ภาพยนตร์เรื่องนั้นที่ได้กำลังจะจัดแสดงสวีเค่อผู้กำกับของภาพยนตร์กล้ามากที่จะให้น้องสาวเป็นนางเอกให้ และเร็วๆนี้ที่ทางเมืองผึ่งไหลและมืองไทเปจะร่วมกันจัดแสดงเทศกาลภาพยนตร์ที่ค่อนข้างใหญ่กำลังจะจัดขึ้น
ดังนั้นสวีเค่อผู้กำกับภาพยนตร์จำนําทีมผู้จัดมาเยี่ยมเยือนที่เมืองจิงเต่า
ภาพยนตร์เรื่องนั้นฉีเติ่งเสียนก็เคยดูแล้ว รู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่อนี้ค่อนข้างดี นอกจากนี้ทางทีมผู้สร้างหลักก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรม ดังนั้นผลลัพธ์ของภาพยนตร์จึงออกมายอดเยี่ยมตามธรรมชาติ
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า "ซื่อไห่" เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของหม่าไจ๋ขั้นตอนแต่ขั้นตอนที่จะก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าใหญ่ของคลับ และเป็นเรื่องราวความรักที่แสนเศร้าของเขากับสาวคนงานซึ่งรับบทโดยเจียงเชิงเย่ว์
เมื่อรับชมและฟังดูเนื้อเรื่องแล้วจะรู้สึกว่าล้าเชยมาก หลายตอนในเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องก็ดูล้าสมัย แต่สวีเค่อใช้อารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเพื่อสร้างความรู้สึกของคนยุคสมัยใหม่มาเล่า จึงทำให้ภาพยนตร์กินใจในตอนที่รับชม ดังนั้นผู้ชมที่ชมภาพยนตร์ที่เคยชมจึงให้คะแนนอย่างสูง
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดราวกับดอกไม้หลายร้อยดอกบานสะพรั่ง ถ้าไปชมที่โรงภาพยนตร์ก็จะรู้สึกและได้รับการสอนให้รู้จักการบุคคลที่ดีหนึ่งจนต้องทำอย่างไร "เหมืองมนุษย์" เดิมทีภาพยนตร์เรื่องนี้มันแทบไม่น่ามีสนใจเลย
“อย่าเพิ่งพูดถึงตอนนี้ ฉันกำลังจะขึ้นเครื่องบิน ฉันจะโทรหาคุณเมื่อฉันไปถึงเมืองไทเป” เจียงชิงเย่ว์พูดอย่างมีความสุข
เธอรู้สึกว่าขอแค่ได้มองเห็นฉีเติ่งเสียน อย่างนั้นเเธอก็มีความสุขมากแล้ว ความคิดที่ฝุดขึ้นในใจเรียบง่ายมากเช่นกัน
เดิมทีฉีเติ่งเสียนอยากจะไปรับที่สนามบิน แต่เมื่อได้รับโทรศัพท์จากซุนกั๋วฉวินอีกครั้ง ชายชราได้เชิญเขาให้มาทานอาหารเย็นที่คฤหสน์ตระกูลซุนและถือโอกาสที่จะพูดคุยเรื่องบางอย่าง
ฉีเติ่งเสียนรู้อยู่แล้วว่าซุนกั๋วฉวินต้องการตามหาเขา ถ้าอย่างนั้นจะต้องมีเรื่องบางอย่างแน่นอนและยากที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงตอบรับไปโดยตรง
ชี่ ปิงเซียนรู้ว่าหากซุนกั๋วเฉวียนต้องการตามหาเขา เขาต้องมีเรื่องจริงจังที่ต้องทำ และเป็นการยากที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงเดินตรงไป
"ท่านอาจารย์" เมื่อซุนชิงเสวียนที่เห็นฉีเติ่งเสียน เขายังคงปฏิบัติตามมารยาทของลูกศิษย์ด้วยความเคารพ เมื่อปรียบเทียบกับหวงชงที่เป็นลูกศิษย์ที่จ้องแต่จะเอารัดเอาเปรียบ เขาควรให้เคารพอาจารย์และเคารพให้มากขึ้นกว่านี้
ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจและตบที่ไหล่ของซุนชิงเสวียนและรู้สึกว่าลูกศิษย์ที่เขารับไว้มีความเคารพเท่าลูกศิษย์อย่างซุนชิงเสวียนนี้คงจะดี
หยางกวนกวนแล้วคนหนึ่ง คิดจะรังแกอาจารย์ทําลายบรรพบุรุษตลอดทั้งวัน
เฮ่อตั่วเหลียนคนหนึ่ง คิดทั้งวันว่าจะเป็นอาจารย์ของลิ่วหยินเอง
ยิ่งไปกว่านั้นหวงชง ยังคิดอุกอาจ เขายังเอาเปรียบจริงๆ!
ซุนเจี้ยนเฉินก็อยู่ด้วย เดิมทีไม่อยากจะทักทายฉีเติ่งเสียน แต่ทนความกระตือรือร้นของอีกฝ่ายไม่ได้ เมื่อเขาเห็นก็ตะโกนทักทายกลับไปว่า "เจิงซุน ช่วงนี้สบายดีไหม"
ภายใต้การมองของซุนชิงเสวียนที่จ้องไปยังซุนเจี้ยนเฉิน ทำได้เพียงแต่ก้าวเดินไปข้างหน้า แล้วยกมือแสดงความเคารพ
ฉีเติ่งเสียนและพูดว่า "คุณทวด ยังสบายดีใช่ไหม"
ฉีรอเติ่งเสียนใช้มือใหญ่ๆของเขาตบเข้าไปกลางหลังของซุนเจี้ยนเฉินด้วยและพูดว่า "พอได้แล้ว อีกสองสามวันจะมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากคุณเเละคุณยังต้องชื่นชมอีกด้วย"
ซุนเจี้ยนเฉินพูดว่า "ท่านมีเรื่องอะไรมาสั่งผมหรอ แน่นอนว่าผมไม่กล้าไม่ทํา"
ในเวลานี้ซุนชิงเสวียนจึงสัมผัสเคราของตัวเองอย่างพอใจและพยักหน้าเล็กน้อย รู้สึกว่าหลานชายของซุนเจี้ยนเฉินคนนี้ไม่เลวและดูท่าทางมีความรู้มาก
ในหัวใจของซุนเจี้ยนเฉินเกือบจะตกเลือดแล้ว ถ้าไม่มีคุณชายคนที่สองช่วยห้ามเลือดไว้ เขาคงจะหยิบมีดให้ผ่าแตงโมออกมาให้ฉีเติ่งเสียนดู "เพื่อจะได้ไม่โกรธที่ยังเรียกชายหนุ่ม"
"เตือนนะ คุณซุน ผมอาจจะอยากทำให้คุณตายได้นะ" ทันทีที่ฉีเติ่งเสียนเห็นซุนกั๋วฉวิน เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างกระตือรือร้นและกล่าวทักทายเขา
“คุณอย่าทำแบบนี้ ยิ่งคุณทำแบบนี้ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหนาว!” ซุนกั๋วฉวินพูดด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
ฉีเติ่งเสียนมีสีหน้าท่าทางที่น่าเกลียดก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า "หมายความว่าอะไร ถึงใบหน้าจะร้อนแต่ตดติดก้นมันเย็นเหรอ คุณมีอคติอะไรกับมากมายขนาดนี้เหรอ พ่อของผมก็คือเป็นพ่อของผม ผมก็เป็นผม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...