกิจต่อไปอีก ด้วยเหตุนี้ จึงได้คำนับและกล่าวอำลา
ฉีเติ่งเสียนขอให้เขาระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย หลังจากนั้นก็พบว่าคำพูดนี้ของตนเองนั้นเปล่าประโยชน์ ก็เพราะว่า หลิวปิงเว่ยนั้นระมัดระวังอย่างมากจริงๆ ตอนที่จากไป เขาจึงพบว่า เจ้าหมอนี่ได้จัดบอดี้การ์ดสิบกว่าคนเอาไว้อย่างลับๆ แล้ว
คาดว่า จากเหตุการณ์นั้นที่อาคารจิ่วเทียน ทำให้เขาตระหนักได้ถึงวิกฤตการณ์และความระมัดระวังเช่นกัน
ฉีเติ่งเสียนตามซุนอิ่งซูขึ้นรถไป โดยไม่ต้องถามว่าจะไปที่ไหน คุณนายกลุ่มธุรกิจจะจัดการให้เอง
เขารู้สึกว่าสิ่งที่สบายใจที่สุดในการอยู่กับซุนอิ่งซูก็คือตนเองไม่ต้องกังวลอะไร ความสามารถในการเป็นอิสระของคุณนายนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องพูดถึง กระทั่ง บางครั้งเขาก็นอนโดยไม่ต้องขยับเคลื่อนไหว และคุณนายก็อาสาทำเองโดยสมัครใจ
คุณนายกลุ่มธุรกิจเพลิดเพลินกับการเสพสุขมาโดยตลอด โดยปกติแล้วหากต้องการพักที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เธอมักจะซื้อวิลล่าล่วงหน้าเอาไว้หลังหนึ่งเสมอ
ในสายตาของคนอื่น นี่เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร สิ้นเปลืองเงินทอง แต่ทว่า สำหรับซุนอิ่งซูแล้ว มันกลับเป็นความสุขในการใช้ชีวิต
เธอบอกว่า ตนเองเกิดมาบนโลกใบนี้ ไม่ใช่เพื่ออดทนต่อความยากลำบาก ไม่ใช่เพื่อเสียสละ แต่เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก พระจันทร์เต็มดวงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว พบเจอเรื่องราวที่น่าสนใจ พบเจอคนที่น่ารัก เงินนั้นได้มาก็ใช้ไป ถึงแม้จะใช้เพื่อเลี้ยงดูพระอัครสังฆราชฉี ก็ไม่เป็นไร!
"เรื่องของชิปได้รับการจัดการแล้ว ต่อไป คุณยังมีปัญหาอะไรอีกไหม? ฉันจะได้ช่วยจัดการให้คุณทั้งหมดเลย" หลังจากตามคุณนายกลุ่มธุรกิจกลับมาที่วิลล่าแล้ว หลังจากดื่มกาแฟดำที่เธอบดเองไปหนึ่งแก้ว ฉีเติ่งเสียนก็เอ่ยถามขึ้นมา
"อย่างอื่นสามารถจัดการได้ เพียงแต่ว่าฉันกำลังมีปัญหาเล็กน้อยกับการเปิดโรงงานที่นั่นของพวกคุณ" ซุนอิ่งซูกล่าว
ฉีเติ่งเสียนเอ่ยถาม : "หมายความว่ายังไง?"
ซุนอิ่งซูกล่าวว่า : "ฉันเสนอเงินเดือนขั้นพื้นฐานไป 8,000 จากนั้นยังเพิ่มค่าประกันต่างๆ เข้าไปอีก แต่ว่า กลับถูกนัดเจรจา มีผู้ประกอบการตำหนิว่าฉันให้เงินเดือนสูงเกินไป ซึ่งไม่เอื้อต่อความมุมานะของหนุ่มสาวประเทศของคุณ ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงจำใจลดเงินเดือนลงเป็น 4,500 แต่ยังคงถูกเพ่งเล็งอยู่ เพียงแค่สินค้าเกิดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ก็จะถูกขยายใหญ่ขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ช่างน่าปวดหัว!"
ฉีเติ่งเสียนตกตะลึง และกล่าวว่า : "ทำไมล่ะ?"
ซุนอิ่งซูผายมือออก และกล่าวว่า : "ฉันให้พวกเขาทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง ฉันคิดว่าฉันก็เป็นนายทุนที่เลวที่สุดในโลกแล้ว.....ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงอยากชดเชยให้สักเล็กน้อย จึงออกคำสั่งให้มีการทำงานล่วงเวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมงต่อหนึ่งสัปดาห์ อีกทั้งยังเพิ่มค่าล่วงเวลาเป็นสามเท่าตามหลักสากลด้วย"
"เพราะเรื่องนี้ จึงมีเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญในการบริหารมานัดเจรจากับฉัน เพื่อขอให้ฉันลดสวัสดิการลงมา....."
"เมื่อฉันลดสวัสดิการลง ก็เริ่มเกิดการไม่ลงรอยกันกับบรรดาพนักงาน"
"ตอนนี้ ทำให้ฉันไม่สามารถจัดการให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพึงพอใจได้เลย"
หลังจากได้ฟังฉีเติ่งเสียนก็คิดไตร่ตรอง และพยักหน้า พร้อมกล่าวว่า : "อย่าเพิ่งร้อนรนใจไปเลย ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเถอะ"
เกี่ยวกับเรื่องประเภทนี้ เขาช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
ซุนอิ่งซูกล่าวด้วยรอยยิ้ม : "ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง"
ฉีเติ่งเสียนเอ่ยถาม : "คุณว่ามาเถอะ"
ซุนอิ่งซูกล่าว : "ฉันรู้สึกว่าชุดชั้นในของตนเองคับไปเล็กน้อย ช่วยฉันคลายตะขอเสื้อออกหน่อยสิ....."
เอ่อคือ.....
พระอัครสังฆราชฉีในฐานะที่เป็นสุภาพบุรุษมีคุณธรรม เมื่อคุณนายซุนมีความประสงค์เช่นนี้ แน่นอนว่าคงไม่ดีที่จะนิ่งดูดาย จึงทำได้เพียงใช้สองมืออันสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง สอดเข้าไปใต้ชุดเดรสของเธออย่างคุ้นเคย จากนั้นก็เกิดเสียงดังแกรกดังทอดออกมา.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...