แน่นอนว่าทักษะการหลอกลวงผู้คนของฟู่เฟิงหยุนนั้นอยู่ในอันดับต้นๆ เพราะยิ่งอายุมากก็ยิ่งมากประสบการณ์ ทั้งยังอยู่ในตำแหน่งที่สูงเช่นนี้ก็ย่อมต้องเป็นจิ้งจอกเฒ่า
ยิ่งไปกว่านั้นการมีส่วนช่วยในกิจการของผึ่งไหลก็เป็นเรื่องที่ดี ใครก็ตามที่เก็บความรู้สึกเกี่ยวกับประเทศบ้านเกิดเอาไว้ก็อาจจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย
นอกจากนี้ฟู่เฟิงหยุนยังให้คำสัญญาที่สำคัญขนาดนี้แล้ว คำที่เขาพูดไปไม่กี่คำนั้น ทำให้แม้แต่คนที่รู้สึกขัดข้องใจก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือ
ฉีเติ่งเสียนสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เอามากๆ ถึงอย่างไรเรื่องแบบนี้ก็มีแต่จะต้องเสียเงิน!
“เอาละๆ คุณอย่าบ่นเลย มันเป็นสิ่งที่คุณหลี่อยากจะช่วย ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นฝ่ายไปติดต่อนักธุรกิจที่รักชาติหลายๆ คนด้วย” ฟู่เฟิงหยุนกล่าวพลางยิ้มเล็กน้อย
เขาไม่ใส่ใจคำพูดที่ไม่น่าฟังของฉีเติ่งเสียนเลยแม้แต่น้อย เขาใช้ชีวิตมาจนอายุป่านนี้แล้ว เป็นเรื่องง่ายมากที่จะเลือกฟังจะเฉพาะสิ่งที่ตัวเองอยากได้ยิน สิ่งที่ไม่อยากได้ยิน ถ้าลอยเข้าหูมันก็จะถูกกรองออกไปเอง
“จะว่าไปก็เป็นเธอนี่แหละที่ออกความคิดเห็นขึ้นมา เราคิดว่าหลังจากที่มันเป็นไปได้แล้ว เราถึงจะเริ่มผลักดันไปข้างหน้า” ฟู่เฟิงหยุนกล่าวเสริม
ฉีเติ่งเสียนได้ยินดังนั้นก็เหมือนกับคิดอะไรขึ้นมาได้และรู้สึกซาบซึ้งใจมาก เป็นอย่างที่คิด แม้ว่าหลี่อวิ๋นหว่านจะอยู่ต่างประเทศ เธอก็ยังคอยคิดถึงเขาอยู่ตลอด ทั้งยังมีความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
ฟู่เฟิงหยุนกล่าวต่อไปว่า “หลงเหมินกับสมาคมหงกำลังจะจัดงานชุมนุมสัมพันธ์ที่โมตู การที่คุณมาอย่างกะทันหันทำให้สถานการณ์สงบลงได้”
ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “ปกติงานชุมนุมสัมพันธ์จะจัดที่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ”
ฟู่เฟิงหยุนกล่าวว่า “มิสเป็นคนออกเงินสำหรับงานชุมนุมสัมพันธ์ครั้งนี้ ดังนั้นงานจึงต้องจัดที่โมตูเป็นธรรมดา!"
ฉีเติ่งเสียนแอบด่าฟู่เฟิงหยุนว่าเลวอยู่ในใจ นึกไม่ถึงว่าจะโกงเงินของเซี่ยงตงชิง!
“ยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้เซี่ยงกรุ๊ปยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก การออกเงินช่วยเหลือทั้งสองสมาคมจัดงานชุมนุมสัมพันธ์ บางทีอาจจะดึงเอายักษ์ใหญ่จากต่างประเทศมาเป็นพวกได้ก็ได้ และนั่นถือเป็นเรื่องดี” ฟู่เฟิงหยุนกล่าว
มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องการขุดหลุมอย่างบ้าคลั่งของเซี่ยงตงชิง แม้แต่ฟู่เฟิงหยุนก็ยังรู้สึกว่าเซี่ยงตงชิงก้าวไปไกลเกินไปมากจนนำไปสู่ปัญหาทางการเงินของเซี่ยงกรุ๊ป
ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เซี่ยงตงชิงก็เคยติดต่อชาวยิวและคิดจะดึงทรัพย์สมบัติเงินทองของยิวมา!
เพียงแต่พวกศัตรูนั้นแข็งแกร่งและมีอำนาจมากเมื่ออยู่ที่เมืองหลวง ให้พวกหัวหน้าออกโรงทันทีและห้ามไม่ให้ทรัพย์สมบัติของยิวเข้าไปอยู่ในมือของเซี่ยงกรุ๊ป
การแสดงครั้งนี้ทำได้สมจริงมาก
สมาชิกจากทั่วทุกมุมโลกจะเข้าร่วมงานชุมนุมสัมพันธ์ที่จัดโดยหลงเหมินกับสมาคมหง แม้แต่บุคคลสำคัญก็ได้รับเชิญมาร่วมงานเช่นกัน
หลังจากพูดคุยกับฟู่เฟิงหยุนจบแล้ว ฉีเติ่งเสียนก็วางสายโทรศัพท์และพูดกับซุนอิ่งซูว่า “ทางเมืองหลวงยังคงให้ความสำคัญกับท่าทีของตระกูลซ่งเป็นอย่างมากและคิดวิธีรับมือไว้อย่างแข็งขันแล้ว ที่หลงเหมินกับสมาคมหงจัดงานชุมนุมสัมพันธ์ที่โมตู พวกนั้นตั้งใจว่าจะใช้โอกาสนี้เพื่อสมคบกับบอสจากสมาคมใหญ่ในโลก ร่วมกันสร้างแรงกดดันให้ตระกูลซ่ง...”
ซุนอิ่งซูได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจอย่างโล่งอกและบอกว่า “เป็นอย่างที่คิด ผู้อาวุโสฟู่เฟิงหยุนเองก็ไม่ใช่ว่าจะให้อะไรฟรีๆ นี่ถือเป็นความคิดที่ดีเลย!"
สินทรัพย์ของตระกูลซ่งมีกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก และสมาชิกของหลงเหมินกับสมาคมหงก็มีอยู่ทั่วโลกเหมือนกัน ถ้าทุกอย่างได้รับการเจรจาอย่างเหมาะสมในงานชุมนุมสัมพันธ์ สมาคมใหญ่ทั้งสองก็จะทำให้เกิดแรงกดดันเหมือนกัน ตระกูลซ่งเองก็ต้องคิดถึงเรื่องนี้ด้วย
ทว่าความขัดแย้งระหว่างสมาคมหงกับฉีเติ่งเสียนก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก แม้แต่คนใหญ่โตของหลงเหมินก็ยังวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่พอใจ
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนกับการช่วยเหลือฉีเติ่งเสียน เพราะมันเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของผึ่งไหลด้วย
“แต่หลงเหมินกับสมาคมหงจะช่วยเรื่องนี้ได้จริงหรือ? พวกนั้นยอมลงแรงด้วยเหรอ?” ซุนอิ่งซูยังคงสงสัยเรื่องนี้
“ได้สิ ถึงยังไงก็มีคนติดต่อกับนักธุรกิจที่รักชาติจากทั้งในและต่างประเทศ พวกเขาจะกดดันหลงเหมินกับสมาคมหง แบบนี้ใครจะกล้าเสี่ยงต่อต้านโลก” ฉีเติ่งเสียนกล่าว
ฉีเติ่งเสียนเองก็เคยถูกเกมนี้ทำให้โมโหจนลำบาก เล่นจนจอยเกมส์พัง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เกมนี้เท่านั้น ผลงานทั้งหมดของมิยาซากิล้วนน่ารังเกียจ จุดเริ่มต้นเต็มไปด้วยเจตนาที่ไม่ดี
ฉีเติ่งเสียนปลอบใจหลิวจงเหยียนซุ่ย จากนั้นจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ โล่งไปที...
“เอาล่ะ คลี่คลายซะที คุณเข้าใจผมผิด ที่จริงแล้วเป็นเพราะเธอเอาชนะเกมไม่ได้ ก็เลยมาโทษผม!” ฉีเติ่งเสียนบอก
“ฉันไม่เชื่อ ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นจะเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆ หรือ?” ซุนอิ่งซูเอ่ยพลางยิ้มเยาะ
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองเล่นเกมหมากรุกกับเธอสักรอบ แล้วจัดการเธอให้ราบทั้งกระดาน ลองดูให้รู้ไปสิว่าเธอจะฆ่าคุณไหม” ฉีเติ่งเสียนแบะปากและเอ่ยยิ้มๆ
ศิลปะการต่อสู้ยังสู้คนไม่ได้ จ้าวหงซิ่วเป็นส่วนที่มีชีวิตชีวาของจ้าวหงหนี จ้าวหงหนีเป็นคนที่สง่า สุภาพและสงบเสงี่ยม แทบจะไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใคร แต่คนอย่างจ้าวหงซิ่วเป็นกลับปากเสีย ชอบเล่นเกมแต่เล่นห่วย ไม่ถูกใจอะไรหน่อยก็ลงไม้ลงมือ
ซุนอิ่งซูยอมเชื่อคำพูดของฉีเติ่งเสียนอย่างเสียมิได้ ถึงอย่างไรหลิวจงเหยียนซุ่ยก็ถูกทำร้ายเหมือนกัน คนอย่างปรมาจารย์หลิวจงเหยียนซุ่ยจะเป็นคนเสเพลไม่ได้เรื่องได้อย่างไร?
“แล้วก็อีกอย่าง ผมบอกคุณไปหลายรอบแล้วนะว่าผมเป็นผู้ชายอบอุ่น จะมาเรียกผมว่าคนเสเพลได้ยังไง” ฉีเติ่งเสียนตำหนิติเตียนคุณนายซุน
“เหอะๆ งั้นเห๊อะ?” ซุนอิ่งซูมองเขาด้วยโดยไม่แสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้าและรู้สึกว่าสองคำนี้ดูเหมาะที่จะพูดดี
“รู้ก็ดีแล้ว!” เพราะคุณนายซุนไม่ได้พูดเสียงดัง ฉีเติ่งเสียนจงไม่ได้ยินหางเสียงและพยักหน้าตอบรับ
ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าการใช้ชีวิตแต่ละวันช่างยากลำบาก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรนนิบัติดูแลภรรยารวยๆ ด้านหนึ่งก็ถูกบีบคั้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ อีกด้านหนึ่งก็เอาแต่สงสัยในตัวเอง นี่มันจะเกินไปแล้ว
อืม... ช่างเจ็บปวดจริงๆ... ดูเฉินหยูในชุดว่ายน้ำเพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจสักนิดดีกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...