มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1576

“ไอ้เจ้าหลี่เหยานี่ รู้แต่แรกแล้วก็ยังทำ?”

เจียงชิงเย่ว์ส่ายหัว รู้สึกดูถูกเหยียดหยามและรังเกียจนิสัยของชายคนนี้ รู้สึกว่าเขาสูญเสียความเป็นตัวตนฐานะมนุษย์ ไปทำงานให้กับปีศาจอย่างเจียเผิง มันช่างน่าขยะแขยงจริงๆ

เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะกลายเป็นเป้าหมายของศัตรู และพวกเขาใช้เล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้เพื่อกำหนดเป้าหมายมายังเธอในงานเทศกาลภาพยนตร์ บีบให้ฉีเติ่งเสียนโกรธ

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดว่า “ทำไมวันนี้วันเดียวถึงได้รู้เรื่องมากมายขนาดนี้ ถ้าฉันรู้ว่าขายาวของนายกลิ่นหอมขนาดนี้ ฉันคงจับกินตั้งแต่อยู่เมืองโมตูแล้ว...”

ใบหน้าของเจียงชิงเย่ว์หัวร้อนขึ้นทันทีกับประโยคนั้น ปล่อยหมัดออกไปด้วยความโกรธแล้วพูดว่า “เป็นคนที่ดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลยนะ สักวันฉันจะฉีกปากนายเป็นชิ้นๆแน่!”

เธอตระหนักว่า ตัวเธอต้องพยายามมากขึ้นไม่เช่นนั้นเธอจะกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีและเป็นที่แสวงหาผลประโยชน์จากอีกฝ่าย

แน่นอนว่าเมื่อตกเป็นเป้าสายตา ก็คงเป็นเรื่องยากที่หลีกเลี่ยงง่ายๆ

“อย่างน้อยเราต้องมีอิทธิพลระดับประเทศ ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร” เจียงชิงเย่ว์แอบตัดสินใจแล้วว่าการจะเลือกบทบาทภาพยนตร์ระดับสูงที่จะเข้าร่วมในปีนี้และพยายามจะเดินไปยังต่างประเทศ เพื่อขยายอิทธิพล

ผู้มาใหม่แต่ความทะเยอทะยานเช่นนี้

สำหรับเจียงชิงเย่ว์การเดินทางไปยังผึ้งไหลไม่สามารถเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ แต่ก็ยังพอฝืนผ่านมาได้ สองสามวันมานี่เธอใช้เวลากับแฟนหนุ่มของเธอ และเธอก็ได้พบกับปู่อย่างซุนกั๋วฉวิน ซึ่งมันมีความหมายต่อเธอมากๆ

ในรุ่งขึ้นเธอต้องกลับไปที่เซียงซานพร้อมกับทีมของสวีเค่อ

สวีเค่อบอกเธอว่าไม่ต้องห่วง เธอไม่จำเป็นต้องรีบกลับไปทำงาน เธอสามารถอยู่ผึ่งไหลได้อีกสองวัน แล้วจึงค่อยกลับมาเริ่มงาน

แต่เจียงชิงเย่ว์ยืนกรานที่จะกลับไปโดยบอกว่าเธอต้องการศึกษาบทภาพยนตร์ที่ได้อย่างละเอียดและทำงานของตัวเธอให้ดี สวีเค่อชื่นชมความเป็นมืออาชีพและความทุ่มเทเช่นนี้

ฉีเติ่งเสียนไม่ใช่คนประเภทที่ชอบกักตัวอยู่กับที่ เขาจึงไปส่งทีมงานที่สนามบินเพื่อบอกลาเกาเหมย

“เฮ้ อยู่ข้างนอกเป็นหมาหยอกไก่ให้มันน้อยๆลงหน่อย!” เจียงชิงเย่ว์กล่าวอย่างเคร่งขรึมกับฉีเติ่งเสียนก่อนออกเดินทาง

ฉีเติ่งสียนหัวเราะเยาะและพูดว่า “กำลังล้อเล่นอะไร? ฉันเป็นผู้ชายที่น่ารักที่สุดในจงไห่และเป็นผู้ชายที่มีจิตใจอบอุ่นที่สุดในจิงเต่า ฉันจะทำตัวเป็นหมาหยอกไก่ได้ยังไง!”

เจียงชิงเย่ว์จ้องมองและพูดด้วยความโกรธ: “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านิสัยของคุณเป็นอย่างไร แม้ว่าฉันจะไม่พูด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันโง่! มันไม่สำคัญหรอกว่าแค่เล่นๆ สนุกๆ แต่ถ้าอยากได้ใครมาแทนที่ฉัน ฉันจะตายไปพร้อมกับคุณแน่”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดว่า: “เธอเป็นแฟนคนเดียวของฉัน จะมีใครจะแทนที่เธอได้ยังไงกัน? อีกอย่างมีเพียงรองเท้าส้นสูงของเธอเท่านั้นที่จะเหยียบรถได้ ...”

รอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏบนใบหน้าของเจียงชิงเย่ว์เธอรู้สึกว่าเธอมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาก... ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าในภาพยนตร์หรือในชีวิตจริง ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จสูงมักจะมีแรงดึงดูดจากผู้หญิงข้างนอก บางเวลาที่พูดคุยธุรกิจก็ต้องทำตัวให้เข้าถึงง่าย

เธอแอบรู้สึกว่าฉีเติ่งเสียนเป็นคนเช่นนั้น

“หลังจากส่งแฟนสาวคนเดียวของฉันไปแล้ว ต่อไปฉันต้องเป็นหนุ่มหล่อหน้าใสที่ได้รับการสนับสนุนจากภรรยาของแชโบล!” ฉีเติ่งเสียนคิดกับตัวเองในขณะที่เขามองดู เจียงชิงเย่ว์เข้าไปในทางเดินขึ้นเครื่องและโบกมืออย่างจริงจัง

เจียงชิงเย่ว์เป็นแฟนสาวคนเดียวของเขา ส่วนคนอื่นๆ เป็นเลขานุการ คู่รัก และประธาน เธอจะแทนที่พวกเธอเหล่านั้นได้อย่างไร

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าเกาเหมยโง่จริงๆ ที่เรื่องแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ?

ทันทีที่เขาเดินออกจากอาคารสนามบิน ฉีเติ่งเสียนก็ได้ยินเสียง “แอ็กซี่บาร์” หันศีรษะไป เห็นภรรยาของแชโบลที่ไม่รู้ว่ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มองเขาพร้อมกับกอดอกยิ้มเย็น

แบบนี้ วิธีนี้ก็จะเป็นไพ่เด็ดที่จะช่วยชีวิตเขาไว้!

“ฉันได้รับข่าวว่าฮิเดโกะ นาคากาว่า ผู้นำกองทัพเฟยแห่งเจียเผิงกั๋วได้มาถึงผึ่งไหลแล้วและมีความใกล้ชิดกับผู้คนในสมาคมงูดำ เขาอาจจะสร้างปัญหา” ซุนอิ่งซูพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา .

“กองทัพเฟย... มีข่าวลือว่าฮิเดโกะ นาคากาว่ามีความสัมพันธ์สวาทกับหมาป่าโลภ แต่ผมไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า?” ฉีเติ่งสียนพึมพำอย่างครุ่นคิด

ตอนหมาป่าโลภพบหลานโหยวครั้งแรก เขาทำตัวเหมือนลักกินขโมยกิน แต่ตอนนั้น... ฮิเดโกะ นาคากาอายุแค่สามสิบเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับรสนิยมของผู้ชายคนนี้

ฉีเติ่งเสียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงโทรหากัปตันแล้วพูดว่า “ไปเอาตัวไหลฟูจากจิงเต่ามาที่ผึ้งไหล ฉันมีเรื่องต้องให้เขาทำ เข้าใจไหม?”

ความเป็นจริงชื่อเสียงของหมาป่าโลภยังพอมีชื่อเสียงอยู่มากในบรรดาองค์กรก่อการร้าย เพราะเขาก็ทำสิ่งที่น่าสะเทือนใจอย่างมากในตอนนั้น แถมยังมีผู้คนมากมายต่างก็บูชาเขาและมองว่าเขาเป็นไอดอล

แม้ว่าฉีเติ่งเสียนจะเริ่มเป็นผู้ก่อการร้ายมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ให้ค่าผู้ชายคนนี้เลย แถมยังให้เขาเป็นเพียงสุนัขเฝ้าบ้าน...

“ฝั่งของจิ่วเหิงเสียหายมากพอแล้ว ถึงเวลาให้เขากลับมาแล้ว” เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉีเติ่งเสียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาอีกครั้งและโทรหาผู้คุมเกา

ทันทีที่เกาเย่รับสาย เขาไม่ได้พูดคุยกับฉีเติ่งเสียน แต่กลับพูดว่า: “คุณจิ่ว โปรดสงบสติอารมณ์แปปนึง...เลิกไล่ตีผมได้แล้ว ผมสู้ไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมต้องรับสายรองหัวหน้าใหญ่!”

จิ่วตะคอก: “ให้ตายเถอะ รองหัวหน้าใหญ่มันก็แค่คนสารเลว! ทำกับผู้หญิงแบบไหนก็ปฏิบัติต่อท่านจิ่วอย่างฉันแบบเดียวกัน โยนเข้าคุกแล้วก็ขังลืม”

ฉีเติ่งเสียนเต็มไปด้วยความคิดที่มืดมนหลังจากได้ยิน ควรให้บทเรียนแก่จิ่วเฮิ่งผู้เฒ่าคนนี้ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงถูกทำลายเสียหายแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง